ตำรวจสากลออกหมายแดงตามจับหญิงไทยและสามีชาวสิงคโปร์ ก่อเหตุฉ้อโกงเงินมูลค่า 800 ล้านบาท ล่าสุด วันที่ 11 ส.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซีย สามารถจับกลุ่มตัว 2 สามีภรรยาได้แล้ว โดยภรรยาคือนางสาวศิริวิภา พันธ์สุข คนไทยอายุ 27 ปี
"มาเธอร์ชิพ ด็อท เอสจี" และ สเตรทส์ ไทม์ส สื่อชื่อดัง 2 สำนักของสิงคโปร์ รายงานข่าว เควิน ปี่ เจี้ยเผิง (Kevin Pi Jiapeng) สัญชาติสิงคโปร์ วัย 26 ปี และ น.ส.ศิริวิภา พันสุข หรือ แอน ภรรยาชาวไทยวัย 27 ปี สองผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงหลอกลวงซื้อสินค้าหรูแบรนด์เนม ที่มีผู้เสียจำนวนมาก และมีมูลค่าความเสียหายอย่างน้อย 32 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 845.1 ล้านบาทนั้น ถูกจับตัวได้แล้วขณะหลบซ่อนตัวที่เมืองยะโฮร์ บาห์รู ในรัฐยะโฮร์ของมาเลเซีย
การจับกุมตัวสองผัวเมียครั้งนี้ เป็นปฏิบัติการร่วมระหว่างตำรวจมาเลเซีย ตำรวจไทย ตำรวจสิงคโปร์ และสำนักงานตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) โดยทางการมาเลเซียยืนยันว่าจะส่งตัวทั้งคู่เป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่สิงคโปร์ทันที
ตำรวจมาเลเซียระบุว่า พวกเขาได้รับเบาะแสที่ระบุ สองสามีภรรยาได้เดินทางออกมาจากประเทศไทย หลังจากที่สื่อไทย และตำรวจไทยไล่ล่าพวกเขาอย่างหนัก โดยทั้งคู่เลือกที่จะมากบดานในโรงแรมเก่าแห่งหนึ่งในเมืองยะโฮร์ บาห์รู ในรัฐยะโฮร์ของมาเลเซีย ก่อนที่ทางตำรวจมาเลเซียจะวางแผนเข้าจับกุมโดยที่ผู้ต้องหาตามหมายจับแดงตำรวจสากลทั้งสองคน ไม่ทันระวังตัว
ก่อนหน้านี้ สองผัวเมียได้หลบหนีออกจากสิงคโปร์ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. 65 ด้วยการหลบซ่อนตัวในตู้คอนเทนเนอร์บนรถบรรทุกคันหนึ่ง โดยได้รับความช่วยเหลือจากคนรู้จักที่เป็นชายชาวมาเลเซีย ที่มีชื่อว่าโมฮาเหม็ด อาเลียส รถบรรทุกซึ่งสองผัวเมียใช้ซ่อนตัวนั้นได้แล่นออกจากสิงคโปร์ เข้าสู่มาเลเซีย ผ่านทางจุดผ่านแดนที่สะพาน ตูอัส (Tuas) ที่รัฐยะโฮร์ ของมาเลเซีย และเดินทางต่อเข้ามาในประเทศไทย ก่อนที่ทั้งสองคนจะหนีออกจากไทย และกลับไปกบดานที่มาเลเซียอีกครั้ง
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังร้านขายผักของแม่ของนางสาวศิริวิภา ที่แผงผักไม่พบนางผ่อง แม่ของนางสาวศิริวิภาแต่ยังพบว่าที่แผงผักยังมีวัตถุดิบสำหรับขายของ ข้างแผงผักเป็นร้านขายหมูปิ้งของนางผิง (นามสมมติ) บอกว่า ตนเป็นญาติกับนางผ่อง ส่วนคนก่อเหตุเป็นหลานสาว ตั้งแต่เกิดเรื่องตนและนางผ่องก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าเรื่องราวจะใหญ่โต และเงินที่ได้มาจะเป็นการฉ้อโกง
และวันนี้ก็เพิ่งทราบข่าวจากข่าวว่าหลานสาวถูกจับตัวแล้วที่มาเลเซีย ก็ยังรู้สึกสะเทือนใจ แต่ยายผ่องไม่ได้มาขายของตั้งนานแล้ว โดยให้คนอื่นมาขายแทน ตั้งแต่เกิดเรื่องยายผ่องก็เครียด และไม่มีใครสามารถติดต่อกับลูกสาวของยายผ่องได้ ยืนยันว่าที่ผ่านมายายผ่องไม่เคยใช้ชีวิตร่ำรวย ขายผักเครื่องครัวต่างๆ ตามประสาชาวบ้าน