คดีหลานอดีตรัฐมนตรี ทนายตั้ม พาดาราสาวทวงความคืบหน้า หลังถูกขืนใจในพูลวิลล่า

24 ส.ค. 65

คดีหลานอดีตรัฐมนตรี ทนายตั้ม พาดาราสาวทวงถามความคืบหน้าที่ สน.โชคชัย คดีถูกหลานรัฐมนตรีวางยาแล้วขืนใจในพูลวิลล่า

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 24 สิงหาคม ที่ สน.โชคชัย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พา น.ส.แนน (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ดารานักแสดง และพี่สาว เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย เพื่อเข้าติดตามความคืบหน้าทางคดี หลังถูกหลานของอดีตรัฐมนตรีข่มขืน ที่พูลวิลล่าแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา และได้เข้าแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม แต่คดีไม่มีความคืบหน้า

นายษิทรา เปิดเผยว่า วันนี้พา น.ส.แนน มาติดตามความคืบหน้าทางคดี เนื่องจากเคยแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยในวันเกิดเหตุ ผู้เสียหายไม่รับรู้ว่าถูกกระทำ แต่ทางผู้ก่อเหตุอ้างว่าผู้เสียหายสมยอม โดยผู้ก่อเหตุถือเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ โดยผู้ก่อเหตุเป็นหลานของอดีตรัฐมนตรี และทราบว่าจะลงเล่นการเมือง มีเป้าหมายถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งผู้ก่อเหตุอ้างว่าจะมีการจัดงานเพลง จึงชักชวนผู้เสียหายไปคุยเรื่องงานที่วิลล่าแห่งหนึ่ง แต่กลับวางยาให้ผู้เสียหายไม่รู้สึกตัว นอกจากนี้ ระหว่างอยู่ที่สำนักงานของตน ญาติของผู้ก่อเหตุได้โทรมาหาผู้เสียหาย พูดโอ้อวดทำนองว่า จะมีงานใหญ่กับรัฐบาล ไม่อยากให้ดำเนินคดี เพราะจะเสื่อมเสียชื่อเสียงทั้งสองฝ่าย อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพูดจาไม่ดีต่อผู้เสียหาย ทำนองว่าไม่อยากให้เป็นข่าวหรือมีการแต่งตั้งทนายความ เพราะเกรงว่าเรื่องจะยุ่งยาก

หลานอดีตรัฐมนตรี

ขณะที่ น.ส.แนน กล่าวว่า ขณะนี้ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาพยายามทำทุกวิธีทาง แต่กลับไม่ได้รับความยุติธรรม จึงตัดสินใจลุกขึ้นมาต่อสู้ ล่าสุดทางฝ่ายผู้ก่อเหตุได้มีการโทรศัพท์มาข่มขู่ โดยอ้างหน้าที่ทางการเมือง อีกทั้งตนเองรู้สึกกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าจะมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานแต่ตนไม่ใช่ผู้กระทำความผิด จึงอยากทำสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งหากเรื่องแล้วเสร็จ ก็วอนขอผู้ใหญ่ในวงการให้ความเมตตา แต่ขณะนี้อยากทำสิ่งที่ถูกต้องก่อน

ขณะที่ น.ส.เฟิร์น (นามสมมติ) อายุ 25 ปี พี่สาวของผู้เสียหาย กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนพยายามจะนำน้องสาวออกมาจากที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ มาทราบภายหลังว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นของนายตำรวจคนหนึ่ง หากเข้าไปได้ทันที เหตุการณ์ดังกล่าวคงไม่เกิดขึ้นกับน้องสาว นอกจากนี้ ยังพบว่าขณะที่มาแจ้งความ ตำรวจได้มีการพูดจาในไม่ดีต่อน้องสาวตน โดยล่าสุดทางญาติผู้ก่อเหตุได้ติดต่อมา อ้างว่าเป็นหุ้นส่วนของสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ และต้องการวางตัวให้ผู้ก่อเหตุเป็นนายกรัฐมนตรี จึงยื่นข้อเสนอเรื่องงานในวงการบันเทิงแลกกับการที่จะไม่ดำเนินคดี รวมถึงจะให้เงิน แต่ยืนยันว่าจะเอาผิดให้ถึงที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.พรทวี กล่าวว่า ตั้งแต่ได้รับการแจ้งความจากผู้เสียหาย ได้มีการดำเนินการสอบปากคำตามขั้นตอนทางกฎหมายแล้ว แต่ทางผู้เสียหายต้องการให้สอบปากคำเพิ่มเติมใน 2-3 ประเด็น จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินการโดยทันที ยืนยันว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส