กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยพื้นที่เสี่ยง ยังต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำทะเลหนุนสูง ตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.เป็นต้นไป
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำ ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง (ลุ่มเจ้าพระยา) และภาคใต้ ตั้งแต่ช่วงวันที่ 14 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป โดยมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย แยกเป็น
• จังหวัดพื้นที่ภาคเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ และพิษณุโลก เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ช่วงวันที่ 11-17 สิงหาคม 2565
• จังหวัดพื้นที่ริมน้ำโขง 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นช่วงวันที่ 13-18 สิงหาคม 2565
• จังหวัดพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และ 11 จังหวัด ประกอบด้วย อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมขังและน้ำล้นตลิ่ง ตั้งแต่ช่วงวันที่ 11 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป
• จังหวัดพื้นที่ชายทะเล ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และ 22 จังหวัด ประกอบด้วย สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงบริเวณปากแม่น้ำและพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่งช่วงตั้งแต่วันที่ 10-16 สิงหาคม 2565
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงขอฝากเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข่าวสารและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานราชการอย่างเคร่งครัด เพื่อลดผลกระทบจากสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้น ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดย เพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป