โต้พัลวัน! เด็กช่างยิงอริดับคารถเมล์อ้างถูกบุก อีกฝ่ายแฉขี่ตามด่าแต่ถูกยิงสวน - วงจรปิดเผยนาทีตาย (คลิป)

22 พ.ค. 62
จากกรณีเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 62 เกิดเหตุนักเรียนตีกันบนรถประจำทางสาย 123 ซึ่งกำลังแล่นผ่านป้อมควบคุมสัญญาณบริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 2 และมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนที่เด็กนักเรียน 2 ฝ่าย จะพากันวิ่งแตกกระเจิงหลบหนีไปคนละทิศละทาง โดยจังหวะนั้นเจ้าหน้าที่สังเกตเห็น นายหรั่ง นายยุทธ และนายทอม วิ่งลงจากรถประจำทางคันที่เกิดเหตุ เพื่อจะหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้ง 3 รายเอาไว้สอบสวนร่วมกับสหวิชาชีพที่ สน.หลักสอง โดยเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกกระสุนปืนเข้าที่อกข้างขวา 1 ราย ทราบชื่อคือ นายพลวัฒน์ ไชยชาติ อายุ 17 ปี (อ่าน : พ่อนร.ช่างยิงอริตายบนรถเมล์ ยันลูกคนดี ส่วนแม่เหยื่อไม่เชื่อ ลูกขี้ขลาดบุกถล่มจนถูกยิงตาย )
ตำรวจสอบสวนกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ
จากการสอบสวนนายหรั่งยอมรับสารภาพว่า ตนและนายยุทธกับนายทอม เป็นนักศึกษาแผนกช่างไฟฟ้า วิทยาลัยเทคโนโลยีโพลีกรุงเทพ ก่อนเกิดเหตุเพิ่งเลิกเรียนนั่งรถประจำทางจากหน้าสถาบันกำลังมุ่งหน้ากลับบ้านย่านกระทุ่มแบน โดยระหว่างที่นั่งอยู่บนรถ กลุ่มเด็กนักเรียนคู่อริ ทราบว่าเป็นเด็กช่างก่อสร้างดุสิต ประมาณ 10 คน ใช้รถจักรยานยนต์จำนวน 5 คัน พากันขี่รถมาจอดเทียบรถเมล์ขณะติดไฟแดง จากนั้นคู่อริได้พยายามวิ่งขึ้นมาบนรถ มีทั้งมีดและอาวุธปืน ตนจึงตัดสินใจชักปืนออกมายิงขู่ไป 1 นัด แต่ไม่คิดว่ากระสุนจะถูกคู่กรณี
ภาพจำลองเหตุการณ์
วันที่ 22 พ.ค. 62 ที่ สน.หลักสอง นายตั้ม (นามสมมติ) พ่อนายหรั่งมือยิง กล่าวว่า ตนทราบเรื่องเมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ภรรยาโทรศัพท์มาบอกว่าลูกชายไปก่อเหตุยิงผู้อื่น ทันทีที่ทราบตนแทบล้มทั้งยืน เพราะที่ผ่านมาตนพยายามเตือนลูกตลอดไม่ให้ไปมีเรื่องกับคนอื่น โดยลูกเคยถูกยิงเมื่อช่วงเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว หลังจากนั้นตนก็ให้ลูกรักษาตัวและไม่ให้ไปโรงเรียน แต่ก่อนเปิดเทอมที่ผ่านมา ลูกมาขอไปเรียนอีกครั้ง และยืนยันว่าจะตั้งใจเรียนเพื่อจะได้จบออกมามีงานทำ ตนจึงบอกให้ลูกพยายาม เพราะตนลำบากในการหาเงินส่ง ซึ่งตนไม่เคยทราบมาก่อนว่าลูกพกปืน หรือเอาปืนมาจากไหน โดยก่อนหน้านี้เคยเห็นลูกพกมีด แต่ก็เตือนว่าหากมีเรื่องให้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าไปปะทะเอง
นายตั้ม (นามสมมติ) พ่อนายหรั่ง
ส่วนตัวไม่ได้เข้าข้างลูก และไม่ได้บอกว่าลูกเป็นคนดี แต่ไม่คิดว่าลูกจะกล้าลงมือขนาดนี้ ซึ่งจากการสอบถาม ลูกเล่าเพียงว่าก่อนเกิดเหตุกำลังหลับสะลึมสะลืออยู่บนรถเมล์ เมื่อลืมตามาเห็นคู่กรณีถืออาวุธขึ้นมาบนรถแล้ว จึงคว้าปืนที่เพื่อนอีกคนถือยิงออกไปป้องกันตัว ไม่ได้ตั้งใจยิงใคร ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าความจริงเป็นอย่างไร และไม่ได้เชื่อตามที่ลูกชายเล่าทั้งหมด สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเสียใจเป็นอย่างมาก และอยากขอโทษฝั่งผู้เสียชีวิต เพราะเข้าใจในฐานะพ่อแม่หากเจอเหตุการณ์แบบนี้คงทำใจไม่ได้
นายเพชร (นามสมมติ) เพื่อนผู้เสียชีวิต
นายเพชร (นามสมมติ) เพื่อนของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่พอทราบว่าเพื่อนเสียชีวิตจึงไปที่โรงพยาบาล และได้สอบถามเพื่อนที่ไปกับผู้ตายทราบว่า กลุ่มผู้ตายได้ไปบ้านเพื่อนมาแล้วกำลังจะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เมื่อรถเพื่อนมาจอดติดไฟแดงตรงช่วงพุทธมณฑลสาย 2 ก็พบว่าคู่กรณีนั่งรถเมล์อยู่ หลังจากนั้นคาดว่าผู้ตายได้ลงจากรถจักรยานยนต์ แต่ยังไม่ทันได้ขึ้นไปบนรถเมล์ คู่กรณีก็ได้ชักอาวุธปืนยิงลงมาจากรถเมล์ ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร แต่ไม่มีใครรู้จักกับฝั่งคู่กรณี และตนก็ไม่ทราบว่าใครเริ่มก่อน แต่ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องกัน ตนเชื่อว่าถ้าต่างฝ่ายต่างมองกันก็จะดูออกว่าเรียนกันคนละสถาบัน และยอมรับว่าพวกตนก็มีเรื่องกับต่างสถาบันกันบ้าง อย่างไรก็ตาม อาวุธที่พกนั้นก็เพื่อป้องกันตัว
ภาพจากกล้องวงจรปิด
ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพกลุ่มฝั่งเพื่อน ๆ ของผู้เสียชีวิตประมาณ 10 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 5 คันผ่านกล้อง มีบางคันจอดรถและผู้ที่ซ้อนท้ายวิ่งลงจากรถ ถืออาวุธคล้ายมีดยาววิ่งกลับไปทางฝั่งที่รถเมล์จอด ก่อนจะวิ่งกลับมา และทั้งหมดก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ในกลุ่มนี้มีผู้เสียชีวิตที่ล้มลง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ