จากกรณีผู้เสียหายซึ่งเป็นอดีตทหารหญิง เข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพงศ์ รอง ผบก.ฯ รรท.ผกก.สภ.เมืองราชบุรี พร้อมแจ้งความกับตำรวจ ให้ดำเนินคดีทางอาญากับนายจ้าง ส.ต.ท.หญิง ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.9 ปัจจุบันช่วยราชการ กอ.รมน.ภาค 4 ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นภรรยาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในข้อหาทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ
วันที่ 24 ส.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี พูดคุยกับนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังเมื่อวานนี้ ได้พาผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และ สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเอาผิดกับนายคมสิทธิ์ จังพานิช น้องชายนักการเมืองท้องถิ่น อ.โพธาราม เป็นแฟนหนุ่มคนปัจจุบันของ ส.ต.ท.กรศศิร์ ในข้อทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเพิ่ม
ขณะที่มีรายงานว่าแฟนหนุ่มคนดังกล่าวจะเข้าไปมอบตัวกับพนักงานสอบสวน ในวันพรุ่งนี้ เวลา 09.00 น. ที่ สภ.ชะอำ โดยกัน จอมพลัง และทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ยืนยันจะใช้สิทธิ์การคัดค้านประกันตัวตามหลักของกฎหมาย เนื่องจากเกรงว่าแฟนหนุ่มคนดังกล่าวจะมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และผู้เสียหายจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะเขาเคยข่มขู่ผู้เสียหายมาก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องอยู่หลายครั้งจากความไม่พอใจ และแฟนหนุ่มคนนี้มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายไม่ต่างจาก ส.ต.ท.กรศศิร์
ส่วนกรณีที่แฟนหนุ่มคนดังกล่าว ให้สัมภาษณ์สื่ออ้างว่าเป็นการทำโทษเพราะต้องการสั่งสอน และถ้าบอกว่าดูแลแบบญาตินั้น ตนจึงอยากตั้งคำถามกลับไปว่าถ้าสั่งสอนกันทำไมถึงต้องใช้เครื่องชอร์ไฟฟ้า จุดไฟไหม้ผม ทำโทษจนจมูกหัก ไม่พาไปรักษาตัว ซึ่งผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรมมานานแล้ว ถ้าคุณบอกว่ารักและเอ็นดูเหมือนลูกหลาน แล้วทำไมไม่พาไปหาหมอ
ในวันนี้ผู้เสียหายหลุดพ้นจากนรกแล้ว เขาควรออกมาทวงความยุติธรรมที่เขาควรจะได้รับ ตนยืนยันได้ว่าผู้เสียหายไม่ได้มาเป็นเครื่องมืออะไรของใคร ไม่มีเหตุผลในการให้คน ๆ หนึ่งไปทำร้ายอีกคน ผู้ก่อเหตุไม่ควรเอาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเองตนรับไม่ได้แบบนี้ และคนก่อเหตุไม่เคยออกมาขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป ตอนนี้สังคมยังมีการตั้งคำถามว่าผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายรุนแรงทำไมถึงไม่หนีออกมา เหตุผลเพราะเกรงกลัวที่ถูกขู่และกลัวอิทธิพลของฝ่ายคู่กรณี ที่แอบอ้างว่าเป็นเมีย ส.ว. และรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคม เห็นได้จากภาพที่ผู้ก่อเหตุเคยไปงานวันเกิดผู้หลักผู้ใหญ่สำคัญของบ้านเมือง มีหลักฐานทั้งหมด ดังนั้นสิ่งที่เขาขู่ยังไงใครก็กลัว
ขณะเมื่อวานไป สภ.ชะอำ มีคนสะกดรอยตามเอาข้อมูลมาให้ ส่วนอีกคนโทรมาอธิบายวันเกิดเหตุให้ฟังว่าคนนี้พฤติกรรมอะไรยังไง ตอนนี้หนึ่งในสองพร้อมเป็นพยานในคดี เอกสารหลักฐาน มีการแต่งตั้งมีข้อมูลต่าง ๆ ชื่อคนแต่งตั้งในเอกสารเห็นแล้วน่าตกใจ คนใหญ่คนโต ส่วนหลักฐานที่แฟนหนุ่มจะนำไปยืนยันกับพนักงานสอบสวนหรืออ้างว่าเป็นการสั่งสอนเชื่อไม่ได้ ไม่มีใครทำร้ายลูกหรือญาติอาการสาหัสแบบนี้ ที่บอกแผลน้อยจะบอกว่าเขาทำหลักฐานปลอมเอง หรือตีตัวเองเพื่อมาใส่ร้ายเขาหรอ ทำเพื่ออะไร
ด้านนางสาวปิ่น (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ยอมรับว่าตอนนี้มีรู้สึกกังวลใจ และหวาดกลัวจากเดิม หลังจากที่แฟนหนุ่มออกมาให้สัมภาษณ์ ในลักษณะที่พูดถึงความปลอดภัย หลังจากนี้พร้อมข่มขู่ว่ากังวลเพราะบ้านของผู้เสียหายและแฟนหนุ่ม ส.ต.ท.หญิงคนดังกล่าวอยู่ห่างกันไม่มาก ตนและครอบครัวต้องอาศัยในพื้นที่ จ.ราชบุรี ตนจึงเป็นห่วงชีวิตของครอบครัว เพราะก่อนหน้านี้แล้ว ก็เคยถูกแฟนหนุ่มของ ส.ต.ท.หญิงข่มขู่ ทุกครั้งที่เกิดความไม่พอใจของแฟนหนุ่ม
นอกจากประเด็นถูกทำร้ายร่างกายและข่มขู่แล้ว ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ เคยให้ตนเองนำเงิน 50,000 บาท ไปซื้อวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐประศาสนศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ช่วงปี 2560-2561 จนได้เข้ารับปริญญา ทั้งที่ตนเองไม่เคยเห็น ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ ไปเรียนหนังสือเลย ส่วนวุฒิ ปวส. ที่ ส.ต.ท.กรศศิร์ ใช้สมัครรับราชการทหารพบว่าเรียนจบจริง
โดนในวันที่นำเงินไปจ่ายที่มหาวิทยาลัยดังกล่าว มีขั้นตอนคือไปติดต่อกับมหาลัยโดยตรง เข้าห้องพิเศษ ตัวเองเป็นคนนำเงินไปจ่ายให้ซึ่งให้เป็นเงินสด โดยบอกกับเจ้าหน้าที่ว่ามารับวุฒิจบ ป.ตรี ให้ส.ต.ท.กรศศิร์ ส่วนเจ้าตัวน่าจะไปรับวุฒิเอง เพราะเห็นเข้ารับปริญญาด้วย
ทีมข่าวเดินทางไปสอบถามข้อมูลจากมหาวิทยาลัยเอกชน ซึ่งมีการสอบถามไปยังฝ่ายทะเบียนของมหาวิทยาลัยเอกชน พบว่า ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ เคยเรียนที่นี่จริง โดยเรียนปริญาตรีในคณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ รหัสนักศึกษาขึ้นต้นด้วย 58 คือปีพ.ศ.ที่สมัครเข้าเรียน และสำเร็จการศึกษาในปี 2561
รองคณบดีของมหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นจะมีการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงก่อน มหาวิทยาลัยเปิดสอนมาหลายสิบปี ไม่เคยมีการให้ซื้อวุฒิด้วยเงิน 50,000 บาท ซึ่งในส่วนนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นค่าเทอมหรือไม่ แล้วผู้เสียหายอาจจะมีข้อขัดแย้งกัน อาจจะกล่าวหากันก็เป็นไปได้
ส่วนการรับเข้าเรียนในสาขาวิชานั้น ใครก็สามารถสมัครมาเรียนได้ แม้จะใช้วุฒิ ม.6 หรือ ปวส.ทุกสาย ถ้าเป็นปวส.ก็เรียนต่ออีกแค่ 2 ปีก็จบแล้ว มีช่วงของการที่โควิด-19 ระบาดทางมหาวิทยาลัยมีการเรียนออนไลน์ แล้วอาจจะมีความเข้าใจผิดก็ได้ ส่วนความผิดในคดีอาญาเป็นเรื่องส่วนบุคคล ซึ่งไม่เกี่ยวกับทางมหาวิทยาลัย หากมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว พบว่ามีการกระทำความผิด ก็จะมีการทำโทษ ซึ่งตอนนี้ทางอธิการบดีของมหาวิทยาลัยขอตรวจสอบก่อน
ขณะที่ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ ย้ำถึงประเด็นรับ ส.ต.ท.หญิง เข้าราชการตำรวจ อยากให้หน่วยงานตรวจสอบว่ามีการเข้ารับราชการถูกต้องตามกฎระเบียบหรือไม่ รวมถึงการนำผู้เสียหาย เข้าบรรจุรับราชการทหารได้อย่างไร และประเด็นเรื่องการออกใบรับรองแพทย์ถูกต้องหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่มาของวุฒิการศึกษา ว่าการซื้อวุฒิในประเทศไทยทำได้จริงหรือ อยากให้ตรวจสอบผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดต้องออกมารับผิดชอบ หลายคนอยากเรียนทำทุกวิถีทางกว่าจะหาเงินส่งลูกเรียนจนจบปริญญาตรี ต้องตั้งใจเรียนมากน้อยแค่ไหน แต่ ส.ต.ท.หญิง ใช้ทางลัดมาซื้อใบปริญญาตรีแค่ 50,000 บาท ได้หรือไม่นั้น
