ประธานาธิบดี เอมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ประกาศวานนี้ว่า จะฟื้นฟูมหาวิหาร นอเทรอดาม ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ โดยตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี และจะเป็นความร่วมไม้ร่วมมือของชาวฝรั่งเศสทุกคน ในการฟื้นฟูสัญลักษณ์ประชาติอันเป็นจิตวิญญาณของชาวฝรั่งเศสแห่งนี้
ประธานาธิบดี มาครง แถลงผ่านโทรทัศน์ในช่วงเวลาสั้นๆ เรื่องเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ใจกลางกรุงปารีส โดยผู้นำฝรั่งเศส ได้ลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุเมื่อวันจันทร์ และให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟูมหาวิหารเก่าแก่ที่โครงสร้างบางส่วนมีอายุย้อนไปไกลถึงศตวรรษที่ 12
ประธานาธิบดี เอมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส
ยอดแหลมของหอคอยมหาวิหาร ถูกทำลายจากเหตุเพลิงไหม้ และหลังคาได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่หอระฆังรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ รวมทั้งศิลปวัตถุล้ำค่า ได้รับการรักษาไว้ได้ทัน หลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 400 นาย เร่งควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยใช้เวลาทั้งสิ้นราว 14 ชั่วโมงหลังเพลิงปะทุขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยในยุโรป เผยว่า อาจต้องใช้เวลาราว 1 ปี ในการประเมินค่าใช้จ่ายที่แน่ชัด ในการฟื้นฟูมหาวิหารอายุกว่า 850 ปี และคาดว่า รัฐบาลฝรั่งเศสจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
ล่าสุด กลุ่มธุรกิจใหญ่ของรั่งเศส ประกาศให้การช่วยเหลือทางการเงิน โดยนักธุรกิจใหญ่ 2 คน สนับสนุนเงินบริจาครวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ขณะที่รัฐมนตรีมหาดไทยของฝรั่งเศส ระบุว่า กระทรวงได้สั่งให้มีการสืบสวนหาสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ และแม้จะยังไม่มีข้อมูลยืนยันที่แน่ชัด แต่ต้องมีการสอบสวนบริษัทผู้รับเหมาซ่อมบำรุงที่อยู่ระหว่างดำเนินงานที่มหาวิหารก่อนเกิดเพลิงไหม้
ขณะที่นาย ฌอง-คล้อด ยุงเคอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ประกาศว่า คณะกรรมาธิการยุโรปจะช่วยเหลือรัฐบาลฝรั่งเศส ในการฟื้นฟูมหาวิหารแห่งนี้ เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรนี ที่ประกาศช่วยเหลือฝรั่งเศส โดยมอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมเยอรมนีรับมอบภารกิจครั้งนี้
ทั้งนี้ รัฐมนตรีวัฒนธรรมฝรั่งเศสระบุว่า ศิลปวัตถุและมรดกทางศานาและวัฒนธรรมอันล้ำค้าที่ได้รับการเก็บรักษาไว้ได้ทันก่อนเพลิงเผาทำลายเมื่อวันจันทร์ จะได้รับการขนย้ายไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ โดยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่จากหน่วยดับเพลิง กระทรวงวัฒนธรรม และศาลากลางของกรุงปารีส เร่งลงพื้นที่ไปยังมหาวิหารขณะเกิดเพลิงไหม้ เพื่อปกป้องศิลปะวัตถุชิ้นสำคัญที่อยู่ภายในมหาวิหาร
รัฐมนตรีวัฒนธรรมฝรั่งเศสเปิดเผยด้วยว่า ศิลปะวัตถุโบราณชิ้นสำคัญ มีทั้งมงกุฏหนามของพระเยซู และฉลองพระองค์ของพระเจ้าหลุยที่ 9 ที่มีอายุเก่าแก่ย้อนไปถึงศตวรรษที่ 13 คือวัตถุโบราณชิ้นแรกๆ ที่ได้รับการเคลื่อนย้ายไปเก็บรักษาไว้ที่ศาลากลางกรุงปารีส และหลังจากนี้ จะได้รับการขนย้ายไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์
