สาวเก็บของเก่าระทม หนุ่มหล่อขับเก๋งสะกดรอยขืนใจข้างกองขยะ แฉเคยชักโชว์ 2 ครั้ง จิตตกกลัวติดโรค

จากกรณี น.ส.หนู (นามสมมติ) อายุ 37 ปี อาชีพเก็บของเก่าขาย แจ้งความกับตำรวจว่า ถูกชายหน้าตาดี อายุประมาณ 40 ปี ทรงผมสกินเฮด รูปร่างท้วม ผิวขาว สูงประมาณ 170 ซม. ขับรถเก๋งมา และก่อเหตุข่มขืน ที่บริเวณกองขยะ ริมถนนสุขุมวิท กม.154 เส้นทางพัทยา-สัตหีบ หมู่ 1 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

วันที่ 3 มิ.ย. 62 น.ส.หนู บอกว่า ก่อนหน้านี้คนร้ายเคยขับรถติดตามตน ขณะเก็บของเก่า เมื่อถึงจุดที่ปลอดคนก็ควักอวัยวะเพศออกมาช่วยตัวเองให้ตนเห็นถึง 2 ครั้ง แต่ที่ผ่านมาไม่ได้แจ้งความ ซึ่งครั้งนี้คาดว่าคนร้ายได้ขับรถติดตามตนมา เมื่อสบโอกาสจึงลงมือข่มขืน ส่วนที่ไม่กล้าวิ่งหนีหรือส่งเสียงดัง เพราะเห็นคนร้ายพกอาวุธปืนมาในรถด้วย จึงกลัวจะถูกฆ่าปิดปาก ขณะนี้ตนรู้สึกกังวลใจมาก เพราะเกรงว่าคนร้ายจะนำเชื้อร้ายทางเพศสัมพันธ์มาสู่ตน

ล่าสุด ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่บริเวณกองขยะที่เกิดเหตุ พบว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่มีบ้านเรือนประชาชน หรือร้านค้า โดยสังเกตหาจุดที่กองขยะกระจัดกระจายคล้ายกับมีการต่อสู้ พบว่ามีจุดหนึ่งที่ห่างจากทางเข้ากองขยะประมาณ 5 เมตร มีการนำไม้กระดานมาวางเรียงกันใต้ต้นไม้ประมาณ 2-3 แผ่น

นายญา (นามสมมติ) ผู้ดูแลคนงานก่อสร้าง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร บอกว่า ตนไม่ทราบว่ามีเหตุการข่มขืนเกิดขึ้น และไม่ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน หรือเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาเป็นวันหยุด รถยนต์สัญจรผ่านไปมาค่อนข้างเยอะ และเสียงดัง

ที่ผ่านมา บริเวณนี้มักจะมีคนเก็บของเก่าวนเวียนมาหาของที่กองขยะบ่อยครั้ง มากันประมาณ 2-3 คน และจะมาเฉพาะช่วงเช้าถึงบ่ายเท่านั้น จะไม่มาในช่วงเย็น เนื่องจากบริเวณนี้ไม่ค่อยมีไฟส่องสว่าง ทางจึงค่อนข้างมืดและเปลี่ยว แต่ช่วงประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ตนไม่ค่อยเห็นคนเก็บของเก่าเลย เนื่องจากบริเวณนี้คนงานก่อสร้างชอบนำเศษปูน เศษหิน และเศษทรายมาทิ้งประจำ นอกจากนี้ ตนมาดูแลพื้นที่ข้างกองขยะได้ประมาณ 1 ปี ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่พอมาทราบว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นก็กลัว แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

ส่วนความคืบหน้าด้านคดี หลังเกิดเหตุเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่องรอยการต่อสู้และถุงยางอนามัยใช้แล้วที่คนร้ายทิ้งไว้ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อส่งพิสูจน์คราบอสุจิ ล่าสุด รู้ตัวคนก่อเหตุแล้ว เนื่องจากผู้เสียหายได้จดจำใบหน้า และป้ายทะเบียนรถคนร้ายอย่างชัดเจน ตำรวจจึงเตรียมออกหมายเรียกมาสอบปากคำ