เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 20 ก.ย. 65 เกิดเหตุ คนร้ายใส่ชุดไรเดอร์ ก่อเหตุขี่รถมอเตอร์ไซค์ใช้อาวุธปืนปลอม จี้ชิงเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท จากพนักงานบริษัท บริเวณถนนราษฎรอุทิศ ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ต่อมา พลตำรวจตรีอิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 หลังเกิดเหตุได้เรียกประชุมด่วน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ้านบึง, ชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมสั่งไล่ล่าตัวไรเดอร์
วัทนี่ 21 ก.ย. 65 บรรยากาศที่ สภ.บ้านบึง ตั้งแต่ช่วงบ่าย ตำรวจสอบปากคำนายกฤษชภัชร์ สุรกุล อายุ 24 ปี พนักงานขับรถ เจ้าตัวยังคงยืนยันคำเดิมว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการชิงเงิน ทันทีที่ตำรวจนำตัว นายกฤษชภัชร์ ออกจาก สภ.บ้านบึง เจ้าตัวยังคงปิดปากเงียบ ไม่พูดอะไรอีกแล้ว มีแม่ของนายกฤษชภัชร์ตามขึ้นรถตำรวจไปด้วย ซึ่งไม่ทราบว่าตำรวจพาตัวไปที่ไหน แต่คาดว่าน่าจะนำตัวไปสอบปากคำ ขยายผลที่อื่นต่อ
น.ส.ประภาพร บุญมีสนม อายุ 29 ปี เสมียนของบริษัท เล่าให้ทีมข่าวฟังเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 65 ว่า ตนเองนั้นได้มาเบิกเงินกับธนาคารกรุงเทพสาขาบ้านบึง เพื่อเอาไปจ่ายค่าแรงให้กับพนักงาน โดยมีนายกฤษชภัชร์ สุรกุล อายุ 24 ปี เป็นคนขับได้จอดรถเอาไว้ที่จุดเกิดเหตุ แล้วเดินเข้าไปเบิกเงินจำนวนเงิน 3,500,000 บาท
มีชายรูปร่างใหญ่สวมชุดสีเขียวแต่งกายเป็นไรเดอร์ส่งอาหารเปิดประตูรถเข้ามา พร้อมกับพูดว่า “มึงชอบเมียชาวบ้านมากใช่ไหม” ก่อนที่จะชกต่อยกัน จากนั้นนายกฤษชภัชร์ คนขับ ใช้เท้าถีบชายคนที่มาทำร้าย แต่ถูกคนร้ายอ้างว่า “กูมีปืน” ทำ ให้นายกฤษชภัชร์ วิ่งหนีจากรถเข้าไปในซอย ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งตามหวังจะทำร้าย และมีการฉกเงินไปได้
ตรวจสอบในเฟซบุ๊กของนายจตุพล ผู้ก่อเหตุ พบว่าตั้งแต่ ก.พ. 63 เฟซบุ๊กไม่ได้เคลื่อนไหวแล้ว มีเพียงคลิปเก่าที่เจ้าตัวชอบเต้น และร้องเพลงในไลฟ์ นอกจากนี้ยังพบว่า นายจตุพลมักจะโพสต์เกี่ยวกับการพนัน และเล่นหวยออนไลน์อยู่ตลอดด้วย
ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านเช่าของนายเอ็ม พูดคุยกับ นายบอย อายุ 24 ปี เพื่อนสนิทของนายเอ็ม ผู้ก่อเหตุ บอกว่า ก่อนหน้านายเอ็มได้มาเช่าบ้านร่วมกับตนเองอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาทะเลาะกับแฟนสาว ชื่อแนน บ่อยมาก ทะเลาะกันทุกวัน ส่วนวันที่เกิดเหตุตนเองไม่ทราบ ว่าไปก่อเหตุชิงเงิน 3 ล้านบาท เพิ่งมาเห็นจากข่าว และรถกระบะที่ใช้หลบหนี ก็เป็นรถของ น.ส.ประภาพร พี่สาวของเอ็ม ซึ่งนายเอ็มได้เอามาจอดไว้ที่หน้าบ้านเช่า ก่อนจะเกิดเหตุประมาณ 2 วัน
ทีม่ขาวได้รับภาพวงจรปิดเพิ่มเติม เวลา 11.36 น. เห็นรถของนายจตุพลขี่ผ่านชุมชน ระหว่างกำลังเลี้ยวโค้ง กระเป๋าเงินสด 3.4 ล้านบาท ที่นายจตุพลวางไว้บริเวณตัก ได้หล่นลงพื้นถนน จากนั้นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดก้มเก็บกระเป๋าเงินขึ้น ขี่รถหลบหนีต่อไป
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งภาพผู้ต้องหา พร้อมกับของกลางเงินสด ยึดเงินคืนได้ 3,263,500 บาท จากยอดทั้งหมด 3,460,000 บาท
