จากกรณีการตายของเด็กนักเรียนในพื้นที่ จ.นนทบุรี เกี่ยวกับสาเหตุคาดการณ์ว่า ปืนลั่นภายในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนย่านบางบัวทอง โดยแม่ของผู้ตายน.ส.ปวีณา และ นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา เดินหน้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม ยังติดใจเหตุปืนลั่น และไม่เชื่อว่าน้องกับมือปืนเป็นเพื่อนกัน
วันที่ 17 ก.ย. 65 ทีมข่าวได้พบกับ นายเซนส์ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นายกานต์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และนายเบลล์ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี กลุ่มเพื่อนของต้า ที่ช่วยนำปืนไปทิ้งหลังเกิดเหตุ
ทั้ง 3 คนระบุว่า ต้า โทรศัพท์มาบอกว่ามีเรื่อง พวกตนจึงออกไปหาที่โรงเรียน ตอนแรกคิดว่าเป็นเรื่องชกต่อยเล็กน้อย แต่เมื่อไปถึงต้านำเสื้อกันหนาวที่ห่อปืนมาใส่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ของพวกตน ซึ่งขณะนั้นยังไม่รู้ว่ามีปืนอยู่ด้วย เมื่อมาถึงบ้านจึงหยิบเสื้อมาสะบัดพบปืนตกพื้น และเริ่มรู้ข่าวที่ต้าแชทไปบอกเพื่อนอีกคนว่าปืนลั่น จึงตัดสินใจนำปืนไปทิ้งริมคลอง มีเพื่อนอีก 2 คนคือ นายวิน และนายกร ไปด้วย โดยนายเซนส์ยอมรับเป็นคนทิ้งปืนตามภาพในกล้องวงจรปิด
พวกตนไม่ได้ตั้งใจปกปิดหรือทำลายหลักฐาน แต่เหตุที่ต้องทิ้งปืนเพราะกลัวความผิด ไม่อยากเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากปืนอยู่ที่ตน หลังจากนั้นพวกตนก็เข้าไปพบตำรวจไม่ได้หนีไปไหนและให้ความร่วมมือกับตำรวจเต็มที่
ส่วนปืน นายเซนส์ ยอมรับว่าเป็นของตัวเอง เก็บไว้ที่บ้าน แต่นายต้าน่าจะแอบหยิบไป ตัวเองก็เพิ่งรู้ตอนเกิดเหตุแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้า ยืนยันกับพวกตนว่าทำปืนลั่นไม่ตั้งใจยิง เจ้าตัวเอาปืนไปโรงเรียนเพราะมีปัญหากับเพื่อนอีกคนไม่ใช่น้องโชค โดยเก็บปืนไว้ในเสื้อกันหนาว ระหว่างนั้นหยิบเสื้อกันหนาวออกมาจะเล่นเอาเสื้อกันหนาวตีน้องโชค แต่ปืนเกิดตกพื้นแล้วลั่นใส่น้องโชค ทั้งนี้พวกตนก็อยากให้ต้าไปขอขมาศพน้องโชค เพราะทั้ง 2 คน ก็เป็นเพื่อนกัน แต่ก็กลัวเรื่องความปลอดภัย
ขณะที่บรรยากาศศาลาตั้งศพน้องโชค ที่วัดราษฎร์ประคองธรรม ศาลา 2 ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี มีเพื่อน ๆ ของน้องโชค เดินทางไปร่วมงาน โดย ด.ญ.พลอย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เพื่อนของน้องโชค เข้าไปลูบโลง เคาะโลง ชวนเพื่อนกินข้าว พร้อมบอกว่าวันเผาจะเอาเสื้อนักเรียนมาให้
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือ ผู้การแต้ม อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ความเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า คำว่า ”ปืนตกแล้วปืนลั่น” ว่า กรณีการใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ซึ่งไม่ว่าจะผลิตขึ้นมาในลักษณะแมกกาซีนหรือลูกโม่ หรือแม้แต่ลูกต่อลูก จะไม่มีคำว่า ”ลั่น” ได้ เพราะปืนจะต้องมีรังนกเพื่อที่ทำหน้าที่ในการสับไกลปืนให้สัมพันธ์กัน
และสิ่งที่จะทำให้ปืนใช้งาน (ยิง) ได้ ก็คือ นิ้วมือ ที่จะต้องเกี่ยวอยู่ที่ไกลปืนเท่านั้น หรือถ้าหากมีการคาดการณ์ว่าอุปกรณ์แป้นพิมพ์ไปเกี่ยวโดน นั่นหมายถึงว่าปืนไทยประดิษฐ์กระบอกดังกล่าวมีการตั้งไกลปืนอ่อนมากแค่สกิดก็ยิงหรือใช้งานได้ แต่ส่วนตัวในฐานะผู้ที่เชี่ยวชาญและใช้อาวุธปืนหลักหลายชนิด และเคยสัมผัสกับอาวุธปืนชนิดไทยปั่นหลายแบบ ยืนยันว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้กรณีปืนตกแล้วลั่น นิ้วจะต้องอยู่ที่ไกลปืนเท่านั้น
ผู้การแต้ม กล่าวทิ้งท้าย ”เหตุการณ์ปืนลั่นไม่ได้เกิดขึ้นในห้องคอมพิวเตอร์ เชื่อว่าเด็กเอาปืนมาเล่น เพราะปืนจะถูกยิงก็ต่อเมื่อนิ้วมืออยู่ในไกปืน หากตกกระทบสิ่งของ และยิงไปโดนจุดอื่นก่อนที่จะเข้าตัวคน จะเกิดแรงเฉื่อย ทำให้วิถีกระสุนมีความรุนแรงน้อยลง และกระสุนปืนที่ถูกยิงก็จะแตกออกเพราะไปกระทบหลายวัตถุ”