จากกรณีเหตุชิงเงินจากพนักงาน 3.46 ล้านบาท หลังจากพนักงานบริษัท 2 คน เดินทางไปขอเบิกเป็นเงินสด ชายแต่งกายไรเดอร์ตีเนียนทำทีเป็นเหตุทะเลาะวิวาทชู้สาว ก่อนฉกกระเป๋าเงินไป จนต่อมาตำรวจได้สืบสวนจนรู้ว่าผู้ก่อเหตุ คือ น.ส.ประภาภรณ์ พนักงานหญิงที่ไปเบิกเงิน ได้ร่วมกับน้องชายคือชายชุดไรเดอร์ นายจตุพล บุญมีสนม อายุ 27 ปี วางแผนจัดฉากชิงเงิน ตำรวจได้ตามรวบตัวทั้ง 2 คนได้เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 65 แล้วนั้น
วันที่ 22 ก.ย. 65 ที่ สภ.บ้านบึง พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และพ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านบึง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาสองพี่น้อง ร่วมก่อเหตุชิงทรัพย์เงินบริษัท 3,460,000 บาท คือนายจตุพล บุญมีสนม อายุ 27 ปี และ น.ส.ประภาภรณ์ บุญมีสนม พนักงานหัวหน้าแผนกบัญชีของบริษัท อายุ 29 ปี เป็นพี่น้องกัน
ตำรวจได้ตามจับกุมตัวได้เมื่อวานนี้ หลังหลบหนีไปที่หอพักแห่งหนึ่งในเขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ โดยจับกุมตัวได้พร้อมด้วยของกลางเป็นเงินสดจำนวน 3,263,500 บาท
ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าบ้านเช่าของ น.ส.ประภาภรณ์ รถเก๋งสีแดงของตำรวจได้ขับมาส่ง น.ส.ประภาภรณ์ ช่วงเวลา 22.14 น. ของวันที่ 20 ก.ย. คืนหลังเกิดเหตุ จากนั้นให้ชุดสืบสวนคอยสังเกตพฤติกรรมหลังตำรวจไป เห็นว่ามีท่าทีร้อนรน และอยู่ไม่นิ่ง พยายามโทรศัพท์ติดต่อกับน้องชาย
จากนั้นเวลา 23.00 น. น.ส.ประภาภรณ์ เดินทางหลบหนีออกจากบ้าน ตำรวจได้ปล่อยให้หลบหนี เพื่อดูว่าจะติดต่อน้องชายอย่างไร แล้วแกะรอยเข้าจับกุม
นอกจากนี้ มีคลิปซึ่งเป็นช่วงที่ตำรวจชุดสืบสวน หลังเกิดเหตุได้ขี่รถวนเวียนสังเกตดูทั้งหน้าบ้านของนายจตุพล และน.ส.ประภาภรณ์ ซึ่งอยู่คนละหลัง ว่าได้ย้อนกลับมาที่บ้านหรือไม่ ช่วงเวลา 23.00 น. น.ส.ประภาภรณ์ได้หนีออกจากบ้านไปแล้ว
กล้องวงจรปิดเพิ่มเติม บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัล จ.ชลบุรี ช่วงเวลา 13.21 น. ของวันที่ 20 ก.ย. 65 ซึ่งเป็นภาพหลักฐานที่เห็นว่า หลังจากนายจตุพลเอารถเข้าอู่ และขึ้นวินรถจักรยานยนต์หนี ได้ให้วินรถจักรยานยนต์ไปส่งที่หน้าห้างเซ็นทรัล จากภาพกล้องจะเห็นว่าได้ลงจากรถอย่างใจเย็น ยืนรอเงินทอน ก่อนจะเดินไปที่ซื้อไอติมกินอย่างสบายใจ จากนั้นนายจตุพลเดินมุ่งหน้าเข้าห้างฯ เวลา 13.26 น.
และกล้องวงจรปิดภาพนิ่งอีกมุม เวลา 13.27 น. ภายในห้างโซนขายโทรศัพท์ นายจตุพลเดินไปเข้าร้านโทรศัพท์ ยืนเลือกซื้อโทรศัพท์เพื่อเตรียมการหลบหนีต่อ ตรวจสอบพบว่านายจตุพลซื้อโทรศัพท์มา 2 เครื่อง เป็นโทรศัพท์ยี่ห้อ หัวเว่ย และวีโว่
การจับกุมคนร้ายในครั้งนี้ ทีมข่าวยังได้ข้อมูลจากชุดสืบสวนว่าตำรวจได้ไปแกะรอยคนร้ายจากเฟซบุ๊กของนายเอ็ม ผู้ก่อเหตุ ซึ่งที่ผ่านมานายเอ็มเป็นคนติดโซเชียลฯ และชอบอัปโหลดรูปภาพอยู่เสมอ ตำรวจพบว่านายเอ็มเคยอัปโหลดรูปภาพขณะตนเองเป็นพนักงานขนส่งอาหาร ถ่ายตัวเองบริเวณหน้าบ้าน แต่ด้านหลังติดทั้งหมวกกันน็อกสีเขียว และกล่องส่งอาหารสีเขียว
นอกจากนี้ มีการถ่ายภาพบนรถมอเตอร์ไซค์ ชู 2 นิ้ว ซึ่งเห็นรองเท้านายเอ็มชัดเจน เป็นรองเท้าคู่เดียวกับคนร้ายที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ นอกจากนี้ มีภาพรถกระบะของพี่สาว ซึ่งก็มีสติดเกอร์ติดอยู่บริเวณหลังรถตรงกับภาพกล้องวงจรปิดอีก หลักฐานทั้งหมดนำไปสู่การแกะรอยของตำรวจและตามไปรวบตัวได้สำเร็จ
ด้านน้องมิ้น อายุ 21 ปี น้องสาวคนเล็ก บอกกับทีมข่าวว่า รู้สึกตกใจและเสียใจมากที่พี่ทั้ง 2 คนก่อเหตุแบบนี้ ยืนยันว่าที่ผ่านมาพี่สาวเป็นเสาหลักของบ้าน ขยันทำงาน และเลี้ยงดูครอบครัว หากมีเรื่องเครียดหรือปัญหาอะไรก็จะเก็บไว้คนเดียว ไม่บอกครอบครัวให้กังวลใจ
พี่สาวเป็นคนดี แต่อาจจะหลงผิดเกิดอารมณ์ชั่ววูบ กดดันอะไรหลายอย่าง ทำให้คิดสั้นไปก่อเหตุ ที่ผ่านมาพี่สาวยังส่งค่าเทอมให้ตนเองทุกเดือน เดือนละ 2,000 บาท และส่งเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ตลอดไม่ขาด หลังเกิดเหตุยอมรับว่าครอบครัวจะลำบากขึ้นแน่นอน
