ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ดำเนินการตรวจสอบเอาผิดผู้เกี่ยวข้องการซื้อขายหุ้น MORE ผิดปกติกว่า 7 พันล้านบาท ทำให้เกิดความเสียหายกว่า 4 พันล้านบาท
จากกรณีเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมาบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น MORE ที่มีการซื้อขายหุ้นผิดปกติ ส่งผลให้เกิดราคาดิ่งฟลอร์ โดยราคาหุ้นปิดที่ระดับ 1.95 ลบไป 0.83 บาท หรือ 29.74% มูลค่าการซื้อขาย 7.16 พันล้านบาท หลังจากมีการตั้งคำสั่งซื้อ ATO หุ้น MORE ที่ระดับราคา 2.90 บาทต่อหุ้นจำนวน 1,500 ล้านหุ้น จากนั้นราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนราคาต่ำสุดของวัน ดังนี้หากผู้ขายไม่สามารถชำระราคาค่าหุ้นได้ ภาระจ่ายทั้งหมดจะตกอยู่กับโบรกเกอร์ที่ต้องเป็นผู้จ่ายเงินแทนให้กับผู้ขาย
ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจาก 11 บริษัทหลักทรัพย์ ที่ได้รับผลกระทบจาก กรณี หุ้น MORE จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พลตำรวจตรี พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อตรวจสอบเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้น MORE ดังกล่าวในลักษณะผิดปกติ หลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า พบความผิดปกติในการซื้อขายหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) (MORE) และให้หยุดพักการซื้อขาย (SP) เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยแจ้งว่าหุ้น MORE มีการซื้อขายในวันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผิดปกติไปจากช่วงก่อนหน้า โดยมีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 7,142 ล้านบาท ในจำนวนนั้นสร้างความเสียหายแก่บริษัทหลักทรัพย์ หลายรายมีมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท
ต่อมาได้มีตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เข้าร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งชุดพนักงานสอบสวนขึ้นมาดำเนินการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ทันที
