จากกรณีเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 62 นางกุหลาบ พุ่มทอง หรือ เป๊ะ ได้มีการร้องเรียนผ่านอมรินทร์ทีวี เหตุถูกลูกสาวคนโต กับลูกเขยยึดสมบัติ และกิจการปั๊มน้ำมัน มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท รวมที่ดินอีกหลายที่ด้วยนั้น
นางกุหลาบ พุ่มทอง หรือ เป๊ะ ผู้ร้องเรียน อายุ 78 ปี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนมีมรดก รวมประมาณ 60 ล้านบาท มีลูก 4 คน ลูกสาวคนโต 2 คน ลูกชายคนเล็ก 2 คน ซึ่งตอนนี้ลูกสาวคนโตชื่อตุ๊กตา อายุ 50 ปี แต่ตอนที่ลูกสาวคนโตอายุ 20 ปี ตนเคยซื้อดินที่ให้เป็นชื่อลูก แล้วเปิดเป็นกิจการปั๊มน้ำมัน พร้อมซื้อที่ดินไว้ให้อีกหลายที่
จนกระทั่งปี 2560 สามีตนตาย ลูกสาวคนโตก็ยึดกิจการปั๊มน้ำมัน มูลค่า 50 ล้านบาท แล้วนำที่ดินที่ตนซื้อให้ไปขายอีก 8 ล้านบาท เอารถยนต์เบนซ์ เก๋ง รถตู้ของตนไปขายอีกหลายคัน ตนขอร้องแล้วแต่ลูกก็ไม่ฟัง ตนก็ได้แต่สาปแช่ง จากนั้น ลูกสาวก็ไปบอกคนอื่นว่าตนหายสาบสูญไปแล้ว ทั้งนี้ ลูกสาวเอาเอกสารใบมอบอำนาจจัดการมรดกมาให้ตนเซ็น ตนก็เซ็นไปทั้งที่ไม่รู้ พอมารู้ทีหลังก็กลัวลูกสาวกับลูกเขยจะมาฆ่า จึงหนีไปอยู่บ้านเพื่อนและบ้านน้องสาว
ทั้งนี้ ลูกอีก 3 คนก็ไม่มาเลี้ยงดู ทั้งที่ตนไม่ได้ทำอะไรให้ ตนก็อยู่คนเดียวที่ปั๊ม ตอนนี้ตนโกรธ โมโห และแค้นมาก ขอตัดแม่ตัดลูกกับทุกคน หากมาขอโทษก็ไม่อโหสิกรรมให้ เพราะทำกับตนรุนแรง อีกทั้งลูกเขยแช่งสามีตนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ว่า "เมื่อไรจะตายสักที" แล้วก็กลั่นแกล้งสารพัด ปิดน้ำประปาในครัว ไม่ให้ตนใช้ ไม่ให้เปิดแอร์ บีบให้ตนออกจากบ้านไป แต่ตนไม่ยอมไป
นางกุหลาบ กล่าวเสียงสะอื้นว่า ตนหมดตัวแล้ว ไม่มีเงินใช้ น้องสาวและญาติ ๆ ให้เงิน อีกทั้งตนเป็นหนี้เพื่อนอีกเป็นแสน อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากจะคุยกับลูกสาวอีกแล้ว แต่อยากให้กลับมาจัดการแบ่งมรดกคนละครึ่ง ขายปั๊มน้ำมันทิ้งเพื่อแบ่งเงิน แล้วก็ต่างคนต่างอยู่ ทั้งนี้ ตนคิดตลอดว่าลูก ๆ ทำแบบนี้กับตนมากเกินไป เพราะตนก็ไม่เคยทำกับพ่อแม่ของตนแบบนี้
ล่าสุด ทีมข่าวอมรินทร์ลงพื้นที่หมู่บ้าน ซ.วัดดอนดำรงธรรม ต. ดอนหัวฬอ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี พบกับ นางสุรีย์ พุ่มทอง หรือ มะลิ อายุ 77 ปี น้องสาวของนางกุหลาบ เผยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น น.ส.ตุ๊กตา ลูกสาวคนโต เป็นผู้จัดการมรดก ไม่ยอมเข้ามาพูดคุยกันว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะนางกุหลาบเครียดเรื่องหนี้สินมาก ต้องยืมเงินญาติ อีกทั้งต้องจ่ายหนี้แทนลูกสาวกว่า 3 ล้านบาท ตอนนี้นางกุหลาบไม่เหลืออะไรเลย แต่ก่อนหน้านี้สามีนางกุหลาบยังมีชีวิตอยู่ เวลามีทรัพย์สินก็ลงชื่อให้ลูกสาวคนโตหมด หลังสามีนางกุหลาบเสียชีวิต ลูกสาวคนโตก็ขายที่และยึดกิจกรรมปั๊มไป
ทั้งนี้ น.ส.ตุ๊กตา ไม่เคยดูแลแม่ และมักจะใช้เงินในกงสีหรือเงินส่วนกลางของครอบครัวตลอด ล่าสุดวันที่ 24 เม.ย. ที่นัดไกล่เกลี่ยกันในศาล ก็ให้น้องสาวเข้ามาคุยแทน และขอให้นางกุหลาบยอมความ ส่วนหลานเขย สามีของน.ส.ตุ๊กตา ก็ร่วมกันโกง ซ้ำไล่นางกุหลาบออกจากบ้านด้วย ทั้งนี้ มีการนัดไกล่เกลี่ยรอบ 2 น.ส.ตุ๊กตาส่งทนายความมา ทนายความให้นางกุหลาบเซ็นเอกสารต่าง ๆ นางกุหลาบก็เซ็นโดยที่ไม่รู้ว่าคือเอกสารอะไร เนื่องจากหนังสือ ซึ่งทนายก็ไม่ได้บอกข้อมูล จนรู้ว่าเป็นสัญญาลักษณะการประนอมหนี้
ทั้งนี้ ตนอยากให้มาพูดคุยกันว่าจะแบ่งทรัพย์สิน และใช้หนี้อย่างไร ไม่อยากให้เรื่องยืดเยื้อ เพราะตอนนี้นางกุหลาบลำบากมาก
นอกจากนี้ ทีมข่าวลงพื้นที่ร้านตรวจสภาพรถยนต์ พบกับนายเอ (นามสมมติ) ลูกเขยนางกุหลาบ ให้ข้อมูลว่า ตนและครอบครัวไม่ได้โกง มีแต่หนี้สินที่ที่ตนใช้แทนพ่อตาที่สะสมไว้ตั้งแต่ปี 2540 จนกระทั่งพ่อตาเสียชีวิต เป็นจำนวนเงิน 44 ล้านบาท ซึ่งต้องหมุนเวียนส่งชำระหนี้ธนาคารในทุก ๆ เดือน ส่วนเรื่องขายที่นั้น ตนไม่ได้ขายเพื่อนำเงินมาใช้ แต่ถูกยึดจากธนาคารเพราะไม่สามารถชำระหนี้ได้ และเรื่องยึดกิจการปั๊มนั้น ภรรยาตนไม่ได้ยึด เนื่องจากแม่ต้องการที่จะขายที่ตรงนั้น แต่พ่อตาได้ขอไว้ก่อนตาย บอกว่าอย่าขายเด็ดขาด เพราะต้องการที่ดินไว้ให้ลูกหลานเลี้ยงชีพกัน
ทั้งนี้ เรื่องการเซ็นมรดก ตนยืนยันว่าไม่มีมรดกใด ๆ ทั้งสิ้น มีแต่หนี้สินเท่านั้น ตนอยากให้อีกฝ่ายออกมาสาบานว่าพูดความจริงทั้งหมดแล้วหรือไม่ หลักฐานทุกอย่างก็มี แต่ต้องรอให้ทางศาลพิจารณา ตนเชื่อในความบริสุทธิ์ของครอบครัว อีกทั้งตนมีเอกสารยืนยันการชำระหนี้บางส่วนแทนครอบครัวนางกุหลาบ เป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาทด้วย