ไม่ธรรมดา! เปิดประวัตินักแม่นปืนแย่งปืนลุงจะปลิดชีพ ช็อกเศรษฐกิจแย่ทำคิดสั้น (คลิป)

จากกรณี “นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์” หรือ กัน จอมพลัง โพสต์คลิปเหตุการณ์จากสนามยิงปืนศูนย์กีฬาลานนา มทบ. ที่ 33 จ.เชียงใหม่ พร้อมระบุข้อความว่า "หนุ่มเช่าปืนในสนามยิ-งปืนที่เชียงใหม่ หวังปริดชีพตัวเอง แต่ครูฝึกกระโดดช่วยชีวิตไว้ทัน"

ในคลิปบันทึกภาพวินาทีชีวิต ตอนครูฝึกยิงปืนที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังเล็งปืนไปที่เป้ายิง แต่สักพักก็หันปลายกระบอกปืนมาทางศีรษะของตัวเองหวังจบชีวิต ครูฝึกรีบกระโดดเข้ารวบตัวชายหนุ่มคนดังไว้ได้ทัน

ล่าสุดวันที่ 3 ต.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีเดินทางไปยังสนามยิงปืนดังกล่าวได้พูดคุยกับ นายนันทวัฒน์ จันทร์จะนะ อายุ 31 ปี ครูฝึกยิงปืน ดีกรีจบหลักสูตรครูฝึกสอนยิงปืนจาก 3 สถาบัน คือสถาบันการกีฬาแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬายิงปืนและอาวุธปืนศึกษา S.A.F.E และสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธ 333 

นายนันทวัฒน์ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า จริง ๆ แล้ว นายชัย (นามสมมติ) อายุ 65 ปี ผู้ก่อเหตุ เคยมาฝึกยิงปืนที่นี่แล้ว 1 ครั้ง คือเมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อน แต่ตอนนั้นเขามาคนเดียว และมีปืน 9 มม. ไว้ครอบครองโดยมีใบอนุญาติจดทะเบียนถูกต้อง เพราะตนต้องตรวจสอบก่อนถึงจะอนุญาตให้ยิงปืนได้ บุคลิกตอนนั้นตนก็เห็นว่าสนุกสนานชวนเพื่อนและครูฝึกคุยได้ตามปกติ ไม่เห็นว่ามีภาวะเครียดอะไร

จนกระทั่งเมื่อวานนี้ 2 ต.ค. 65 จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพ นายชัย ขับจักรยานยนต์มาเป็นครั้งที่ 2 แต่มีลูกชายอายุประมาณ 15-16 ปี ซ้อนท้ายมาด้วย โดยในกล้องวงจรปิดจะเห็นว่าเวลา 15.37 น. ทั้งคู่ขับจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าสนาม แล้วนายชัยก็โผล่เข้ากอดลูกพร้อมกับใช้มือตบหลัง 3 ครั้ง แล้วลูกชายก็โผล่เข้ากอดด้วย เหมือนกับว่าทั้งคู่ตั้งใจจะร่ำลากัน เนื่องจากมีจังหวะหนึ่งที่ลูกชายปาดน้ำตาก่อนที่ทั้งคู่จะเดินแยกจากกัน นายชัยเดินเข้าสนาม ส่วนลูกชายเดินไปที่ร้านกาแฟใกล้ ๆ

จากนั้นนายชัยก็เข้ามาติดต่อขอเช่าปืน 1 กระบอเป็นปืน cz 75b พร้อมกระสุน 4 นัด ราคา 500 บาท บอกว่าวันนี้จะมาลองแรงของปืนเฉย ๆ ซึ่งตอนนั้นตนรู้สึกเอะใจแล้วว่ามันไม่ปกติ เพราะคนส่วนใหญ่เวลามาเช่าปืนพร้อมกระสุนจะเอากระสุนไป 1 กล่อง จำนวน 50 นัด หรือไม่ก็ครึ่งกล่อง แต่ตอนนั้นถ้าได้ต้นถามตอบเพื่อเช็คสติสัมปชัญญะเขาก็สามารถโต้ตอบได้ปกติไม่มีกลิ่นเหล้า ก็เลยอนุญาตให้เช่าปืนไปยิง

ตอนแรกตนขอดูบัตรสมาชิก เนื่องจากครั้งแรกที่เขาเข้ามาใช้บริการได้มีการสมัครสมาชิกไว้ แต่ไม่ได้ให้เอกสารข้อมูลส่วนตัว ครั้งนี้ตนก็เลยถามหา แต่สุดท้ายเมื่อนายชัยออกไปหาเอกสารก็ไม่ได้อะไรกลับมา ตนก็มองว่าเขาเคยมาใช้บริการแล้วครั้งหนึ่งก็เลยให้เดินเข้าลู่ไป

พอนายชัยเดินเข้าไปในลู่ก็บอกกับตนว่า “เดี๋ยวจะเอากระสุนอีก 2 นัดที่เหลือจากครั้งที่แล้วออกมายิงด้วย” ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ตอนนั้นตนสังเกตท่าทางแล้วเขาดูไม่จดจ่อกับเป้าหมายแต่จะมองซ้ายมองขวาตลอด มองคนรอบข้างเสมอ อีกทั้งยังขอให้ตนตั้งเป้าในระยะแค่ 4 เมตร ซึ่งปกติแล้วคนส่วนใหญ่จะยิงในระยะ 10 เมตร หรืออย่างน้อย ๆ ก็ 5 เมตรขึ้นไป แถมยังบอกให้ตนถอยห่างไปด้านหลัง อ้างว่าขยับตัวไม่ถนัดอึดอัดตนก็เลยจ้องไว้ตลอด

กระทั่งนายชัยยิงไปทั้งหมด 4 นัด พอจะยิงนัด 5 กลับเอาปืนมาจ่อที่ศีรษะ ตนก็เลยกระโดดเข้าไปล็อกโครงปืนกับสไลค์ แล้วหันแนวปืนกระบอกปืนไปยังสนาม เพื่อป้องกันหากกระสุน 1 นัดที่อยู่ในรังปืนลั่นออกมาจะได้ไม่โดนคน ซึ่งก็โชคดีที่ครั้งนี้กระสุนที่อยู่ในรังปืนไม่ลั่นออกมาตนสามารถแย่งปืนออกมาได้ก่อน จึงพาตังของ “นายชัย” นอนลงกับพื้น ตอนนั้นเขาบอกกับตนคำนึงว่า “ถ้าผมตาย ผมก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร” ตนจึงตอบไปว่า “ไม่ได้พี่ ถ้าพี่ตายที่นี่ ทุกคนเดือดร้อน ผมอาจจะตกงานได้”

จากนั้นตนจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อสายตรวจ สภ.ช้างเผือก มาถึงก็ได้มีการพูดคุยสอบถามกับตัวของลูกชาย ซึ่งลูกชายก็ยอมรับว่า รู้อยู่แล้วว่าวันนี้พ่อจะมายิงตัวตายที่นี่ จึงทำให้เกิดภาพกอดร่ำลากันที่บริเวณด้านหน้า ลูกชายบอกกับตำรวจว่าตนพยายามห้ามแล้วแต่พ่อไม่ฟังจึงไม่สามารถรั้งเอาไว้ได้

ส่วนปมสาเหตุที่ นายชัย ต้องการจะฆ่าตัวตายนั้นมาจากพิษเศรษฐกิจโควิด-19 เพราะก่อนหน้านี้นายชัยเปิดให้บริการหอพัก แต่ไม่มีลูกค้ามาใช้บริการจึงขาดทุน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาตัวนายชัยพร้อมลูกชายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งจนถึงวันนี้รถจักรยานยนต์ของเขาก็ยังจอดอยู่ที่สนามฯ

นายนันทวัฒน์ ย้ำว่าอยากฝากให้เคสนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า จะทำอะไรก็อยากให้คิดถึงคนข้างหลังมาก ๆ เพราะสุดท้ายถ้าสามารถฆ่าตัวตายสำเร็จ คนข้างหลังคือคนที่เดือดร้อน และสำหรับคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมตนจากคลิปเหตุการณ์ครั้งนี้ ตนก็ยอมรับว่าดีใจ ภูมิใจที่ได้ช่วยคน อยากขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้