อลวนทั้งวัด! เจ้าภาพ ปะทะ สัปเหร่อ ปมเงินเชิงบาตรหาย

18 พ.ย. 65

เจ้าภาพโวย! เข้าแจ้งตร. หลังจัดงานศพญาติแล้วเงินเชิงบาตรหายไป สอบถามสัปเหร่ออ้างไม่ได้เอาไป สุดท้ายยอมคืนให้

วันที่ 18 พ.ย.65 เรื่องอลเวงที่เกิดขึ้นที่วัดใหม่เรไรทอง ต.ถนนหัก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ หลังจาก น.ส.ณัฐธยาน์ อายุ 42 ปี ชาวอ.นางรอง เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.วิวัฒน์ นามอาษา รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.นางรอง อ.นางรอง กล่าวหานายรวีวิชญ์ อายุ 30 ปี ชาวบ้าน ต.ถนนหัก อ.นางรอง ลูกชายนายชูเดช อายุ 57 ปี หรือลุงน้อย สัปเหร่อประจำวัด ฐานลักทรัพย์

โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา นายชูเดช และนายรวีวิชญ์ สองพ่อลูกซึ่งทำหน้าที่เป็นสัปเหร่อของวัด ได้ลักทรัพย์เป็นเงินสด 5,890 บาท และพระเครื่องอีกจำนวนหนึ่งซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวใส่ถุงกระดาษวางอยู่หลังโลงศพเพื่อให้เป็นเชิงบาตร จนกระทั่งมีวาทะต่อกันสองฝั่ง เพราะฝั่งสัปเหร่อได้เอาทรัพย์สินมาคืนไว้กับพนักงานสอบสวนแล้วทั้งหมด เพราะไม่ทราบว่ามีทรัพย์สินมีค่าอยู่ในกระเป๋า

น.ส.ณัฐธยาน์ เจ้าภาพงานศพเล่าว่า วันฌาปนกิจศพตนไม่ทราบว่าเป็นพิธีแบบไหนแต่จะต้องเอาทรัพย์สินของผู้ตายใส่ให้เป็นเชิงบาตร ตนก็ทำตาม โดยใส่เงินใสกระเป๋าจำนวน 5,890 บาท เอาใส่ถุงกระดาษซึ่งในนั้นยังมีพระเครื่องของผู้ตายอีกจำนวนหนึ่งด้วย

หลังจากเสร็จพิธีงานศพตนหาถุงกระดาษนั้นไม่เจอจึงสอบถามสัปเหร่อ แต่ได้รับคำตอบว่าไม่เห็นไม่ทราบ เมื่อซักไปหลายคำกลับท้าให้ไปแจ้งความจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.นางรอง ในคดีลักทรัพย์ สุดท้ายเอาพระเครื่องมาคืนและเงินสดทยอยให้อีกจนครบ 5,890 บาท ไม่เคยบอกว่าเมื่อเอาของมาคืนแล้วจะไม่เอาผิด ถึงเวลานี้จะต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวสอบถามนายชูเดช อายุ 57 ปี สัปเหร่อที่ทำพิธีในวันนั้น เล่าว่าปกติเชิงบาตรเจ้าภาพส่วนใหญ่จะให้สัปเหร่อเอาไปเผาในโลงศพหรือเอาไปทิ้งถังขยะ วันนั้นตนให้ลูกชายซึ่งเป็นผู้ช่วยเอาเชิงบาตรคือถุงกระดาษที่วางอยู่หลังโลงศพเอาไปทิ้ง สุดท้ายมาต่อว่าตนแบบเสียหาย

เมื่อตนไปสอบถามลูกชายพบว่าถุงกระดาษยังอยู่ จึงเอามาคืนเจ้าของงานครบถ้วน การแจ้งความดังกล่าวถือว่ารุนแรงเกินไปทั้งที่เกิดจากความเข้าใจผิดและทรัพย์สินยังอยู่ครบ ยืนยันทำงานเป็นสัปเหร่อมานานกว่า 30 ปี ไม่เคยคิดเอาทรัพย์สินของใคร

ขณะที่นายรวีวิชญ์ อายุ 30 ปี ลูกชายสัปเหร่อ บอกว่าปกติตนจะมีหน้าที่เก็บเชิงบาตรทุกงาน เอาไปเผาบ้างเอาไปทิ้งบ้าง หรือหากเป็นสิ่งของมีค่าที่เจ้าภาพจะมอบให้วัดตนก็เอาไปมอบให้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจเอาทรัพย์สินของเจ้าภาพไป หากผิดพลาดตนก็ขอโทษด้วย สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ตนยังไม่รู้ เพราะเขาแจ้งความแล้ว

 

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส