ลากไส้พ่อค้าไก่ปลอมเป็นทนาย แม่ร่ำไห้ถูกแหกตาด้วย เปลี่ยนบ้านเป็นสำนักงาน (คลิป)

5 ต.ค. 65

จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 65 นายประพจน์ วงศ์ก่อเกื่อ ทนายความได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกลุ่ม "ทนายอาสา ปรึกษาในกลุ่มฟรี โดยทนายอาชีพ"

571325

โดยระบุว่าในฐานะผู้ก่อตั้งกลุ่มนี้และทนายความอาชีพ ผู้ที่ต้องดูแลสมาชิก แต่กลับมีผู้มาแสวงหาประโยชน์ ซ้ำเติมทุกข์ ผมจำต้องเปิดเผยเพื่อประโยชน์สาธารณะ หากมีข้อเท็จจริงไม่ตรงกับเอกสารทะเบียนสภาทนาย ผมขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว

782042

โดยมีการเปิดเผยข้อมูลว่า นายพรเทพ คะเชนทร์ภักดิ์ อายุ 32 ปี ได้ปลอมเป็นทนายความ สวมรอยเลขคดีคนอื่นรับว่าความหลายคดี มีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร

208909

วันที่ 5 ต.ค. 65 ทีมข่าวทางไปตามที่อยู่ภิมิในลำเนาของ นายพรเทพ พื้นที่ ต.คณฑี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พบกับ นางกิมไล้ คะเชนทร์ภักดิ์ อายุ 60 ปี แม่ของนายพรเทพ ขณะเดียวกันบริเวณหน้าบ้านพบว่ามีการก่อสร้างห้องกระจกขนาดเล็กด้านหน้าเขียนประตูกระจกติดข้อความว่า รับว่าความทั่วราชอาณาจักร คดีแพ่ง-อาญา พร้อมกับเบอร์ติดต่อ 

532083

นางกิมไล้ แม่ของนายพรเทพ เปิดเผยกับทีมข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนไม่รู้ลูกปลอมเป็นทนายความ ซึ่งหลังจากลูกเรียนจบมหาวิทยาลัยภาคกลางนครวรรค์ ประจำปีการศึกษา 54-55 จากนั้นลูกไปทำงานกรุงเทพฯ ก่อนได้ลูกสาว 2 คน และเลิกกับภรรยาไป ก็มาทำอาชีพขายไก่หมุน มีรถกระบะ 1 คัน แต่ไม่ได้ขายเป็นหลักแหล่ง

385975

ต่อมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ลูกกลับมาบ้านก็ได้ถามแค่ว่าทำอะไร ลูกบอกแค่ว่า “เป็นทนายความแม่” และเรียนจบสายนี้มาทำงานได้เลยและที่ผ่านมาก็จะเห็นลูกแต่งตัวสวมเสื้อแขนยาว ผูกเน็คไทใส่เสื้อสีดำคลุมทับอีกที

“ซึ่งนิสัยลูกจะเป็นคนพูดน้อย เงียบ ไม่ค่อยจะปรึกษาอะไร ความทุกข์ใจ ความลำบากใจอะไรเลย บางครั้งอยากพูดอยากคุยด้วย ลูกกลับมาก็เข้าห้องนอน ตนก็ไม่อยากรบกวนคิดว่าลูกเหนื่อย”

กระทั่งเมื่อวันเสาร์ที่ 1 ต.ค. 65 ลูกกลับมาก็เก็บตัวเงียบ จนช่วง 16.00 น. ของวันที่ 2 ต.ค.65 หลังลูกออกไปเผาขยะหน้าบ้านตำรวจก็มาจับลูก ซึ่งตอนนั้นตนไม่รู้ลูกกระทำความผิดอะไร แต่ตนได้แต่ร้องไห้ ร้องจนน้ำตาไม่มี ความรู้สึกตอนนั้นยิ่งกว่าไฟสุมอก ตนรักลูก และเหมือนใจจะขาดจึงได้แต่ขอร้องตำรวจให้จับตนไปแทน พร้อมขอให้ลูกอยู่ข้างนอกเพื่อเลี้ยงลูกของเขา จนวันนี้พึ่งรู้จากชาวบ้านว่าลูกปลอมเป็นทนายก็ยิ่งซ้ำใจอีก

539426

อย่างไรก็ตาม อยากหาเงินประกันตัวลูกจะได้ออกมาดูแลลูกเขาทั้ง 2 คน เพราะตนไม่มีใครเลี้ยงดูแลแล้ว ที่บ้านมีค่าใช้จ่ายทัังค่าน้ำค่าไฟและค่าเล่าเรียนหลาน 2 คน ขาดลูกชายไปก็เหมือนขาดเสาหลัก

นางกิมไล้บอกอีกว่าส่วนตัวเดิมทีเป็นคน จ.นครสวรรค์ ย้ายมาอยู่ จ.กำแพงเพรช กับพ่อกระทั่งพ่อเสียชีวิตตนก็อยู่กับลูกกับหลานไม่มีญาติ ส่วนญาติที่ จ.นครสวรรค์ นั้นเคยทะเลาะกันและห่างกันมา 20 กว่าปีแล้วจึงไม่มีญาติ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส