จากกรณีที่ผัวเมียเลิกราหย่ากันได้ 2 เดือน ผัวตามง้อ แต่เมียใจแข็งไม่คืนดี ผัวใช้อาวุธปืนลูกโม่ยิงเมียดับ ก่อนยิงตัวตายตาม เหตุเกิดที่ร้านทำเล็บ ติดกับมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี
วันที่ 22 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ พูดคุยกับนางพจมาน หรือ หญิง อายุ 32 ปี พี่สาวของนางธิติมา หรือ แหม่ม ผู้ตาย อายุ 26 ปี เล่าว่า น้องแหม่ม ผู้ตาย แต่งงานอยู่กินที่บ้านของครอบครัว นายต็อบ ผู้ก่อเหตุ 10 ปีแล้ว แต่มีปัญหาระหองระแหง และทะเลาะกันมาตลอด
ซึ่งเวลาะทะเลาะกัน นายต็อบพูดจาเสียงดัง และชอบไล่น้องแหม่มออกจากบ้านอยู่เสมอ จนมาถึงช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เริ่มมีการท้าทายขอหย่ากัน เพราะแหม่มทนไม่ได้ที่ถูกสามีไล่ออกจากบ้านอยู่บ่อยครั้ง จนทั้งคู่ตัดสินใจหย่ากันในที่สุด ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นผู้หญิง อายุ 7 ขวบ คนเล็กเป็นผู้ชาย อายุ 4 ขวบ
หลังจากหย่ากัน แหม่มได้เปลี่ยนนามสกุลของลูกทั้ง 2 คนให้เป็นนามสกุลของครอบครัว หลังจากนั้นเช้าของวันนี้ ประมาณ 09.30 น. แหม่มโทรมาหาพี่สาว บอกว่าต็อบมาดักรออยู่ที่หน้าร้านทำเล็บ ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ
เมื่อต็อบได้คุยกับแหม่มภายในร้าน คาดว่าจะมีปากเสียงกัน เพราะต็อบพยายามที่จะมาขอแหม่มคืนดี แต่แหม่มใจแข็ง ไม่คืนดีด้วย จึงมีปากเสียงกัน ต็อบจึงใช้อาวุธปืนลูกโม่ที่พกติดตัวมาด้วย ยิงใส่แหม่ม 1 นัด ก่อนที่จะยิงตัวตายตาม
สำหรับแหม่มเป็นสาวหน้าตาดี ขยันทำมาหากิน ตั้งแต่ไปอยู่กับสามีก็ไม่เคยขอเงินพ่อแม่หรือรบกวนครอบครัวเลย ตนอยากจะบอกกับผู้ก่อเหตุว่า "มีอะไรทำไมไม่พูดคุยกันดี ๆ ทำไมถึงคิดสั้นแบบนี้ ทำอะไรทำไมไม่คิดถึงลูกทั้ง 2 คน"
นอกจากนี้ เฟซบุ๊กของนายปิยะ หรือ ต็อบ ผู้ก่อเหตุ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 63 ได้การโพสต์ภาพนิ่งและคลิปวิดีโอ เป็นภาพที่ต็อบกำลังสักรูปหน้าลูกและเมียไว้ที่กลางอก พร้อมกับระบุข้อความว่า "ความชอบส่วนตัว#ฝันดีครับ (สมาคมคนรักเมีย)"
ที่บ้านของผู้ก่อเหตุ ต.รางหวาย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี นางขวัญใจ ปั้นสุวรรณ อายุ 57 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ บอกว่า ต็อบและแหม่มแต่งงานอยู่กินกันมา 10 ปีได้ มีลูกด้วยกัน 2 คน แหม่มได้ย้ายมาอาศัยอยู่กับครอบครัว ทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะกันบ้างตามประสาผัวเมีย ซึ่งตัวเองเวลาโมโหจะพูดจาเสียงดังใส่ ส่วนปมที่ทั้งคู่ทะเลาะกันนั้นตนไม่ทราบ เพราะต็อบจะเป็นคนเงียบ เวลามีปัญหาไม่ค่อยพูดกับใคร
โดย 2 เดือนที่ผ่านมา ทราบว่าแหม่มได้ขอเลิกกับต็อบ และขอหย่า พร้อมกับได้ขนของ พาหลานทั้ง 2 คนไปอยู่ด้วย หลังจากนั้นต็อบก็ตามง้อแหม่มมาตลอดเ พราะต็อบเป็นคนรักลูกรักเมียมาก ส่วนแหม่มก็เป็นคนดี มีงานการที่ดี ช่วงเช้าตอนเกิดเหตุต็อบก็ตื่นเช้าตามปกติมาทำงานกวาดบ้านถูกบ้าน ไม่ได้พูดอะไรกับตนก่อนที่จะออกไปก่อเหตุสลด ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนมรดกที่ตกทอดมาจากคุณตา ได้ส่งต่อให้หลายคนละ 1 กระบอก นอกจากนี้ ตนก็อยากจะบอกกับต็อบเป็นครั้งสุดท้ายว่า "แม่รักต็อบที่สุด ต็อบเป็นคนดีของแม่ แม่ขออะไรก็ให้แม่ทุกอย่าง ไม่เคยขัดเลย"
นางมนต์พร อายุ 51 ปี แม่ของน้องแหม่ม ผู้เสียชีวิต เล่าว่า หลังจากที่น้องแหม่มได้หย่าขาดกับสามี เพราะเวลาทะเละกันจะถูกสามีไล่ออกจากบ้านอยู่บ่อยครั้ง เมื่อทางครอบครัวทราบเรื่องก็รู้สึกรับไม่ได้ที่ต็อบทำกับน้องแหม่มแบบนี้ น้องแหม่มและครอบครัวก็มีศักดิ์ศรี มีงานมีการทำ หลังจากนั้นต็อบก็ได้พยายามง้อน้องแหม่มเรื่อยมา และได้มากราบเท้าขอขมาพ่อและแม่ของน้องแหม่ม เพื่อให้ยกโทษในสิ่งที่ต็อบเคยด่าว่า และไล่แหม่มออกจากบ้าน
ซึ่งในขณะที่ต็อบกำลังกราบขอขมานั้น รู้สึกว่าสายตาต็อบมีอะไรค้างคาอยู่ในใจ แต่ก็ไม่อยากจะคิดเรื่องที่ไม่ดี พ่อและแม่ก็ได้ให้อภัยต็อบ พร้อมกับบอกว่าอย่าทำให้แหม่มเสียใจอีก โดยตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ลูกสาวได้หย่ากลับสามี แม่ได้โทรไปให้กำลังใจน้องแหม่มทุกวัน ซึ่งแหม่มก็ไม่เคยบอกว่าหลังจากนั้นมีปากเสียงปากเสียงกับต็อบอีกหรือไม่
ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ต็อบก็เพิ่งมารับแหม่มและลูกไปเที่ยวด้วยกันอยู่เลย ไม่ทราบสาเหตุที่ต็อบลงมือก่อเหตุสลด เมื่อ 2 วันก่อนเกิดเหตุแม่ได้แวะไปแหม่ม ก่อนกลับพ่อได้กอดแหม่ม พร้อมกับให้พร จังหวะนั้นน้องแหม่มได้ดึงแม่เข้าไปกอด ปกติน้องแหม่มไม่เคยกอดแม่แบบนี้ เพราะปกติแหม่มจะสนิทกับย่า ไม่คิดว่าจะเป็นกอดสุดท้ายกับลูกสาว
นอกจากนี้เ มื่อสัปดาห์ก่อนตนได้ฝันว่าพี่เขยของแหม่มฟันกลางหลุดออกจากปาก จึงบอกให้ลูก ๆ ไปทำบุญ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำเพราะเกิดเหตุสลดเสียก่อน จากเหตุที่เกิดขึ้น พ่อและแม่ยอมอโหสิกรรมให้กับผู้ก่อเหตุ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ทำใจได้ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ขอให้ต็อบไปสู่ภพภูมิที่ดี หากพบกันใหม่ก็ขอให้ทำแต่สิ่งที่ดี ๆ "ขอให้แหม่มไปสู่สุคติ ไปเกิดใหม่เป็นนางฟ้า ถ้าเกิดเป็นคน ก็ขอให้เป็นคนดี ทำแต่สิ่งที่ดี ๆ"
