จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อก aunnoi.roiet101 แชร์คลิปเหตุการณ์พนักงานขายกุ้งเผา วิ่งไล่รถจักรยานยนต์ที่มีหญิงสาวซ้อนท้าย โดยฝ่ายคุณลุงอ้างว่าฝ่ายผู้หญิงมีการยืมโทรศัพท์ แล้วมีการขึ้นรถจักรยานยนต์หนี ในขณะที่ฝ่ายหญิงอ้างว่ามีความสัมพันธ์ชู้สาวกับฝ่ายชายในเชิงค้าบริการ แต่ไม่มีการจ่ายเงิน
วันที่ 12 ส.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ถนนคลองเปรมประชากร อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี นายบัญชา (นามสมมติ) นายจ้างของนายไหว บอกว่า นายไหว อายุ 59 ปี เป็นพนักงานกุ้งเผาที่ร้าน ทำงานประมาณ 1 ปี แต่เข้า ๆ ออก ๆ ซึ่งตนก็ให้โอกาสรับเข้าทำงานมาตลอด เพราะอายุมาก และเป็นหนุ่มโสดไม่มีลูกเมีย
ในพาร์ตของการทำงาน นายไหวเป็นคนขยันทำงาน แต่ชอบเบิกเงินล่วงหน้าประจำ สอบถามก็บอกว่ามีเรื่องต้องใช้เงิน ซึ่งตนก็ให้ตลอด วันเกิดเหตุ 11 ส.ค. 65 ช่วงเช้านายไหวโทรมาหาตน บอกว่าจะขอเบิกเงินล่วงหน้าประมาณ 700 บาท ซึ่งตนไม่ให้เบิก เพราะเจ้าตัวเบิกไปแล้ว 1,000 บาท จากนั้นนายไหวโทร.ไปขอภรรยาตน อ้างว่าสามีของหลานป่วย หลานสาวเลยมาขอยืมเงิน ภรรยาตนจึงให้ไป
จากนั้นช่วงเย็นมีคนงานวิ่งมาบอกตนว่า นายไหวทะเลาะกับผู้หญิง ตนก็รีบออกไปดู โดยนายไหวก็อ้างว่าหญิงสาวคนดังกล่าวขโมยโทรศัพท์ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าอาจจะเป็นการวิ่งตามเพื่อปกป้องทรัพย์สินตัวเอง แต่ฝ่ายหญิงสาวก็อ้างว่านายไหวมีการไปซื้อบริการ และติดค่าบริการ 2 ครั้ง ตนก็ไม่รู้ว่าอันไหนคือข้อเท็จจริง เพราะถ้าเป็นเรื่องการซื้อบริการก็มองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว
ตนไม่อยากให้มีเรื่องแม้นายไหว ฝ่ายชายจะได้รับอาการบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณเท้า แต่ในเรื่องของทรัพย์สินโทรศัพท์มือถือของนายไหว ก็ยังใช้ได้ตามปกติ และไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนฝ่ายหญิงก็ไม่ได้รับอาการบาดเจ็บหรือเสียหายแต่อย่างใด ทั้งสองฝ่ายก็เลยแยกกัน โดยที่ไม่ติดใจเอาความ
ส่วนตนได้มีการพักงานนายไหว 1 เดือน และได้มีการยึดโทรศัพท์มือถือไว้ที่ตน เนื่องจากมีเงิน 1,700 บาท ที่นายไหวเบิกล่วงหน้าไปก่อน และจะให้คืนก็ต่อเมื่อกลับมาทำงานชดใช้ คงไม่มีการไล่ออก เพราะสงสารที่นายไหวอายุมากแล้วจะไปทำงานที่อื่นก็คงยาก
นางสาวจันทร วันทา อายุ 59 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ผู้หญิงสาวที่ปรากฏคลิปมานั่งอยู่ที่บริเวณร้านกุ้งเผา ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 11 ส.ค. 65 ซึ่งตนได้สอบถามนายไหว บอกว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเป็นแฟนสาว ตนก็เลยไม่ได้เอะใจ และมานั่งอยู่ที่ร้านตั้งแต่เช้า
กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ตนเห็นรถจักรยานยนต์ 1 คัน มาจอดที่เกิดเหตุ ฝ่ายหญิงหยิบโทรศัพท์ของนายไหว ยัดเข้าไปที่หน้าอก แล้วกระโดดขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ตนก็ตะโกนบอก "ลุงไหว ๆ มันไปแล้ว ๆ" จากนายไหวก็กระชากคอหญิงสาวคนดังกล่าว แล้วฉุดกระชากลากมอเตอร์ไซค์ ถอดรองเท้าวิ่งไล่ จนรถจักรยานยนต์เกือบล้ม แต่ที่กระชากคอเสื้อก็เพราะว่าจะเอาโทรศัพท์ของเขาเอง จนกระทั่งนายจ้างมาเคลียร์ให้
ตนมาทราบในภายหลังว่านายไหวมีการไปซื้อขายบริการกับหญิงสาวคนดังกล่าว และมีการค้างค่าจ้าง 2 ครั้ง จึงมาทวงถามและคงไม่มีเงินให้ จึงจะเอาโทรศัพท์ไป