เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 ต.ค. 65 นางวีรยา อายุ 39 ปี ส่งคลิปไปร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด ให้ช่วยเหลือเรื่องคดี เนื่องจากนางวีรยาเป็นเมียนอกกฎหมาย ไปตามสามีนอกสมรสที่ชื่อว่า "เฮียวัตร" อายุ 56 ปี ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านปทุมธานี แต่กลับถูก รปภ.ของหมู่บ้านกระชากตัวเอาไว้ ไม่ยอมให้เข้าไปเจอสามีนั้น
วัทนี่ 5 ต.ค. 65 นางสาวใหม่ ลูกสาวของนายวิวัฒน์ ได้มีการส่งกล้องวงจรปิดให้ทีมข่าว เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นว่าตัวของนางสาวใหม่ลูกสาวของนายวิวัฒน์ มีการขับรถเก๋งไปจอดบริเวณลานจอดรถของห้าง จากนั้นไม่นานจะเห็นผู้หญิงใส่เสื้อสีดำ ใส่กระโปรงสีแดง เดินเข้าไปที่รถเก๋งที่ลูกสาวของนายวิวัฒน์นำมาจอด แล้วมีการขึ้นรถก่อนที่จะสตาร์ทรถขับออกไปจากห้าง
มีภาพนิ่งซึ่งเป็นภาพของไรเดอร์ ที่ถูกนางสาววีรยาส่งมาสอดส่องความเคลื่อนไหวของบ้าน และบางครั้งยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพเก็บบันทึกไว้เป็นหลักฐาน มีการส่งภาพนิ่งที่พอจะถ่ายได้ โดยเป็นไรเดอร์ไม่ช้ำหน้า ถูกส่งมาในแต่ละวันให้มาเก็บความเคลื่อนไหว
นายวิช (นามสมมติ) พนักงานไรเดอร์ เปิดเผยว่า ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 63 ตนเองออกมาขับไรเดอร์ครั้งแรก นางสาววีรยามีการเรียกใช้บริการผ่านแอปณ ซึ่งเรียกจากหมู่บ้านในพื้นที่ย่านปทุมธานี ให้ไปส่งในหมู่บ้านของนายวิวัฒน์ เมื่อไปถึงเจ้าตัวได้ขอลงกลางซอยหมู่บ้าน ไม่บอกว่าเป็นบ้านใคร ก่อนที่จะมีการโอนเงินเข้าระบบออนไลน์ ตอนนั้นเป็นจำนวนเงินเพียงแค่ 70 บาท ไม่ทันได้สังเกตว่ามีการโอนเงินแล้วหรือยัง เพราะเจ้าตัวพูดแต่ว่าโอนแล้ว ตนเองก็ขับรถออกทันที
แต่ปรากฏว่าช่วงที่มาถึงบริเวณป้อมรักษาความปลอดภัย ในเอกสารที่มีการแลกบัตรประจำตัวประชาชนเอาไว้ ไม่มีการลงตราประทับของบ้านเลขที่ เป็นเพียงแค่ลายเซ็นของนางสาววีรยา ซึ่งพนักงานรักษาความปลอดภัยไม่คืนบัตรประจำตัวประชาชนและไม่ให้ออกหมู่บ้าน ตนเองจึงให้เหตุผลว่าไปส่งลูกบ้าน แต่ก็ยังออกหมู่บ้านไม่ได้ เพราะเนื่องจากรู้ว่าพฤติกรรมของผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นคนที่เข้ามาก่อความรำคาญให้กับลูกบ้าน ทำให้ตนเองต้องคอยอธิบาย และมีปัญหาอยู่กับพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ระยะหนึ่ง แต่เมื่อเคลียร์ใจกันได้จึงได้เดินทางไปที่โรงพักเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุหรือการบุกรุกเข้าไปในหมู่บ้าน
หลังจากวันนั้นตนเองก็เพิ่งมาทราบภายหลังว่ามีเพื่อนพนักงานคนอื่นถูกเรียกลักษณะทำนองเดียวกัน บางคนถึงขั้นถูกรีพอร์ต และไม่ได้ทำงานต่อ เนื่องจากมีการรายงานพฤติกรรมเป็นเพราะไม่ทำตาม โดยการถ่ายรูปหรือทำตามที่นางสาววีรยาสั่ง ตนเองโชคดีที่ไม่ถูกรีพอร์ต เพียงแค่ไม่ได้รับเงินจากค่าจ้าง แต่ตนเองก็ไม่คิดว่าตัวของนางสาววีรยาจะใช้พนักงานไรเดอร์เป็นเครื่องมือแบบนี้ เพราะส่งผลกระทบต่อคนอื่นที่ทำให้ตกงาน
นางสาวใหม่ (นามสมมติ) ลูกสาวของนายวิวัฒน์ เปิดใจว่า ตลอดช่วง 3 ปี ที่ผ่านมาครอบครัวของตนเองต้องมาเจอกับปัญหาถูกนางสาววีรยาคุกคาม คอยตามหาเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน อนแรกก็ไม่ได้มีเหตุรุนแรง แต่ช่วงหลังคาดว่าเกิดจากอาการป่วยไม่ปกติหรือไม่ ทำให้เกิดเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะมีการส่งคนมาสะกดรอยติดตาม เข้ามาทำลายทรัพย์สินด้วยตนเอง ตอนแรกก็เริ่มต้นจากการเขวี้ยงปาสิ่งของใส่บ้าน จนกระทั่งระยะหลังเริ่มที่จะบุกเข้ามาก่อกวนส่งไรเดอร์เข้ามา หนักสุดถึงขั้นแอบมุดใต้กระโปรงรถคนอื่นเข้ามาในหมู่บ้านโดยไม่ให้พนักงานรักษาความปลอดภัยรู้ ปกติแล้วคนทั่วไปไม่ทำกัน เชื่อว่าคนนี้ไม่ปกติ
ย้อนกลับไปอีกช่วง 5 ปีก่อน เป็นช่วงแรกที่ตัวของนางสาววีรยาเข้ามาในชีวิตของพ่อครั้งแรก ตอนนั้นทุกอย่างก็ดูปกติ เพราะเข้ามาในครอบครัวเหมือนมาแนะนำตัว ทักทายให้คนที่บ้านรู้ เป็นเรื่องปกติของพ่อ ซึ่งครอบครัวก็รู้มาตลอดว่าพ่ออาจจะมีเล็กมีน้อยซึ่งก็เป็นความสุขของพ่อ ทั้งแม่และตนเองก็ไม่มีใครห้าม ทุกคนเคยพูดเอาไว้ว่า "พ่อมีได้เพราะความสุขของพ่อ แต่ขออย่าสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในบ้าน" ซึ่งคำพูดนี้ก็ออกมาจากปากแม่และตนเอง แต่ก็ไม่คิดว่าวันนี้จะกลายเป็นเหตุการณ์บ้านเล็กหรือคนสนิทของพ่อจะมาทำแบบนี้
ตอนนั้นที่ตนเองได้มีโอกาสพูดคุยกับนางสาววีรยา เพราะอายุก็ไม่ห่างกัน รุ่นราวคราวเดียวกัน เจ้าตัวก็มีท่าทีดูปกติ มีการพูดจาดี แต่ก็ไม่คิดว่าวันนี้จะกลายเป็นคนละคน เหตุผลที่นางสาววีรยาทำแบบนี้เป็นเพราะเชื่อว่าต้องการเข้ามาแทนที่ครอบครัวของตนเอง ต้องการมีหน้ามีตา ต้องการเป็นเบอร์หนึ่งของครอบครัว นเองก็มองว่าไม่น่าจะเหมาะสม เพราะการเข้ามานั้นตัวของนางสาววีรยาก็รู้ดีว่าเข้ามาในสถานะอะไร
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ยอมรับว่าแม่ค่อนข้างเครียด และมีความวิตกกังวลจนกระทั่งกลายเป็นโรคความดันขึ้น แม่ไม่อยากไปยุ่ง ตนเองออกมาพูดเพราะต้องการที่จะปกป้องคนในครอบครัว ต้องการที่อยากจะให้สังคมรู้ว่าตัวของนางสาววีรยาทำอะไรบ้างกับครอบครัว ถ้าหากเป็นไปได้ก็อยากให้หยุดพฤติกรรมแบบนี้ ต่างคนต่างอยู่ต่างคน ต่างเลิกยุ่งกันและกัน ครอบครัวของตนเองก็จะได้กลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง
เหตุการณ์ที่ตนเองเจอมากับตัว มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ชัดเจน เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 64 ตนเองใช้รถของพ่อออกไปทำธุระซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า แต่ปรากฏว่านำรถไปจอดที่ลานจอดได้ไม่ถึง 5 นาที นางสาววีรยาตามมาพร้อมกับ GPS ที่แอบติดเอาไว้ในรถของพ่อ ใช้กุญแจดอกอื่นซึ่งไม่รู้ว่ามีกุญแจสำรองได้อย่างไร เปิดรถและขับไปยังซึ่งหน้า ตนเองกลับมารถหายจึงไปเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบว่ารถถูกขโมย ตนเองจึงได้เดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้
สุดท้ายตำรวจก็ไปตามรถกลับคืนมาให้กับครอบครัวได้ พฤติกรรมของนางสาววีรยา ก็มักจะมีการจะทำแบบนี้ ก่อความรำคาญและแอบติดตามความเคลื่อนไหวของคนในบ้านของตนเองแบบนี้ตลอด รถทุกคันเรียกได้ว่าถูกนำ GPS มาเสียบ และติดเอาไว้เกือบทุกครั้ง
ที่นางสาววีรยามีพฤติกรรมปฏิบัติการสายลับจับบ้านใหญ่ ตนเองมองว่าไม่เคยพบไม่เคยเจอ โดยปกติแล้วจะมีแต่เมียหลวงจับบ้านเล็ก จากพฤติกรรมจึงมองว่าไม่ปกติ ทั้งเรื่องของวิธีการปฏิบัติ และทางสมอง