เมียสุดแค้น ถูกผัวเก่ายิงคางานศพพ่อ ลั่นไม่อภัยทำคนร่วมงานตาย จี้ ตร.จับยัดคุก (คลิป)

จากกรณีเกิดเหตุสลด นายธิพงษ์ วิเศษ อายุ 29 ปี ชาว อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ตามง้ออดีตภรรยาที่เลิกรากัน ในงานศพพ่อตา แต่เกิดทะเลาะกัน ตำรวจบ้านเข้าห้าม เจ้าตัวไม่พอใจชักปืนยิงเมียถูกท้ายทอยอาการสาหัส แล้วใช้ปืนกระบอกเดียวกัน ยิงตำรวจบ้านที่เข้าห้าม เสียชีวิตคาที่ ชาวบ้านในงานช่วยกันล้อมจับแล้วกระทืบซ้ำ ก่อนแจ้ง ตร.เข้าควบคุมตัว

วันที่ 21 พ.ค. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวรับสารภาพว่าเป็นอดีตสามีของ น.ส.บี (นามสมมติ) และได้มาร่วมงานศพของอดีตพ่อตา ก่อนจะมีการถกเถียงกับอดีตภรรยา และชักปืนไทยประดิษฐ์ยิงอดีตภรรยา 1 นัด แต่ไม่ตาย หลังอดีตภรรยาก็วิ่งหนี ทางด้านของนายทองแดง อ่อนทา อาสาตำรวจที่เสียชีวิต ได้เข้ามาห้ามปราม ตนก็หันไปยิงนายทองแดง และเข้าใจว่าอดีตภรรยามีชายหนุ่มมาติดพันอยู่ ซึ่งทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ

เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่า, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ครอบครองยาเสพติด (ยาบ้า) และเสพยาเสพติด

น.ส.บี ผู้บาดเจ็บ อดีตภรรยาของผู้ก่อเหตุ อายุ 35 ปี ถูกยิงบริเวณท้ายทอย เศษกระสุนหัวระเบิดยังฝังอยู่ และมีรอยฟกช้ำตามแขน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่พ่อตนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล กระทั่งตนได้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำธุระที่ต่างตำบลกับหลานของนายทองแดง อาสาตำรวจที่เสียชีวิต อดีตสามีตามมาเจอ ทำให้เข้าใจผิดว่าตนมีแฟนใหม่ และหึงหวง ทั้งที่เลิกกับตนไป 2 ปีแล้ว เมื่อตนกลับบ้าน ผู้ก่อเหตุก็ตามมาที่บ้าน และจะเอามีดปลายแหลมไล่แทงตน ขณะเดียวกันนายทองแดง ก็เข้ามาที่บ้านตนพอดี จึงได้พูดคุยห้ามปราม และไกล่เกลี่ยกับผู้ก่อเหตุ และเกิดการไม่พอใจกัน

จนกระทั่ง เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 16.00 น. อดีตสามีเรียกตนไปพูดคุยที่หน้างานศพของพ่อ และพยายามคาดคั้นให้ตนยอมรับว่ามีแฟนใหม่ ซึ่งตนก็ปฏิเสธ แต่เขาก็ไม่เชื่อพร้อมพูดว่า "มึงอยากตายหรอ" ก่อนจะชักปืนออกมาจ่อยิงตน แต่ปืนไม่ลั่น ตนจึงวิ่งหนีกลับเข้าไปในงานศพ ไปอยู่ใต้ถุนบ้าน อดีตสามีก็วิ่งตามตนมาที่ใต้ถุนบ้าน ตนจึงโดนยิงที่ท้ายทอยและล้มฟุบลงกับพื้น หลังจากนั้นอดีตสามีก็วิ่งหนีออกไป ตนก็ใช้แรงที่เหลือวิ่งหนีตายกระโดดข้ามกำแพงบ้าน แล้วไปแอบโทรหาตำรวจให้เข้ามาระงับเหตุ ทั้งนี้ ตนมองว่าเขาวางแผนมาก่อน และมีอารมณ์โมโหมาแล้ว แม้ว่าตนจะพูดอย่างไรเขาก็ไม่ฟัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนแทบใจสลาย และจะไม่อโหสิกรรมให้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนเคยให้โอกาสผู้ชายคนนี้มาหลายครั้งแล้ว เพราะเห็นแก่อนาคตของลูก แต่สุดท้ายก็ไปกันไม่ได้

นางพอง บริรักษ์ อายุ 45 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนยืนยันว่าพ่อเป็นคนดี ตอนเกิดเหตุพ่อของตนพยายามช่วยเหลือและระงับเหตุ แต่จากคำบอกเล่าก็รู้ว่าผู้ก่อเหตุวิ่งไล่พ่อตนภายในงาน แต่กลับไม่มีใครช่วยพ่อตน เพราะผู้ก่อเหตุมีปืน และอยากถามถึงผู้ก่อเหตุว่าตอนที่ตะลุมบอนแล้วพ่อตนล้มไป ทำไมต้องยิงซ้ำ ทำไมถึงไม่ยอมพูดกันดี ๆ ทั้งที่เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากการผิดใจกันระหว่างผัวเมีย แล้วทำไมต้องมาฆ่าพ่อตนด้วย พ่อตนแค่มาปฏิบัติหน้าที่ และไม่เคยมีเรื่องโกรธแค้นด้วย นางพอง กล่าวต่อว่า ตนไม่รู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อน ซึ่งตนรู้สึกโกรธมาก และอยากให้เขาโดนเหมือนที่พ่อตนโดน ไม่อยากให้เขามีชีวิตอยู่อีกแล้ว โดยตั้งแต่เมื่อวาน ตนก็ไม่ได้นอน เพราะยังรู้สึกเสียใจ อีกทั้งภาพเก่า ๆ ยังติดตาและคิดถึงพ่อตลอดเวลา

ด้านแม่ของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.บี โทรศัพท์มาหาลูกตน และบอกว่าพ่อของเขาเสียชีวิตแล้ว ให้ลูกชายตนไปช่วยงานศพ แต่ตนก็พยายามห้ามแล้วว่าไม่ต้องไป เพราะตัดขาดกันนานแล้ว อีกทั้งอีกฝ่ายก็เคยยืมเงินตนหลักหมื่นบาท และไม่คืน จนตนต้องเสียโฉนดที่ดินไป แต่ลูกชายก็ยืนกรานว่าจะไปช่วยงาน เพราะเคยเป็นพ่อตา ตนก็ฝากเงินทำบุญไป 500 บาท แต่เมื่อตนรู้ข่าวว่าลูกไปยิงคนตาย ตนก็เป็นลม รู้สึกเสียใจมาก