แฉอีก! แก๊งตำรวจอุ้มโจ๋ซ้อม​ขังเซฟเฮ้าส์รีดคนละแสน​ ใช้ "เจ๊น๊อต" เป็นคนเก็บเงิน (คลิป)

15 พ.ค. 62
ความคืบหน้ากรณี ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่ (ป) สภ.กระพ้อ จ.ปัตตานี พร้อมเพื่อนอีก 5 คนซึ่งไม่ได้เป็นตำรวจ ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ อ้างตัวเป็นชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 อุ้มขึ้นรถเรียกค่าไถ่ 500,000 บาท ที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 มี.ค. 62 ต่อเนื่องช่วงเที่ยงของวันที่ 27 มี.ค. 62 แต่มีการต่อรองกันจนเหลือ 120,000 บาท และต้องจำนำรถเก๋งส่วนตัว 1 คัน ก่อนถูกปล่อยตัวออกมา หลังเกิดเหตุ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ เข้าร้องเรียนกับผู้บังคับบัญชา และแจ้งความที่ สภ.หาดใหญ่  (อ่าน : เหยื่อสุดแค้น แก๊งตร.อุ้มใช้ปืนตบ คาใจไถเงิน 5 แสน แลกไม่ยัดข้อหา มี “เจ๊น๊อต” นางนกต่อร่วม) ล่าสุด ทีมโฆษกตำรวจภูธรภาค 9 ได้ออกแถลงความคืบหน้าของคดีนี้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดภูธรภาค 9 ถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง เรียกรับผลประโยชน์จากผู้อื่นเหตุ โดยมีตำรวจ 3 คน คือ ดาบตำรวจธีรยุทธ สุวรรณรัตน์, ดาบตำราจสิรภพ หมื่นหนู และดาบตำรวจพิรชัช หวั้นเส้ง ถูกสั่งย้ายเรียบร้อยแล้ว และกำลังตรวจสอบต่อไป
แขกรับเชิญรายการต่างคนต่างคิด
วันที่ 14 พ.ค. 62 รายการต่างคนต่างคิด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.20 น. ได้เชิญ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผู้เสียหาย, นายรุ่งเกียรติ หนูพันธ์ ผู้เสียหาย และนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ร่วมพูดคุยในรายการ
ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผู้เสียหาย
ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ หรือ แบงค์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ มีชายฉกรรจ์มาประมาณ 10 คน พยายามจะจับกุมตนกับเพื่อนรวม 6 คน ซึ่งตนแสดงตัวว่าเป็นตำรวจเช่นกัน ส่วนเพื่อนตนก็วิ่งไปหยิบปืนในรถมาเพื่อถือไว้ป้องกันตัว ก่อนจะโดนกลุ่มชายอ้างตัวเป็นตำรวจรุมกระทืบจนศีรษะแตก ส่วนตนไม่ได้ต่อสู้จึงไม่ได้โดนทำร้ายมาก จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์บอกว่า "เพื่อนมึงเอาปืนมาจะยิงกู กูต้องทำให้มึงออกจากราชการให้ได้" ก่อนจะบังคับให้พวกตนขึ้นรถกระบะไปที่เซฟเฮ้าส์ เมื่อถึงแล้วก็โยนยาทาแผลให้พวกตน จากนั้น อีกฝ่ายถามว่าพวกตนเล่นยาหรือไม่ ตนก็ปฏิเสธ พร้อมบอกว่าตรวจฉี่ได้ อีกฝ่ายบอกว่าจะยัดข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ทั้งนี้ สาเหตุที่ตนหนีไม่ได้ เพราะถูกยึดโทรศัพท์ กุญแจรถ และปืน 2 กระบอก โดยกลุ่มตำรวจบังคับให้ตนเซ็นบันทึกการจับกุมด้วย จากนั้นมีเจ๊น๊อต เมียของตำรวจภาค 9 เข้ามาแสดงตัว แล้วโทรติดต่อกับผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านตนให้มาที่เซฟเฮ้าส์ ผู้ใหญ่บ้านก็แนะนำให้ขายที่ดินเพื่อเอาเงินมาจ่าย จากนั้นแม่ตนก็มาที่เซฟเฮ้าส์แล้วเจรจากัน โดยตำรวจเรียก 200,000 บาท แม่ตนรวบรวมเงินได้มา 120,000 บาท ขาดอีก 80,000 บาท ซึ่งกลุ่มตำรวจบอกว่าต่อรองราคาค่าไถ่ไม่ได้ เพราะเป็นการดูถูกเจ้าหน้าที่ แม่จึงเอารถยนต์ของตนให้ไปอีก 1 คัน จากนั้นตนก็ถูกปล่อยตัว
ข้อความข่มขู่จากกลุ่มตำรวจ
หลังจากนั้น เจ๊น๊อตก็ส่งข้อความหาตนและแฟน ขู่ว่าจะมาทำร้ายร่างกายถึงที่บ้าน ถึงขั้นเอาชีวิต ส่วนเหตุการณ์ที่ตนกลับไปเอาเอกสารของลูกในรถ เจ๊น๊อตเข้าใจว่าตนกลับไปปล้นรถ จากนั้นอีกฝ่ายก็เอารถตนไปปล่อยขายให้กับแก๊งค้ายา ล่าสุด ตนได้รถคืนแล้วหลังจากเป็นข่าว มีผู้หญิงนำรถมาคืนให้ที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน อีกทั้งนายของอีกฝ่ายโทรถามตนว่าอยากได้อะไร เอารถกับเงินคืนจะจบไหม แต่ตนบอกว่าไม่ทันแล้ว เพราะหลังเกิดเหตุ ตนตั้งใจให้โอกาสกลุ่มตำรวจแล้ว โดยจะขอรถและเงินคืนไม่เอาเรื่องทางคดี แต่อีกฝ่ายไม่ยอม ตอนนี้จะขอดำเนินการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
นายรุ่งเกียรติ หนูพันธ์ ผู้เสียหาย
นายรุ่งเกียรติ หนูพันธ์ หรือ เอก ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุ กลุ่มตำรวจมากระทืบเหยียบตนจนศีรษะแตก แล้วตอนที่โดนอุ้มไปที่เซฟเฮ้าส์พร้อมกับเพื่อน ตนไม่คิดว่าจะโดนฆ่า แต่กลัวโดนยัดยาเสพติด เพราะเขาถามว่าจะเอาข้อหายาบ้าหรือยาไอซ์ จากนั้น ตนก็โทรหาแม่ บอกว่าถูกจับ และโดนเรียกเงิน 500,000 บาท ต่อมาญาติพวกตนกับเพื่อน มากันประมาณ 10 กว่าคน ก็ไปคุยกับเจ๊น๊อตที่ปากซอย เพราะกลุ่มตำรวจเกรงว่ามีคนมาที่เซฟเฮ้าส์เยอะจะผิดสังเกต ทั้งนี้ แม่ตนยอมหาเงินมาจ่าย ทั้งที่ตนบอกแม่ว่าไม่ต้องจ่าย เพราะไม่ผิด โดยขณะนั้น กลุ่มตำรวจให้พวกตนออกมาด้านนอก แล้วให้ญาติ ๆ เข้าไปในเซฟเฮ้าส์เพื่อเจรจา อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้แจ้งความเอาผิดในข้อหาทำร้ายร่างกาย และยืนยันว่าไม่เคยมีคดีติดตัวเกี่ยวกับยาเสพติดด้วย
นายรุ่งเกียรติ หนูพันธ์ ผู้เสียหาย
นายรุ่งเกียรติ หนูพันธ์ หรือ เอก ผู้เสียหาย เปิดเผยหลังจบรายการว่า วันที่ตนถูกกลุ่มตำรวจอุ้มไปที่เซฟเฮ้าส์ เจอชาวบ้านอีกกลุ่มด้วย เป็นชาย 2 คน สภาพร่างกายถูกซ้อมยับเยิน ตนสอบถามทราบว่า ชาย 2 ราย เสียเงินให้กับกลุ่มตำรวจเกือบ 100,000 บาท โดยมีแม่มาเคลียร์กับตำรวจแล้วจ่ายเงิน จากนั้นก็พาลูกกลับบ้าน ทั้งนี้ วัยรุ่นในพื้นที่จะรู้กันอยู่แล้วว่า ถ้าโดนจับมาที่เซฟเฮ้าส์ จะต้องโดนซ้อมและเรียกเงินเป็นปกติ ซึ่งส่วนตัวก็ทราบเรื่องนี้เช่นกัน และทุกอย่างก็จบที่เซฟเฮ้าส์ ไม่มีทางไปจบที่โรงพัก

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ