“นารา เครปกะเทย” ร่ำไห้ชี้แจงคดีกลูต้า ตอนรับงานตรวจเอกสารมีอย.

“นารา เครปกะเทย” ชี้แจงหลังโดนคดีกลูต้าชาร์มาร์ มีสารไม่ได้รับอนุญาตทำให้มีอาการประสาทหลอน ลั่นไม่รู้ขั้นตอนการผลิตเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ ตอนรับงานตรวจเอกสารมีอย. ล็อต 1-3 ไม่มีปัญหา ตนกำลังจะหมดสัญญาสิ้นเดือนนี้ ร่ำไห้ไม่เหลืออะไรแล้ว

จากกรณีตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา บุกจับกุม “นารา เครปกะเทย”  ในข้อหาร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 (2-ไดเฟนิลเมทิลโพโรลิดีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำทางการค้า หลังพบว่าผลิตภัณฑ์ “ชาร์มาร์ กลูต้า” ที่นารา เครปกะเทย รับงานโฆษณา มีส่วนผสมของสารดังกล่าว ซึ่งจะมีอาการประสาทหลอน

ล่าสุด “นารา เครปกะเทย” ไลฟ์สดชี้แจงเรื่องดังกล่าวเผยว่า “ข่าวที่ออกไปคือชื่อ นารา เครปกะเทย ทั้งหมดไม่มีคนอื่น เรื่องนี้หนูขออนุญาตร้องไห้ เพราะหนูเหนื่อยมากที่สุดในโลก”

“ชาร์มาร์ กลูต้า ไม่ใช่กลูต้านารา ตัวนี้หนูเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ ตั้งแต่หนูผอมลง หรือสวยขึ้น หนูคิดที่จะทำแบรนด์เดียวคือ อาหารเสริมลดน้ำหนัก หนูไม่ได้คิดจะทำกลูต้า จนกระทั่งมีพี่เจ้าของแบรนด์ เขาเคยจ้างงานนารามาบ่อยมาก เขาเห็นนาราสวยขึ้น เขาจึงติดต่อนาราให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ นาราก็รับเพราะตอนนั้นแค่รับทุกอย่างที่ไม่ใช่ยาลดน้ำหนัก เพราะยาลดน้ำหนักจะทำเอง”

“ส่วนมันมีสารได้ยังไง ไม่ตรวจสอบเหรอ นาราดูเอกสาร อย. ซึ่งเอกสารที่นาราได้ดู ได้ผ่านอย. เรียบร้อยแล้ว จึงมั่นใจว่า สินค้าที่นารารีวิว ปลอดภัยและถูกต้อง ตัดสินใจรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ 6 เดือน โดยจะสิ้นสุดสัญญา 30 ก.ย.นี้”

“หน้าที่ของนารา มี 2 อย่าง คือ ไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก 4 ครั้ง ลงรูป 4 ครั้ง เงื่อนไขไม่มีในไอจี ไม่มีใน TikTok แต่อาจมีลงรูปในไอจีสตอรี่แถมให้”

“ยอมรับนารากินจริง รีวิวก็กินให้เห็น ถ้านารารู้ว่าถ้ามีสารอันตรายตั้งแต่แรก นาราจะกินให้ตัวเองตายทำไม นาราไม่รู้ว่าเขาใส่สารตัวนี้มา ซึ่งสีแคปซูลตั้งแต่แรกไม่ใช่สีนี้ ไม่ใช่สีขาว นาราเป็นพรีเซ็นเตอร์ แคปซูลคือ สีชมพูเข้ม”

“นาราถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ที่ตรวจเจอสารคือล็อตไหน ตำรวจบอก ล็อตที่ 4 ดังนั้น ล็อตที่ 1-3 ไม่มีปัญหา”

“วันที่ตำรวจมารวบที่บ้าน นาราโทรหาเจ้าของแบรนด์เลยว่า มันมีสารเสพติดได้ยังไง ซึ้งเจ้าของแบรนด์ตอบว่า พี่ก็ไม่รู้”

“ตำรวจออกหมายจับ เจ้าของแบรนด์ นารา และบัญชีคนที่รับเงินโอน ที่โดนแน่ๆ คือ 3 คน แต่ตัวนารา แสดงความบริสุทธิ์ใจ แสดงหลักฐานต่างๆ ว่านาราไม่รู้ขั้นตอนการผลิต ซึ้งเจ้าของแบรนด์จะออกมาพูดเอง เพราะเขาเป็นคนเดียวที่คุยกับโรงงานผลิต”

“ส่วนตัวนารา ทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ในการโปรโมทสินค้า ไม่เคยขายเอง ไม่เคยทำโปรขาย 1 แถม 1 หรือ คนที่ทักมาในเพจ นาราไม่เคยตอบขาย และนาราไม่เคยเปิดรับตัวแทน สินค้ามีสารตัวนี้ได้อย่างไรมันขึ้นอยู่กับเจ้าของแบรนด์กับโรงงาน การที่เขาไม่ได้ต่อสัญญา หนูก็มีหลักฐานส่งตำรวจทั้งหมด”

“หนูต้องขอโทษทุกคน สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อของ ซื้อทางไหนให้ติดต่อไปทางนั้น ซื้อกับใครเคลมของตรงนั้น เพราะตัวแทนจะส่งเรื่องไปที่เจ้าของแบรนด์ และเจ้าของแบรนด์จะรับผิดชอบให้เต็มที่”

“นารา” สุดกลั้นปล่อยโฮ บอกว่า “หนูทำงานก็ทำให้ลูกค้าทุกคนพอใจ ใครไม่ได้มาอยู่จุดนี้ มาเจอคอมเมนต์มากๆ ยิ่งข่าวที่ออกมามีสารเสพติด ข่าวที่ออกมาหนูโดนคนเดียว จับนารา เครปกะเทย หนูเสียทั้งงานและชื่อเสียง หนูก็ต้องการความรับผิดชอบจากเจ้าของแบรนด์เหมือนกัน ไม่ใช่เฉพาะลูกค้า”

“เขาตรวจสอบหมดมีสารผิดก็คือผิด แต่ด้วยความที่เราไม่รู้ ถ้าหนูอยู่ที่โรงงานเห็นเขาใส่สารผิดหนูจะตบเลยว่าจะใส่ทำไม เพราะสินค้าที่หนูทำทุกตัวหนูก็ไม่เคยใส่ เราจะหลอกลวงผู้บริโภคทำไม หนูยังถามตำรวจเลยนะว่า สารตัวนี้ส่วนใหญ่มันอยู่ในยาลดน้ำหนัก มันไปอยู่ในกลูต้าได้ยังไง คุณตำรวจเขาก็งง หนูก็งง หนูเหนื่อยมาก เหนื่อยที่สุดในโลก”

“ตั้งแต่มีเรื่องลาซาด้าเข้ามา หนูโดนตัดแขนขาทุกอย่าง แม้กระทั่งเรื่องงาน เงิน หนูหมดตัวไปรอบหนึ่ง หนูกลับมาได้เพราะขายกล่องสุ่ม คนถามว่าล้มไปรอบหนึ่งกลับมาได้ยังไง หนูใช้ความเก่งความด้านของหนู แบบที่กะเทยล้อ ขอคนไม่นอนๆ หนูขายของได้กำไร ก็รีบไปปลดหนี้ ทำการตลาด ทำหลายอย่าง แต่ก็มีไม่เยอะ ต้องวางแผนชีวิตตัวเองใหม่ อยากได้อย่างคนอื่นก็ไม่ได้ อยากกินอะไรแบบคนอื่นบางครั้งหนูก็ไม่มี”

“ตั้งแต่โดนคดี112 หลายคนพูดตลอดว่ามึงไม่รอดแน่ มึงต้องเข้าคุก แต่ใจเราไม่ได้ทำแบบนั้น แต่หนูตัวคนเดียว ไม่มีใครมาช่วย หนูสู้ หนูเสียค่าทนายและคดีต่างๆ เป็นล้านๆ ของที่มีหนูขายหมด ศาลสั่งฟ้องคนเดียวคือหนู หนูนอนไม่หลับ หนูเครียด โดนหมดทั้งเรื่องกลูต้า โดนยกเลิกพรีเซ็นเตอร์ไม่มีงานเข้ามา โดนเซรั่มหนูขายไม่ได้ ล่าสุดโดนตำรวจยึดของไป หนูลงทุนกล่องสุ่ม แต่โดนตำรวจยึดไปหมดเลย ไม่มีช่องทางทำมาหากินแล้วตอนนี้ หนูสู้ตัวคนเดียวจนไม่รู้จะสู้ยังไงแล้ว หนูเหนื่อยที่สุด”

นอกจากนี้ “นารา” ยังลงไปนั่งกับพื้น ยกมือไหว้ทั้งน้ำตา พร้อมขอโทษและขอโอกาสจากผู้ใหญ่ว่า

“หนูเลยอยากจะขอโอกาสจากผู้ใหญ่ หนูขอคุณอานนท์ กลิ่นแก้ว , ท่านศรีสุวรรณ ที่ฟ้องหนูมา ถ้าหนูทำอะไรไม่ดี หรือทำให้หนูขัดใจท่าน หนูขอโทษไว้ ณ ที่นี้ ในวันที่หนูผิดพลาดในสายตาผู้ใหญ่ ในวันที่หนูเฟียร์ส หรืออะไรก็ตาม หนูขอโทษไว้ ณ ที่นี้ ท่านผู้ใหญ่คนไหนที่จะทำร้ายอะไรหนูอีก หนูขอโอกาสให้หนูได้มีช่องทางทำมาหากิน หนูรู้สึกผิดหมดแล้วทุกอย่าง ทุกอย่างที่หนูทำไปไม่เคยคิดร้ายกับใคร ไม่เคยจะฆ่าใคร ทุกเรื่องทุกราวที่หนูไปมีส่วนเกี่ยวข้อง หนูขอสัญญา สาบาน จากผู้ใหญ่ด้วยอย่าได้ทำอะไรหนูอีกเลย ขอของของหนูกลับมาขายเลี้ยงชีพของหนูต่อ”

“และหนูขอให้คดี 112 ให้ท่านได้เห็นถึงความยุติธรรมหรือความจริง หนูขอโอกาสจากใครที่มีอำนาจ เพราะเจตนาที่หนูทำไม่มีความตั้งใจอย่างที่เป็นหมายออกมาเลย หนูรู้สึกผิดและหนูสัญญาว่าหนูจะไม่กลับไปทำอะไรแบบนั้น หนูจะไม่ขอยุ่งเกี่ยว หนูจะจำเป็นบทเรียน หนูขอโอกาสให้หนูได้อยู่เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ ให้หนูได้ทำโอกาสดีๆ กับสังคม ขอให้ผู้ใหญ่เมตตาหนูด้วยเถิด”