ฉะยับล่าจับ "เช็คโอรส" ห่ากระสุนหวิดถูกคน-รถพังยับ ลากไส้คนในคอนโดส่งซิกช่วยหนี (คลิป)

29 ต.ค. 65

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 65 เวลา 18.30 น. บริเวณกลางสี่แยกไฟแดง หน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางแค ถ.เพชรเกษม แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ได้มีเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบยิงสกัดยางรถยนต์คนร้ายคดียาเสพติด ทำให้รถยนต์ชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายคัน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

254901

เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นภารกิจการติดตามจับกุมคนร้ายของฝ่าย กก.สส.บก.น.7 ที่เฝ้าติดตามผู้ต้องหามานาน แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างติดตามขยายผลของ บก.น.7 ซึ่งทาง สน.หลักสอง ทำได้เพียงอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุครั้งนี้เท่านั้น

439404

ล่าสุดมีรายงานว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนทราบว่ามีกลุ่มผู้ต้องหากระบวนค้ายาเสพติกกระจายตัวอยู่ 4 จุด ได้แก่ คอนโดย่านเพชรเกษม บ้านพักย่านพุทธมณฑลสาย 1 บ้านพักย่านบางใหญ่ และบ้านพักย่านบางกรวย

502744

ทีมข่าวได้รับกล้องวงจรปิด 2 คลิป จับภาพขณะเกิดเหตุบริเวณถนน เรียงไล่กันเป็นลำดับ คลิปที่ 1 เห็นรถยนต์ฮอนด้า HRV สีขาว หมายเลขทะเบียน 8 กส 8407 กรุงเทพมหานคร ของคนร้ายขับไป โดยได้เกือบเบียดรถจักรยานยนต์สีแดง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบก็ได้วิ่งตามรถของคนร้ายไปติด ๆ พร้อมกับได้ยิงเสียงปืน ทำให้ชาวบ้านและแม่ค้าริมฟุตบาทต่างตกใจขวัญกระเจิง

181976

คลิปที่ 2 บริเวณหน้าร้านของนายอัศนินท์ ซึ่งเป็นบริเวณแยกไฟแดง รถของคนร้ายถูกรถคันข้างหน้าจอดติดไฟแดงขวางอยู่ จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด ก่อนที่รถคันที่ขวางอยู่จะเบี้ยงหลบ ทำให้รถของคนร้ายขับแทรกฝ่าไฟแดงหลบหนีไปได้

713179

เหตุการณ์สืบทราบว่าจุดใหญ่ที่คนร้ายหลบซ่อนอยู่ภายในห้องชั้นที่ 18 อาคาร A ของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ถนนเพชรเกษม จึงได้ขอหมายค้นและนำกำลังเข้าไปตรวจสอบ เพื่อเตรียมจับกุม นายวินิต เลิศพนาสิน หรือ อ้วน โอรส อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 674/2565 ข้อหาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมของกลางในห้อง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไซ์) จำนวน 1.65 กิโลกรัม ยาอี จำนวน 235 เม็ด ยา Happy Water จำนวน 6 ซอง ยาไฟท์ ไฟท์ จำนวน 140 เม็ด และรถกระบะ 1 คันอยู่ลานจอดรถของคอนโด ส่งพนักงานสอบสวนสน.เพชรเกษม

640784

ระหว่างการตรวจค้น นายชนทัต นทีมาศ หรือ เช็ค โอรส อายุ 29 ปี ไหวตัวทัน จึงได้ขับรถยนต์ฮอนด้า HRV สีขาว หลบหนีผ่านทางป้อมยามที่มีกำลังตำรวจชุดสืบสวนดักอยู่พยายามขับรถชนตำรวจจนต้องกระโดดหลบ อีกทั้งยังขับรถชนรถของชาวบ้านเพื่อแหวกทาง เนื่องจากขณะนั้นการจราจรค่อนข้างจะหนาแน่น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงพยายามใช้อาวุธปืนยิงสกัดไปที่ล้อจนแตกตามที่ปรากฏตามคลิป แต่ผู้ต้องหาก็ยังไม่ยอมหยุด และสามารถขับหนีไปได้ ก่อนที่จะไปทิ้งรถที่ริมถนนราชพฤกษ์

271183

โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้าย ป็นกลุ่มขบวนการเดียวกันได้บางส่วน และยึดของกลางเป็นยาเสพติดไอซ์ได้หลาย 10 กิโลกรัม โดยอยู่ระหว่างการขยายผลติดตามจับกุมกลุ่มผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป จากรายงานทราบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้เคยมีพฤติกรรมยิงตำรวจของกองกำกับการสืบสวนนครบาล 7 จนเสียชีวิตมาแล้วเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน

692061

พ.ต.อ.วงกต สุวรรณวัฒน์ ผกก.สน.หลักสอง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเหตุรถคนร้ายเฉี่ยวชนรถของประชาน พบมี รถยนต์ของประชาชนเสียหายทั้งหมดจำนวน 5 คัน พบว่ารถยนต์ทั้ง 5 คัน มีประกันชั้น 1 ทั้งหมด 4 คัน ประกันชั้น 2+ จำนวน 1 คัน ซึ่งมูลค่าความเสียหายต่ำสุดอยู่ที่ 6,000 บาท รถกระบะ สูงสุดอยู่ที่ 50,000 บาท Toyota CAMRY อีก 3 คัน คันละ 8,000 บาท

135163163966302061486171969706

วันที่ 29 ต.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าซอยเพชรเกษม 47/2 นางพร (นามสมมติ) ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น เล่าว่า ตนสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบมานานกว่า 4 วันแล้ว แต่ตนไม่ได้ใส่ใจอะไร จนกระทั่งเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 17.00 น. ตนก็สังเกตเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบอีกครั้งร่วม 10 นาย เดินไปเดินมาซุ่มตามร้านค้า และตามเสาไฟฟ้า

447212

เวลาประมาณ 17.20 น. รถเก๋งมีขาวก็ได้ขับออกมาจากคอนโดฯ แห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจึงได้กระโจนเข้าไปขวางและล้อมจับ ทำให้รถเก๋งคันดังกล่าวเสียหลักชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ และเซไปชนรถเก๋งคันอื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบได้ตะโกนโวยวายให้คนร้ายหยุด จากนั้นจึงได้ตัดสินใจยิงรถเก๋งสีขาวของคนร้าย โดยยิงไปที่บริเวณกระจกหลังและล้อหลัง

444054

ทั้งนี้ ตนทราบมาว่าคนร้ายได้มาเช่าห้องของคอนโดฯ ได้ระยะหนึ่งแล้ว เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบได้ขอเข้าไปล้อมจับและตรวจค้นห้องของคนร้าย ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกส่วนก็ได้ดักซุ่มรอคนร้ายอยู่อยู่ริมถนน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ตนจะเข้าใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่การยิงปืนในที่ชุมชมซึ่งไม่ได้กดปืนลงพื้นเพียงอย่างเดียว อาจทำให้ชาวบ้านถูกลูกหลง มีแม่ค้าริมทางคนหนึ่งคิดว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุช่างกลตีกัน แม่ค้าคนดังกล่าวก็ได้ไปเกาะรั้วเหล็กฟุตพาท พร้อมตะโกนว่า "อย่ายิงฉัน ๆ"

ซึ่งขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่อื่นเดินทางมาซื้อของริมทาง ซึ่งก็ได้แนะนำตนกับชาวบ้านว่าให้หลบ ระวังกระสุนกระดอนใส่ ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบแจ้งเหตุเบื้องต้นให้ชาวบ้านกับแม่ค้ารับทราบก่อนที่จะล้อมจับ ไม่ต้องกลัวข่าวจะหลุดถึงคนร้าย หรือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ควรเตรียมการกั้นพื้นที่ให้ดีกว่านี้ เพราะคนเดือดร้อนก็คือประชาชน

286314

นายเวช (นามสมมติ) ผู้เห็นคนร้ายนำรถมาทิ้ง เล่าว่า เมื่อวานนี้เวลาเกือบ 18.00 น. ตนเห็นรถเก๋งสีขาวขับมาด้วยความเร็ว ในสภาพรอบข้างพัง คล้ายกับไปชนอะไรมา อีกทั้งยางรถฝั่งซ้ายทั้งหน้าหลังยังยางแบน จากนั้นตนได้เห็นคนขับวิ่งลงมาจากรถ ซึ่งข่วงที่ตนหันไปมองทางอื่น คนขับคนดังกล่าวซึ่งทราบภาพหลังว่าเป็นคนร้ายคดียาเสพติดได้หายตัวไปแล้ว คาดว่าน่าจะโบกรถแท็กซี่หรือเรียกให้คนมารับตัวไป ขณะนั้นตนยังคิดในใจเล่น ๆ เลยว่าสงสัยจะเป็นคนร้ายค้ายาหนีตำรวจ จนในเวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เดินทางมาตรวจสอบ และยกรถเก๋งสีขาวคันดังกล่าวไป

607490

นายอัศนินท์ อุ่นพิพัฒน์ อายุ 39 ปี เจ้าของร้าน RS Motorsports เล่าว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 17.37 น. ตนนั่งอยู่ในออฟฟิศ จากนั้นตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แต่ขณะนั้นยังไม่ได้เอะใจ จนเสียงปืนนัดที่ 2 ดังขึ้น ตนจึงออกมาดูเหตุการณ์ ขณะนั้นตนเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบวิ่งกันมาล้อมรถเก๋งของคนร้าย ซึ่งเป็นจังหวะที่รถติดไฟแดง มีรถเก๋งขวางหน้ารถของคนร้ายอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยิงล้อรถของคนร้ายอีก 2 นัด บริเวณล้อหน้าและหลังซ้าย แต่น่าเสียได้ที่รถคันที่ขวางตกใจ จึงขยับรถทำให้มีช่องให้คนร้ายขับรถแทรกหลบหนีไปได้ ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็น่าจะจับคนร้ายได้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความตกใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะนี้ตนก็เชื่อว่าคนก็ยังผวาอยู่ จนคนที่เดินผ่านไปมาริมถนนได้วิ่งเข้ามาขอหลบภายในร้ายของตน ซึ่งโชคดีที่คนร้ายไม่มีอาวุธ และไม่มีการต่อสู้ตอบโต้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

435670

ด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น., รอง โฆษก บช.น. แถลงชี้แจงว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสืบเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ขออนุมัติศาลจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ บุกคุกทั้งหมด 4 จุด ได้แก่

853914

1.นายวินิต เลิศพนาสิน หรือ อ้วน โอรส อายุ 31 ปี จับได้ที่บ้านพักพุทธมณฑลสาย 1
2.นายชัยทัต นทีมาศ หรือ เช็ค โอรส อายุ 29 ปี ขับรถหลบหนี บริเวณคอนโดมมิเนียมถนนเพชรเกษม (พักภายในคอนโด) มีประวัติคดีเกี่ยวกับยาเสพติดตั้งแต่ปี 2558
3.นายประพัฒน์ และ นางสาวปวีณา (ภรรยา) หมู่บ้านพฤกษา 112 เป็นสมาชิกแก๊งโอรสเช่นกัน
4.123/19 หมู่ 5 ซอยทานตะวัน ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัว นายชัยทัต นทีมาศ หรือ เช็ค โอรส ซึ่งหากติดตามข่าวอยู่ก็ขอให้ออกมามอบตัว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่ายังหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สุดท้ายหากมีใครมีกล้องหรือหลักฐานเพิ่มเติม ก็ขอให้นำมามอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส