ผู้ใหญ่บ้านเป็นกาวใจ ช่วยแก้ปัญหาหลังเพื่อนบ้านจุดไฟ เพื่อนบ้านสุมควันไล่ยุงคอกแพะ ควันเข้าบ้านจนต้องย้ายหนี เพื่อนบ้านรับปากจะเบาควันไฟลง
จากกรณีเพจดัง อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2 ได้โพสต์คลิปและระบุข้อความว่า #เรื่องจากกลุ่ม ฝากเเชร์ด้วยค่ะ ขอวอนหน่วยงานที่พอจะช่วยได้มาช่วยเหลือหน่อยค่ะ #ทนพฤติกรรมเพื่อนบ้านสุดกร่างไม่ไหวจริงๆค่ะ นี่ค่ะ บรรยากาศที่บ้านเเสนจะสดชื่นมากจากเพื่อนบ้าน เเสนสุดกร่าง จุดทุกวัน สุมขี้เเพะทุกวัน ไม่มีความเกรงใจกันบ้าง วันนี้ทนไม่ไหวเลยเเจ้งให้ผู้ไหญ่บ้านไปตักเตือน เเต่ผู้ใหญ่บ้านติดภารกิจให้ผู้ช่วยมาเเทน เเต่เพื่อนบ้านสุดกร่างบอก ว่า “กูจะจุดทำไมละ กูมาอยู่ก่อน มึงมาทีหลัง เเถมยังใช้ไห้เราย้ายบ้านไปสิ ถ้ามึงทนไม่ได้ เเถมด่าว่า ปัญญาอ่อนทั้งครอบครัวเเค่นี้ต้องเเจ้งผู้ไหญ่บ้านด้วยเหรอ ด่าครอบครัวเราต่างๆนาเสียๆหาย เเบบนี้ก็มีด้วยเหรอค่ะ จนเราอยู่ไม่ได้ต้องหนีออกมานอนบ้านอีกหลัง เเต่คนที่น่าสงสารสุดๆ คือเเม่กับน้องต้องทนกับสภาพเเบบนี้ทุกวัน จนลูกสาวเราหายใจติดๆขัดๆ สงสารลูกมากเลยค่ะ สงสัยผู้ใหญ่บ้านจะจัดการไม่ได้เเล้ว อยากจะร้องเรียนมากเลยค่ะ เพื่อนบ้านเเบบนี้ไม่มีความเกรงใจกันเลยค่ะ เเถมตอนนี้ก็เอาอะไรต่ออะไรมาสุมให้เกิดควันไม่หยุดเลยค่ะ เสียดายเราไม่ทันได้อัดคลิปตอนที่เค้าด่าไว้ค่ะ อยากขอความกรุณาผู้รู้ช่วยด้วยค่ะ
ล่าสุดวันที่ 16 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดเหตุขึ้นที่ บ้านเลขที่ 91/2 หมู่ 15 ตำบลพระแท่น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี จึงได้ลงพื้นที่ไปพบกันผู้ที่โพสต์คลิปดังกล่าวคือ นางสาวอังศุมาริน พัฒนพร้อมสุข อายุ 32 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนที่ตนจะโพสต์คลิปดังกล่าวลงไปในเฟซบุ๊ค เนื่องจากเพื่อนบ้านได้จุดไฟเพื่อไล่ยุงและแมลงให้กับแพะที่เลี้ยงในคอกหลังบ้านจนเกิดควันไฟกระแสลมได้พัดควันไฟเข้ามาที่บ้านจนนอนไม่ได้ตนและลูกต้องย้ายออกไปนอนที่อื่น อีกทั้งตนเอง ลูกสาว และแม่ร่วมถึงน้องชายก็เป็นโรคภูมิแพ้ด้วย ล่าสุดก็เพิ่งพาลูกสาวไปหาหมอมาเนื่องจากหายใจติดขัด หมอระบุว่าเป็นพิษทางอากาศเนื่องจากได้สูดดมเข้าไปทุกวัน กระทั้งน้องชายตนได้เดินเข้าไปพูดคุยหาวิธีแก้ให้ควันไฟเบาลงแต่กับถูกต่อว่ากับมา ตนได้แจ้งไปทางผู้ใหญ่บ้านและได้ให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาพูดคุยแล้ว แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าได้ดำเนินการถึงไหนแล้ว ก็อยากจะวิงวอนทางสาธารณะสุขหาทางแก้ไขหรือไกล่เกลี่ย ตนก็ไม่ได้ห้ามให้เขาจุดไฟตนเข้าใจว่ามันคืออาชีพ เพียงแต่อยากจะให้มาร่วมหาทางแก้ไขปัญหานี้ตนก็พร้อมจะพูดคุยเพื่อหาทางออกทั้ง 2 ฝ่ายให้ดีที่สุด
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้พูดคุยนายแดง กรุดแก้ว (ลุงหนุ่ม) อายุ 58 ปี เพื่อนบ้านที่จุดไฟไล่ยุงในคอกแพะ บอกว่า เรามันบ้านใกล้เรือนเคียงกัน ตนก็อยู่มาตั้งแต่ดั้งแต่เดิมแล้วมีอะไรนิดๆหน่อยๆ ก็ต้องคุยกันได้ ตนเป็นเกษตรกร ตนทำกิน แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วก็ต้องช่วยกันแก้ไข แต่ก่อนเกิดปัญหามาตนก็ยังไม่เคยคุยกับเพื่อนบ้าน เพียงแต่พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านเท่านั้น ผู้ใหญ่บ้านก็บอกให้เบาควันไฟลงหน่อย ตนก็เพิ่งทราบเรื่องว่าเกิดปัญหาขึ้น ก่อนหน้านี้ตนจุดไฟสุมควันในคอกแพะเฉพาะช่วงเย็นเป็นเวลา 30 นาที หลังจากนั้นกลุ่มควันก็จะหายไป หลังจากนี้ก็ตนก็จะปรับปรุงให้ควันไฟที่จุดนี้เบาลง และยืนยันว่าตนไม่ได้กลั่นแกล้งแน่นอนเพราะตนเป็นเกษตรกร จะไปแกล้งเขาเรื่องอะไร
ด้านภัณฑิลา เมืองมูล อายุ 52 ปี แม่ของนางสาวอังศุมารินผู้ร้อง บอกว่า ตนได้คุยกับผู้ใหญ่บ้านและเพื่อนบ้านถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และคุยกันเข้าใจกันแล้วไม่มีปัญหาแล้ว ตนไม่อยากให้มีปัญหากับคนข้างบ้าน เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยเขาก็ช่วยดูแลเราได้ แต่ส่วนเรื่องควันไฟก็มีผลกระทบกับทางเดินหายใจเรามันก็มี โดยเพื่อนบ้านก็บอกว่าลดควันไฟให้น้อยลง ปัญหาดังกล่าวก็จะไม่เกิดขึ้นอีก
ต่อมานายปัญญา ประเปรียว ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 15 ตำบลพระแท่น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ได้ลงมาพูดคุยกับทั้งสองฝ่ายเพื่อหาข้อยุติในเรื่องนี้ โดยระบุว่า ตนได้ส่งให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเข้ามาคุยแล้ว และแจ้งว่าให้จุดไฟให้น้อยลงเพื่อให้ควันไฟไม่พัดไปกระทบข้างบ้านคนอื่นเขา หลังจากได้พูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่าย ก็พูดคุยกันแล้วและเข้าใจกันแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร และจะเข้ามาตรวจดูทุกวันเพราะเส้นทางนี้ตนเองเข้าออกทุกวันอยู่แล้ว ก็อยากจะฝากว่าถ้าบ้านใกล้กันไม่ใช่เฉพาะที่นี่ที่อื่นก็เหมือนกัน ถ้ามีอะไรกระทบกระทั้งกันก็ให้พูดคุยกันดีกว่า ไม่อยากให้มาทะเลาะกันเราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข มีอะไรก็แบ่งปันกันมันถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
ภายหลังจากพูดคุยและตกลงกันเรียบร้อยทางผู้ใหญ่บ้านก็ให้เพื่อนบ้านทั้ง 2 ฝ่ายที่มีปัญหากันมา จับมือกันปรับความเข้าใจกัน ซึ่งเพื่อนบ้านทั้ง 2 ก็ยืนยันแล้วว่าเรื่องได้จบลงแล้ว และสามารถตกลงกันได้แล้วเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น
