หนุ่ม 17 สุดงง ขึ้นรถเมล์แล้ววูบก่อนโผล่กลางป่า ต้องปีนมะพร้าวกินน้ำประทัง ก่อนเจอคนช่วย (คลิป)

24 เม.ย. 62
ภายหลังจากที่ญาติออกตามหา นายนวพล มาตช่วง หรือ เอิร์ท อายุ 17 ปี หลังเข้ามาฝึกงาน​และพักอาศัยย่านดินแดง​ กรุงเทพฯ โดยหายตัวไปตั้งเเต่วันที่ 12 เม.ย. 62​ ต่อมามีคนเก็บโทรศัพท์นายนวพลได้ที่ย่านสุขุมวิท 71 จนกระทั่งเวลา 21.00 น. ของ​วันที่ ​17​ เม.ย. 62​ มีผู้พบนายนวพลในสภาพผอมโซ​ ที่คอมีรอยแผลคล้ายถูกเชือกรัด​ กลับมาที่ห้องพักเอง วันที่ 23 เม.ย. 62 ที่บ้านเชียงยืน ต.เชียงยืน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นบ้านแม่ของนายนวพล โดยพบว่าญาติพี่น้องเดินทางมาถามสารทุกข์สุกดิบ พร้อมกับผู้ข้อมือรับขวัญตามประเพณีชาวอีสาน
นายนวพล (เสื้อแดง) เข้าพิธีผูกข้อมือรับขวัญ
นายนวพล เล่าว่า วันที่ 12 เม.ย. เวลา 05.00 น. ตนได้ออกจากห้องพักบริเวณย่านดินแดง เพื่อไปฝึกงานที่ร้านสะดวกซื้อ ย่านถนนพหลโยธินซอย 8 โดยใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ระหว่างนั่งรถอยู่ ก็เผลอหลับไป กระทั่งรู้สึกตัวอีกครั้ง น่าจะเป็นช่วงบ่ายของวันที่ 13 เม.ย. 62 มองไปรอบทิศมีแต่ภูเขา และต้นไม้ ตอนนั้นตนรู้สึกมึนงง ไม่รู้ว่ามาโผล่ที่ตรงนั้นได้อย่างไร เมื่อรู้สึกตัวก็ต้องหาทางเอาตัวรอดเพื่อออกจากภูเขา โดยเดินไปเรื่อย ๆ แบบไม่รู้ทิศทาง ค่ำไหนนอนที่นั่น จนกระทั่งเจอบ้านร้าง ตนเข้าไปหวังจะพักผ่อน แต่ก็มีคนพักอยู่ในนั้น จึงได้ขอความช่วยเหลือ แต่ชาวบ้านก็ไม่กล้าช่วยเหลือ เนื่องจากสภาพตอนนั้นเหมือนคนขอทาน เสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ย ไม่ได้สวมใส่รองเท้า
นายนวพล มาตช่วง หรือ เอิร์ท ผู้ประสบเหตุ
ขณะนั้นตนทราบเพียงว่า อยู่ในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากนั้นตนก็เดินทางไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมายปลายทาง หิวน้ำก็ปีนต้นมะพร้าวดื่มประทังชีวิต จนกระทั่งมาพบร้านซ่อมจักรยานยนต์ ตนจึงแวะเข้าไปถามทาง เจ้าของร้านซ่อมจักรยานยนต์ใจดี ถามตนว่ามาจากที่ไหน ตนก็บอกว่าหลงทางจึงได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เจ้าของร้านซ่อมรถจึงให้เสื้อผ้าใส่ และให้เงินขึ้นรถไฟกลับบ้าน
นางสาวชรินรัตน์ หีบแก้ว แม่นายนวพล
ด้านนางสาวชรินรัตน์ หีบแก้ว แม่นายนวพล เปิดเผยว่า เมื่อได้ยินข่าวตอนแรก รู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดกับลูกชายของตน ตอนแรกคิดว่าคงไปเที่ยวกับเพื่อน หรือมีปัญหาเรื่องงาน แต่เพื่อนก็ไม่รู้ว่าลูกชายอยู่ที่ไหน ตนโทร.ไปหาลูกชาย แต่คนรับสายเป็น รปภ. บอกกับตนว่าเก็บโทรศัพท์ได้ ตนก็ยิ่งตกใจ คิดว่าน่าจะมีอันตรายกับลูกชายแน่นอน จึงโทร.ไปปรึกษาครูและอาจารย์ เพื่อช่วยกันออกตามหา พร้อมกับแจ้งความกับตำรวจเพื่อช่วยติดตามหาอีกทางหนึ่ง
ร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของนายนวพล
ร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของนายนวพล
จนกระทั่งลูกชายกลับมา ตนรู้สึกดีใจมาก ที่ลูกชายไม่เป็นอะไรมาก มีเพียงรอยช้ำเหมือนโดนเชือกรัดที่คอ และรอยแผลถลอกที่ด้านหลัง ซึ่งหลังจากนี้จะให้ลูกชายกลับมาฝึกงานที่บ้าน ไม่อยากให้เดินทางไปไหน เกรงว่าจะเกิดอันตรายอีก
พื้นที่ซอยพหลโยธิน 8 กรุงเทพฯ
นอกจากนี้ ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ซอยพหลโยธิน 8 ร้านสะดวกชื้อ ที่นายนวพลฝึกงานอยู่ โดยนางสาวปัง (นามสมมติ) เพื่อนร่วมงาน บอกว่า นายนวพลหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. ผู้จัดการร้านได้พยายามติดต่อทางโทรศัพท์แ ต่ไม่มีคนรับสาย และก็ไม่ทราบสาเหตุว่าเพราะอะไรถึงไม่มาทำงาน กระทั่งเจ้าตัวกลับมาอีกครั้งวันที่ 15 เม.ย.
นางสาวปัง (นามสมมติ) เพื่อนร่วมงานนายนวพล
สำหรับการหายตัวไป เกิดขึ้นที่ป้ายรถเมล์บริเวณที่พัก ย่านดินแดง ซึ่งนายนวพลได้ใช้รถเมล์โดยสาร เพราะเจ้าตัวไม่ใช้แท็กซี่ หรือวินมอเตอร์ไซค์ แต่ด้วยความเป็นเด็กต่างจังหวัด อาจจะนั่งรถผิดสาย และทำให้ไปลงผิดที่ หรืออาจถูกมิจฉาชีพป้ายยา เพราะโดยปกติเจ้าตัวจะเป็นคนมีความรับผิดชอบและมาทำงานตรงเวลา ขยันทำงาน และเป็นคนนิสัยดี ส่วนเรื่องของการแต่งกายก็แต่งตัวปกติ ชุดพนักงาน ไม่มีทรัพย์สินล่อตาล่อใจคนร้าย มีเพียงโทรศัพท์มือถือ และกระเป๋า 1 ใบ ไม่ได้สวมใส่ทอง หรือของราคาแพงแต่อย่างใด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ