จากกรณี เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 ต.ค. 65 มีนางวีรยา อายุ 39 ปี ส่งคลิปไปร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด ให้ช่วยเหลือเรื่องคดี เนื่องจากนางวีรยา เป็นเมียนอกกฎหมาย ไปตามสามีนอกสมรส ที่ชื่อว่า "เฮียวัตร" อายุ 56 ปี ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านปทุมธานี แต่กลับถูก รปภ.ของหมู่บ้านกระชากตัวเอาไว้ ไม่ยอมให้เข้าไปเจอสามี
เหตุการณ์ดังกล่าว นางวีรยา ผู้เสียหายได้ถ่ายคลิปเอาไว้หลังถูก รปภ. ทำร้ายร่างกาย โดยการกระชากลงไปที่พื้น ขู่จะเอาสนับมือชกหน้าหากไม่เชื่อฟัง พร้อมกับอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ซึ่งจากคลิปที่ผู้เสียหายส่งให้กับทางเพจสายไหมต้องรอด เป็นคลิปที่ผู้เสียหายถ่ายเอาไว้ได้ มีความยาวประมาณ 1 นาที
โดยเห็นว่า รปภ.คนดังกล่าว ท้าให้ผู้เสียหายถ่ายภาพไปที่หน้า ยกนิ้วกลางให้ ทั้งยังพยายามยืนขวาง ไม่ให้เข้าไปที่บ้านของสามี กระทั่งเมื่อนางวีรยาพยายามจะลุกขึ้น แต่กลับถูก รปภ. เหวี่ยงลงไปที่พื้น แล้วพยายามไล่ออกจากหมู่บ้าน อ้างว่านางวีรยาจะเข้าไปทำลายข้าวของลูกบ้าน และไม่เรียกเจ้าของบ้านให้ โดยใช้คำพูดที่หยาบคาย
นางวีรยา ผู้เสียหาย อายุ 39 ปี เล่าว่า เหตุการณ์เมื่อช่วงประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนเองตั้งใจที่จะไปตามสามี เนื่องจากถูกสามีบล็อกเบอร์ แต่พอไปถึงหมู่บ้าน กลับถูก รปภ. ที่ได้รับคำสั่งจากสามีกระชากตัวลงไปที่พื้น และพยายามยกแหวนที่มีลักษณะเป็นหัวแหลมคล้ายกับสนับมือ ชี้หน้าขู่ว่าห้ามขยับตัว ยอมรับว่าตกใจมาก ได้แต่พูดกับ รปภ.คนดังกล่าวไปว่าอย่ามาแตะตัว จะโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ แต่กลับถูก รปภ. พูดถ้อยคำที่หยาบคาย ยกนิ้วกลางให้ และโชว์บัตรซองหนังดำที่ห้อยอยู่ พร้อมกับอ้างว่า "ไม่ต้องแจ้งตำรวจ ตัวเขานี่แหละเป็นตำรวจ ทำไรกูไม่ได้หรอก ให้กูออกจากงานก็ยอม"
จากนั้นเมื่อตนเองลุกขึ้น รปภ. พยายามเหวี่ยงตัวตนเองอีกหลายครั้ง ไล่ให้ตนเองออกไปจากหมู่บ้าน แล้วก็ใส่ร้ายกล่าวหาว่าตนเองจะเข้าไปทำลายข้าวของคนในหมู่บ้าน ซึ่งเหตุการณ์นี้เคยเกิดมาแล้ว 1 ครั้ง เดือน มี.ค. ปีที่แล้ว เป็นเหตุการณ์คล้ายกัน แล้วก็เป็น รปภ.คนเดียวกัน ครั้งนั้นตนเองถ่ายคลิปตอนที่ถูกทำร้ายไม่ทัน เนื่องจากถูก รปภ. ดึงโทรศัพท์ไปจากมือ ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีนิติบุคคลของหมู่บ้านอยู่ในเหตุการณ์ทุกครั้ง แต่นิติบุคคลให้ท้าย รปภ. และเอาแต่ยืนมองโดยไม่ได้ห้ามปราม ขณะที่เห็นกลุ่ม รปภ.ในหมู่บ้านจับตนเองเอามือไขว้หลัง และอุ้มตัวโยนออกจากหมู่บ้าน
เหตุการณ์ทั้ง 2 ครั้ง ตนเองโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจให้ไปในที่เกิดเหตุ แต่ตำรวจที่มาดันไปเข้าข้าง รปภ. ในหมู่บ้าน และไม่เคยดำเนินคดี จนทำให้เมื่อวานนี้ต้องส่งคลิปไปร้องกับเพจสายไหมต้องรอด เพราะไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร อย่างไรก็ตาม อยากถามไปถึง รปภ. ที่ก่อเหตุว่าทำไมถึงไม่พูดจากันดี ๆ หากตนเองทำอะไรผิด ก็พร้อมให้แจ้งตำรวจมาดำเนินคดี ไม่ใช่มาทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ แล้วอีกอย่างไม่เคยพบเคยเจอ รปภ.ที่มีพฤติกรรมต่ำขนาดนี้มาก่อน ยืนยันตนเองมีการศึกษา พูดรู้เรื่อง ไม่ใช่คนโรคจิต วันพรุ่งนี้จะให้เพจสายไหมพาไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.ธัญบุรี และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ส่วนความสัมพันธ์ ของนางวีรยากับเฮียวัตร ยอมรับว่า ตัวเขาเองเป็นเมียอีกคนของเฮียวัตร คบหากันมาได้ประมาณ 6 ปี ตอนแรกที่เฮียวัตรมาจีบ ไม่รู้ว่าเฮียวัตรมีเมียอยู่แล้ว แต่พอคบหากันไปเรื่อย ๆ ได้จ้างให้สายลับจากบ้านเล็ก ไปสืบจนจับได้ว่าเฮียวัตรมีเมียมีลูกอยู่แล้ว พอเฮียวัตรรู้ว่าจับได้ จึงพยายามตีตัวออกห่าง กระทั่งมีการบล็อกเบอร์ติดต่อไม่ได้ จนต้องตามไปหาเฮียวัตรที่หมู่บ้านดังกล่าว
ทีมข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ หมู่บ้านย่าน รังสิต-คลอง4 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ลักษณะหมู่บ้านขนาดใหญ่ มีป้อม รปภ.อยู่ด้านหน้าหมู่บ้าน รปภ.บอล คนในคลิป เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองที่อยู่ในคลิปจริง เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เขาบุกรุกสถานที่เข้ามายังหมู่บ้าน นางวีรยาอ้างตัวว่าเป็นผู้เสียหาย ที่จริงแล้วเคยแอบเข้ามาทำลายข้าวของลูกบ้านแล้วหลายครั้ง จนลูกบ้านก็คือเฮียวัตร ต้องมาแจ้งกับนิติบุคคล ห้ามให้นางวีรยาเข้ามาในหมู่บ้าน โดยการสั่งให้นิติบุคคลติดป้ายมิให้นางวีรยาเข้ามาในหมู่บ้านเด็ดขาด
จนกระทั่งมีเหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้น 2 ครั้ง ก็คือปีที่แล้วกับเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ตามคลิปที่เห็นว่าตนเองแสดงกิริยาไม่ดี โชว์นิ้วกลางให้นางวีรยา เพราะตนเองทนไม่ได้ที่ถูกนางวีรยาด่าถึงบุพการี แล้วอีกอย่างตนเองก็ไม่ได้ไปเหวี่ยงตัวนางวีรยา ลงกับพื้นตามคำกล่าวอ้าง ตอนนั้นที่เห็นว่านางวีรยานั่งถ่ายคลิปอยู่ ไม่ยอมออกจากหมู่บ้าน นั่งโวยวายอยู่ไม่ยอมไปไหน ส่วนแหวนหัวแหลมที่ใส่อยู่ไม่เคยเอาไปขู่ใคร ไม่เคยเอาบัตรตำรวจอะไรไปแอบอ้างว่าเป็นตำรวจ ยืนยันตนเองไม่เคยทำร้ายนางวีรยาตามคำกล่าวอ้าง
จากนั้น มีผู้จัดการนิติบุคคลของหมู่บ้าน ชี้แจงกับทีมข่าว เชิญทีมข่าวเข้าไปยังห้องนิติบุคคล เพื่อหาหลักฐานทุกอย่างมาให้กับทางอมรินทร์ ทีวี ว่าผู้เสียหายคือนางวีรยาไม่ใช่คนธรรมดา เคยก่อเหตุในหมู่บ้านมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
นายสุริยา ทองคำชุม อายุ 45 ปี ผู้จัดการนิติบุคคลหมู่บ้าน เปิดหลักฐานกล้องวงจรปิดในหมู่บ้าน ยืนยันว่าทางหมู่บ้านไม่ได้จงใจทำร้ายอะไรนางวีรยา หลังเกิดเหตุก็ยังให้นางวีรยาซ้อนท้าย จยย. ของ รปภ.ออกมาจากจุดเกิดเหตุ แต่นางวีรยาไม่ยอมกลับ นิติบุคคล จึงให้ไปนั่งรอที่หน้าหมู่บ้าน จนกระทั่งรอถึงประมาณ 20.00 น. นางวีรยาเห็นรถเฮียวัตรขับเข้ามาในหมู่บ้าน แล้วก็มีการวิ่งไปขวางที่หน้ารถของเฮียวัตร ก่อนจะเปิดประตูขึ้นรถเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกัน
ผู้จัดการนิติบุคคลหมู่บ้าน ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรก ซึ่งตัวนางวีรยาได้มาก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ที่จำได้ก็คือไม่ต่ำกว่า 3 ปี เทียวไปเทียวมาหาเรื่องลูกบ้าน จนลูกบ้านต้องมาเขียนคำร้อง ห้ามให้นางวีรยาเข้ามาในหมู่บ้าน ซึ่งวันนี้ทางนิติบุคคลขอพูดเป็นกลาง โดยไม่ขอพูดถึงความสัมพันธ์ของลูกบ้าน แต่ขอพูดถึงวีรกรรมของนางวีรยาที่ก่อนหน้านี้แอบเข้ามาในหมู่บ้านทุกวิถีทาง เรียกรถแท็กซี่เข้ามา เอาตัวเองไปนอนซ่อนตัวอยู่ที่ท้ายกระโปงรถ เพื่อไม่ให้ รปภ.เห็น ทั้งยังจ้างสายลับ ไรเดอร์ส่งอาหารให้เข้ามาดักดูถ่ายรูปหน้าบ้านว่าลูกบ้านอยู่ในบ้านหรือไม่ ทั้งยังปีนเข้าไปทำลายข้าวของ และขโมยทรัพย์สินของลูกบ้าน ยืนโวยวายจนชาวบ้านเอือมละอา
วันเกิดเหตุในคลิปหรือเหตุการณ์อื่น ๆ รปภ.ของหมู่บ้านไม่เคยทำร้ายอย่างแน่นอน ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ย. กล้องวงจรปิดจะเห็นว่าทาง รปภ.ยังออกมาส่งนางวีรยาที่หน้าหมู่บ้าน ส่วนกิริยาที่ รปภ.บอล ทำไปในคลิป ตอนนี้ทางหมู่บ้านได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว หากพบมีความผิดก็จะดำเนินการตามกฎของหมู่บ้าน
ส่วนสายลับที่เข้ามาในหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ตอนนี้ทางหมู่บ้านได้แจ้งความเอาไว้หมดแล้ว มีทางสายลับบางคนก็ได้ไปแจ้งความกับตำรวจเหมือนกันว่านางวีรยาหลอกให้มาเป็นสายลับ เมื่อทำงานไม่สำเร็จก็ถูกนางวีรยาเบี้ยว ไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้าง โดยในขณะนี้ทางหมู่บ้านกำลังรวบรวมหลักฐานเอาผิดนางวีรยาในข้อหาบุกรุก แต่ก็ต้องรอเจ้าของบ้านคือเฮียวัตรว่าจะให้ดำเนินคดีเรื่องอะไรเพิ่มเติมบ้าง
กล้องวงจรปิด ที่หน้าบ้านของเฮียวัตร ไม่เห็นว่า รปภ.ทำร้ายร่างกายนางวีรยา แต่มีการกระชากตัว นางวีรยามาที่หน้าบ้านของเฮียวัตร รปภ.บอล คนในคลิปก็เข้ามาทันที พร้อมกับดึงตัวนางวีรยาให้ออกไปพ้นจากหน้าบ้าน กระทั่งมีการกระชากตัวกัน จนนางวีรยา ลงไปนั่งอยู่ที่พื้น แล้วก็มีการต่อปากตาอคำกัน จน รปภ.บอล ต้องเรียก รปภ.คนอื่น ให้เข้ามาช่วยระงับเหตุ แล้วก็ยืนเฝ้านางวีรยา จนมีนิติบุคคลเข้ามาในที่เกิดเหตุ เหตุการณ์ในครั้งนี้มีการกระชากตัวกันหลายครั้ง แต่ไม่มีภาพจับได้ว่า รปภ.บอล ทำร้ายร่างกายนางวีรยา
นายวิวัฒน์ สรวงสุธาร หรือเฮียวัตร แต่ชื่อเล่นเอ๋ อายุ 56 ปี เปิดใจว่ามีเมีย 4 คน วันเกิดเหตุในคลิปและในวงจรปิด ตนเองไม่ได้อยู่ที่บ้าน มารู้เรื่องก็ตอนที่กลับมาดูกล้องที่บ้านว่าเมียคนที่ 4 มามีเรื่องกับ รปภ.ที่หน้าบ้าน ตนอยากจะบอกถึงความสัมพันธ์ของเมียคนที่ 4 ว่าตนเองเริ่มไปคบหากัน ตอนที่เคยไปทำงานที่เดียวกัน คบกันมาประมาณ 5-6 ปี ซึ่งตอนนั้นหลังได้เสียกัน ตนเองก็บอกนางวีรยาตรง ๆ ว่ามีครอบครัวแล้ว แถมมีเมียก่อนหน้านี้อีก 2 คน นางวีรยาก็รับได้ กระทั่งมาที่บ้าน และมาทำความรู้จักกับเมียหลวง
ถามว่าทำไมเมียหลวงถึงยอมให้ตนเองมีเมียหลายคน เพราะเมียหลวงแก่แล้ว เขาปล่อยให้ตนมีความสุข บอกแต่ว่า "เอ๋จะทำอะไร เอ๋ก็รับผิดชอบตัวเองให้ได้แค่นั้น" ซึ่งที่ผ่านมาตนเองก็ดูแลส่งเสียเมียทุกคน เดือนละ 5,000 บาท และให้ใช้ตามความสมควร
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนางวีรยา ยอมรับว่าตนเองจงใจตีตัวออกห่าง เนื่องจากนางวีรยาตามราวีตนเองและเมียทุกคน จนทำงานทำการไม่ได้ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้บล็อกเบอร์จริง แต่เขามีความสามารถซื้อซิมการ์ด โทรตามตนเองเป็นพันซิม หนักสุดคือเอา GPS มาแอบติดไว้ในรถ เป็นสิบครั้ง เพื่อจะสะกดรอยตามไม่ให้ตนเองไปหาเมียคนอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้นนางวีรยายังเคยเอาสีสเปรย์มาพ่นที่หลังรถ เขียนชื่อแม่ของตัวเองว่าเป็นอีด*ก จ้างไรเดอร์มาเป็นสายลับ แอบดูตนเองที่บ้านวันละเป็นสิบรอบ
ยืนที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหากับเมีย 2 และเมีย 3 มาก่อน มีแต่เมีย 4 ที่สร้างปัญหาจนทำให้ครอบครัวของตนเองอยู่อย่างไม่เป็นสุข เมียคนที่ 4 มันโรคจิต โทรศัพท์หาตนเองวันละเป็นพันสาย จนมีอยู่วันหนึ่งเมียคนที่ 4 มาหาเรื่องเมียหลวงที่บ้าน จนทำให้ตนเองต้องยอมกราบเท้า เพื่อให้เขาออกจากบ้านไป
วันนี้หากเมียคนที่ 4 ฟังอยู่ ก็ขอบอกผ่านอมรินทร์ ทีวี ว่า "เราจบกันเถอะ ต่อไปนี้อย่ามาราวีต่อกันเลย เรื่องคดีความจะถอนแจ้งความให้ ต่างคนต่างใช้ชีวิตกันเถอะ ต่อไปนี้ขอยืนยันกับอมรินทร์ว่าจะไม่มีเมียเพิ่มอีกแล้ว เพราะเข็ดกับเมีย 4 และขอดูแลเมียที่มีอยู่ก็พอแล้ว"
มีคลิปเหตุการณ์ที่เฮียวัตรทะเลาะกับนางวีรยาอยู่ข้างถนน เหตุการณ์นี้เป็นภาพบนถนนย่านบางใหญ่ ที่จะเห็นว่าทั้งคู่ก่อนฟัดเหวี่ยงกันอยู่ที่ข้างถนน จนมีพลเมืองดีเห็นแล้วเข้าไปห้าม พร้อมกับถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน
เห็นว่าทางคนถ่ายพยายามบอกให้เฮียวัตรทำร้ายร่างกายนางวีรยา แต่เฮียวัตรก็อธิบายว่า "มันเอาผมมาปล่อยไว้ข้างถนน แล้วให้ผมกลับบ้านเอง" แต่นางวีรยาก็พยายามดึงเฮียวัตรเอาไว้ นางวีรยาตะโกนออกมาว่า "มึงจะทิ้งกูแบบนี้ไม่ได้" จนเฮียวัตรต้องบอกกลับไปว่า "มึงไปยุ่งกับเมียหลวงกูทำไม" หลังจากนั้นคนถ่ายคลิปก็พยายามพูดว่าเป็นผู้ชาย ไปทำแบบนั้นกับผู้หญิงไม่ได้ เฮียวัตรพูดขึ้นมาว่า "กูจ่ายเงินให้มึงไปหลายแสนแล้ว อี**" พอทั้งคู่ขึ้นมายืน เฮียวัตรก็พยายามอธิบายให้คนถ่ายคลิปฟังว่านางวีรยาขโมยของและโทรศัพท์เมียหลวงที่บ้านมา กระทั่งนางวีรยาเอ่ยปากขึ้นมาเองว่า "หนูเป็นเมียน้อยเขา เขามีเมียน้อย 5 คน มันจะทิ้งหนู"
