พ่อคาใจ ลูกสาววัย 4 ขวบ ดับ หลังเป็นไข้ อาการหนัก เข้ารักษาตามอาการในรพ.

8 พ.ย. 65

พ่อร้องเพจดัง หลังลูกสาววัย 4 ขวบ เป็นไข้ อาการหนัก เข้ารักษาในโรงพยาบาล หมอจัดยารักษาตามอาการก่อนทรุดอีกครั้งส่งรพ. ดับ

จากกรณีที่ เมื่อวานนี้ (8 พ.ย. 2565) มีผู้ใช้เฟซบุ๊กร้องเลียนผ่านเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2” โพสต์ข้อความระบุว่า “ #ร้องเรียนตรวจสอบ ถึงมือหมอ ได้รับยารักษาตามอาการ แต่ทำไมน้องยังเสีย สื่อสังคมช่วยตรวจสอบ สอบถามให้คุณพ่อน้องได้หายสงสัยด้วย พิจิตร เกิดเหตุสุดสลด พ่อร้องลูกสาว 4 ขวบเป็นไข้หวัดส่งรักษา รพ.แล้วเสียชีวิต โดยพ่อรายนี้ เล่าว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา พาลูกสาววัย 4 ขวบป่วยเป็นไข้หวัดเลยพาไปรักษาที่คลินิกใกล้บ้าน จากนั้นหมอได้ฉีดยาให้ และจัดยารักษาตามอาการก่อนจะให้กลับมาบ้าน

เพจดัง ลูกดับ

ต่อมา 5 พ.ย. ลูกสาวอาการดีขึ้น จนกระทั่ง วันที่ 6 พ.ย.ลูกสาวอาการเริ่มทรุดขึ้นมาอีก ตัวร้อน อาเจียน จึงตัดสินใจพาไปรักษา รพ.รัฐแห่งหนึ่ง ห่างจาก บ้านขับรถประมาณ 5 นาที หมอให้เจาะเลือดบอกอาการปกติ ให้ยากลับมารักษาตามอาการที่บ้าน พอช่วงเย็นลูกเริ่มมีอาการทรุดหนัก ตัวร้อน อาเจียน เลยพาลูก กลับไปหาหมออีกครั้งตอนเวลา 16.40 น.  หมอบอกน้ำตาลในเลือดสูงถึง 300 และเสียชีวิตตอน 17.11 น. พ่อติดใจขั้นตอนการรักษาของหมอจึงไปลงบันทึกประจำวัน เมื่อคืนตอน 2 ทุ่มไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้พ่ออยากให้ รพ.ชี้แจง ถึงขั้นตอนการรักษาทำไมลูกถึงเสียชีวิต ถ้าลูกซึ่งลูกอาการหนัก แต่หมอไม่ยอมส่งตัวรักษาอาการที่มีเครื่องมือที่ดีกว่า จนสุดท้ายลูกสาวเสียชีวิต ตอนนี้ศพน้องรับกลับมาที่บ้านประกอบพิธี/พ่อสงสัยลูกเสียชีวิตเพราะเป็นไข้เลือดออกหรือเปล่า ?”

จากโพสต์ดังกล่าวทำให้มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็น ระบุว่า “เคยป่วยไข้สูง 39.5 หมอ คนนึงให้กลับมารักษาตัวที่บ้านปกติ แค่มีไข้เอง แต่หมออีกคนนึงเดินผ่านมาเป็นหมอใหม่ด้วย หมอดูๆแล้วสั่งตรวจเลือด ปรากฏว่าเรามีอาการซีดจนถึงระดับอันตรายต้องให้เลือดด่วน ความดันต่ำมาก เตรียมปั้มหัวใจกันเลย สายเต็มไปหมด หมอ ร.พ.เดียวกัน ร.พ รัฐ,เราเห็นใจเจ้าหนี้โรงบาลรัฐนะ คนไข้เยอะ แพทย์และพยาบาลมีไม่เพียงพอ ในประเทศไทย แพทย์ 1 คน ต่อคนไข้ 2000 คน เชื่อว่าหมอและพยาบาลทำงานได้เต็มที่แล้ว ที่นี้ที่ขั้นตอนการรักษา ว่าผิดพลาดตรงไหน ปัญหาทุกอย่างมีทางออกค่ะ หากแพทย์และพยาบาลมีความผิดจริง ละเลยการปฏิหน้าที่จริงก็สมควรถูกลงโทษ ผู้สูญเสียก็ได้รับการเยียวยาต่างกันไป ไม่มีใครอยากให้เกิดการสูญเสีย เป็นกำลังใจให้ทั้ง2 ฝ่ายนะคะ”

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส