“ก้าวไกล” จี้ ส.ว. ไฟเขียวประชามติ แก้รัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ

20 พ.ย. 65

“โรม” จี้ ส.ว. ไฟเขียวประชามติ แก้รัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ลั่นเรียกร้องดำเนินคดีตำรวจควบคุมฝูงชน ทำร้ายสื่อ-ประชาชน อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล

วันที่  20 พ.ย. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงประเด็นที่พรรคก้าวไกล ขอให้มีการทำประชามติ เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ เพื่อแทนที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ซึ่งได้ผ่านการลงมติเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ไปแล้วจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และปัจจุบันได้ถูกบรรจุเข้าในระเบียบวาระของวุฒิสภา ซึ่งกำลังจะพิจารณาในวันพรุ่งนี้ ( 21 พ.ย.) ว่า ตนในฐานะโฆษกของพรรคก้าวไกล ที่ได้เสนอญัตตินี้ เรามีความตั้งใจให้การทำประชามติครั้งนี้ทำขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งที่จะมาถึง เพื่อให้การเข้าคูหาของประชาชนเกิดความสะดวก ทำพร้อมกันในคราวเดียว และการจัดการลงประชามติที่หากเกิดขึ้นพร้อมกันกับการเลือกตั้งก็จะประหยัดเงินภาษีของพี่น้องประชาชน

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ทราบว่าการดำเนินการเช่นนี้ ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ของประเทศของเรา อาจจะมีวุฒิสมาชิกบางคนที่คิดว่าการดำเนินการเช่นนี้อาจจะติดขัดในเรื่องของระเบียบกฎหมาย จึงต้องการเสนอว่าควรจะมีการตั้งกรรมาธิการเพื่อศึกษาเรื่องนี้ก่อน ซึ่งอาจจะยาวนานถึง  60 วัน หากเกิดขึ้นจริง จะทำให้โอกาสที่จะจัดประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้งเป็นไปได้ยาก และจะส่งผลให้มีค่าใช้จ่าย ทั้งที่เราสามารถประหยัดได้ รวมถึงการดำเนินการประชามติเช่นนี้ก็เป็นกระบวนการที่สอดคล้องตามนัยยะของศาลรัฐธรรมนูญที่หากต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะต้องมีการถามประชาชนก่อน ทั้งนี้ในประเด็นปัญหาข้อกฎหมายที่อาจจะเกิดขึ้นนั้น สามารถที่จะดำเนินการแก้ไข เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้

หากญัตตินี้ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภา ดังนั้นเราจึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะอ้างกฎระเบียบใดๆมาขวางกั้นความต้องการที่จะสร้างรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน ตนและพรรคก้าวไกลหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การพิจารณาญัตติดังกล่าวของวุฒิสภา จะดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงที่ประชาชนหวัง

นอกจากนี้นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนกรณีการสลายการชุมนุมกลุ่มราษฎรหยุด APEC จนนำไปสู่การจับกุมผู้ชุมนุมจำนวน  25 คน และมีบางส่วนที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ยังพบกรณีของการประทุษร้ายโดยเจ้าหน้าที่ต่อสื่อมวลชนที่เข้าไปทำข่าวในพื้นที่ พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการสอบสวนเรื่องนี้ เพื่อหาคนที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายประชาชน อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล และหยุดการใช้กฎหมาย เพื่อกลั่นแกล้งประชาชน ต้องมีการยกเลิกข้อกล่าวหาที่กำลังดำเนินคดีต่อประชาชน

ข้อเสนอนี้ไม่ใช่มีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น  แต่รวมไปถึงพนักงานอัยการที่มีอำนาจในการมีคำสั่งไม่ฟ้อง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 142 ที่จะทำความเห็นเสนอต่ออัยการว่าเห็นควรไม่สั่งฟ้อง ส่วนอัยการมีอำนาจตามมาตรา 143 ที่จะออกคำสั่งไม่ฟ้องได้ สุดท้ายรัฐบาลควรรับฟังประชาชน ไม่ควรปล่อยให้มีการใช้อำนาจเพื่อทำร้ายประชาชนอย่างที่เป็นอยู่ นอกจากนี้ตน ในฐานะกรรมาธิการการกฎหมายฯ ของสภาผู้แทนฯ จะขอนำกรณีการสลายการชุมนุมครั้งนี้ รวมถึงการละเมิดสิทธิอื่นๆ ในระหว่างการประชุมเอเปคเข้าพิจารณาในกรรมาธิการฯ โดยเร่งด่วน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม