นิมนต์ "พระ-ชี" กลับสำนักสงฆ์ หลัง ต้องหนีออกไปเพราะชายป่วยจิตปั่นป่วน

8 พ.ย. 65

นิมนต์ "พระ-แม่ชี" กลับสำนักสงฆ์ หลังต้องหนีออกไปเพราะถูกชายป่วยจิตปั่นป่วน ชาวบ้านสนธิกำลังนำตัวส่งรักษา ครอบครัวหวังหายเป็นปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ชาวบ้านแอบถ่ายคลิปไว้ได้ ขณะที่ชายไทยอายุประมาณ 37 ปีกำลังนั่งดื่มกาแฟพรางด่าทอ และส่งเสียงเอะอะโวยวายคล้ายคนป่วยทางจิตภายในหอฉันท์ของสำนักสงฆ์เขาเป็ดน้ำ หมู่ที่11 ตำบลน้ำผุด อำเภอละงู จังหวัดสตูล (เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2565) ที่ผ่านมา

และไม่ใช่ครั้งแรกที่ชายคนดังกล่าวเข้าไปในวัดก่อกวนพระที่อาพาตและพระที่จำวัดภายในกุฏิ โดยเฉพาะยามวิกาลสร้างความหวาดวิตกและกังวลจนทำให้พระที่มีจำนวน 5 รูปภายในวัด และแม่ชีอีก 2 ท่าน ต้องแยกย้ายกันไปอยู่ตามวัดต่างๆ ทั้งในและต่างจังหวัด ทำให้ญาติโยมที่ทราบข่าวต่างพากันไม่สบายใจและไม่ต้องการเห็นชายคนดังกล่าวเพียงคนเดียวมาทำให้ที่พึ่งทางศาสนาของชาวบ้านต้องประสบกับปัญหาลักษณะนี้ เพราะความไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัยและไม่มีใครการันตีได้ว่าชายดังกล่าวจะไม่มาอาละวาดหรือคลุ้มคลั่งทำร้ายพระและแม่ชีอีก

สำนักสงฆ์

เรื่องนี้ทำให้ชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ชายคนดังกล่าวอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านใกล้กัน พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่รพ.สต.เชิญนายธวัช ช่วยเกตุ ปลัดอาวุโส อำเภอละงู ฝ่ายปกครองของอำเภอละงู มาร่วมกันหารือถึงแนวทางในการแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด เพื่อให้พระกับแม่ชีได้กลับเข้าสำนักสงฆ์และชาวบ้านกลับมาอยู่กับแบบปกติสุขอย่างเดิม รวมทั้งการนำตัวผู้ก่อเหตุซึ่งพ่อและน้าได้เข้าร่วมหารือในครั้งนี้ด้วย ทางครอบครัวเองก็ยอมรับว่าเกินความสามารถแล้วที่ทางบ้านจะจัดการเพื่อให้บุตรได้หายป่วย และเป็นคนดีคืนสังคมอย่างแท้จริง

และจากมติในที่ประชุมลงความเห็นให้มีการควบคุมตัวชายที่ป่วยทางจิตนำตัวเข้ารักษาตัวต่อยังรพ.ละงู หลังตรวจสอบพบว่ามีประวัติใช้ยารักษาอยู่ที่นั่น โดยสามารถใช้บัตรทองในการรับสิทธิ์ได้ ซึ่งทางครอบครัวไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองพร้อมกำลังอส. ได้ออกปฏิบัติการในทันที โดยขณะมุ่งหน้าไปที่พักของชายดังกล่าวและก็พบตัวเดินตากฝนริมถนนพอดี จึงนำตัวขึ้นรถส่งเข้ารักษายังรพ.ละงู อย่างเร่งด่วน โดยเจ้าตัวก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด

สำนักสงฆ์

พ่อและน้าชายของผู้ป่วยยอมรับว่าบุตรป่วยมานานหลายปี และยอมรับว่าเคยใช้สารเสพติดแต่ตอนนี้ไม่แน่ใจ และยาที่หมอให้มานั้นไม่ยอมกินมักมีการคลุ้มคลั่งชอบทำลายข้าวของภายในบ้าน การที่มาสร้างปัญหาที่สำนักสงฆ์ทางครอบครัวก็ทราบดี เคยเตือนว่าอย่าไปที่นั่นแต่เขาบอกว่าไปหาของกินเท่านั้น คุณพ่อยังยอมรับว่าตนเคยถูกลูกทำร้ายแต่ก็ไม่เคยทำร้ายคนอื่นหรือไปอาละวาดที่อื่น นอกจากที่บ้านและที่สำนักสงฆ์เท่านั้น

ซึ่งขณะนี้ ตนได้แยกกันอยู่คนละบ้านกับลูกเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยด้วยเช่นกัน เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นก็แล้วแต่ทางราชการจะดำเนินการ เพราะครอบครัวไม่มีความสามารถจะดูแลและควบคุม จึงอยากให้ช่วยบุตรและหลานของตนได้หายจากอาการป่วยทางจิตนี้เพื่อที่จะกลับมาเป็นคนดีคืนสังคม

นายธวัช ช่วยเกตุ ปลัดอาวุโสอำเภอละงู กล่าวว่า แนวทางการแก้ปัญหาในเรื่องนี้หลังผู้นำทั้งสองหมู่บ้าน ครอบครัว ได้รับทราบปัญหาร่วมกันและพร้อมให้มีการนำตัวชายที่ป่วยทางจิตไปรักษาตัวต่อยังรพ.ละงู ซึ่งมีประวัติการรักษาตัวอยู่นั้นในทันที เพื่อไม่ให้มาสร้างปัญหาก่อกวนพระและแม่ชีที่วัดอีก หลังจากนั้นให้ทางผู้นำหมู่บ้านได้นิมนต์พระและแม่ชีกลับสำนักสงฆ์อย่างเดิม เพื่อให้สำนักสงฆ์ไม่ร้างและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านเช่นเดิม

สำนักสงฆ์

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส