เพื่อนรักทิ้งศพสหายกลางป่า พิรุธอื้อถูกยิงหัวปืนหาย ภาพมัดขึ้นเขาคู่ แต่รีบหนี(คลิป)

เมื่อวันที่ 8 ส.ค.65 เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังร่วมกับอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีออกค้นหา นายบรรหาร ราชมณี อายุ 40 ปี ที่หายออกจากบ้าน ภายในป่าอุทยานใต้ร่มเย็น อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 1 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา

ทางเจ้าหน้าที่พบร่างนายบรรหารแล้วที่ป่า บนสันเขาหลวง อ.เวียงสระ ในสภาพที่กลายเป็นศพ มีสภาพเน่าเปื่อย ดูบาดแผลไม่ชัดเจน แต่บริเวณหน้าผากมีลักษณะคล้ายกับบาดแผลที่ถูกยิง 1 แผล เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นว่า วันที่ 1 ส.ค.65 เวลาประมาณ 23.11 น. มีรถจักรยานยนต์ขับรถขึ้นไปทางเขา เพื่อเดินทางไปยังป่าดังกล่าว โดยผู้ขับขี่คือ นายบรรหาร ผู้เสียชีวิต และมีผู้ซ้อนคือ นายครุด (นามสมมติ) เพื่อนที่เดินป่าด้วยกัน

นายเฉลิมชัย ราชมณี อายุ 85 ปี พ่อผู้เสียชีวิต ระบุว่า ปกติลูกชายจะอาศัยอยู้บ้านกับ พ่อแม่ และลูกชาย อยู่ด้วยกัน 3 คน โดย ลูกชายตนเองมีอาชีพในการทำสวนทุเรียน สวนผลไม้ของแปลงที่บ้าน แต่เวลาว่างนั้นลูกชายจะชอบเข้าป่าไปหาของป่า ไปยิงสัตว์หาผลไม้ สตอในป่า

ซึ่งทุกครั้งที่ลูกชายเข้าป่าลูกชายจะขับรถไป แต่ในวันที่ 1 ส.ค.65 ตนเองเห็นรถลูกชายจอดอยู่ และไม่เห็นลูกชาย และมาทราบว่า ลูกชายไปเข้าป่า ช่วงประมาณ 22.00น. เป็นต้นไป ของวันที่ 1 ส.ค. 65 กับเพื่อนชื่อ นายครุด (นามสมมติ) เพื่อนผู้ตาย อายุ 43 ปี โดยตนเองยอมรับว่า ลูกชายตนเองและนายครุด สนิทสนมกับลูกชายได้ไม่นาน เนื่องจากทั้งคู่มีสวนใกล้กัน อีกทั้งทางด้านนาย ครุดชอบปืน และตนเองคิดว่าเขาอาจตะต้องการปืน เพราะปืนมีราคา ตนเองซื้อปืนมีทะเบียนมาราคาประมาณ 18,000 บาท

ตนเองมองว่าไม่รู้ว่าจะมีใคร รออยู่ในพื้นป่านั้นหรือไม่ หรือใครเป็นคนก่อเหตุฆ่าลูกชายตนเอง เพราะว่าไปถึงที่ดังกล่าวภายในป่าก็ต่างแยกย้ายกันไปหาของป่า และลูกก็ไม่ได้กลับมาบ้านอีกเลยจนมาทราบว่าพบศพลูกชาย ถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งยอมรับว่า 3 ส.ค. วันหลังจากลูกชายไปป่ากับนายครุด ภรรยาตนเองเห็นว่านายครุดสะพายย่าม และมีข้าวของเต็มหลัง พร้อมมีเหมือนอาวุธปืนสะพายหลังไป และภรรยาตนเองก็ตะโกนถามว่า "ปืนของเราใช่ไหม" นายครุดกบอกว่าไม่ใช่ของตัวเขาเอง

ด้านนายอรุณ เทพากรณ์ อายุ 56 ปี พี่ชายของเพื่อนที่เข้าไปหาของป่ากับผู้เสียชีวิต พี่ชายของผู้ต้องสงสัย ระบุว่าตนเองเป็นพี่ชายของนายครุด อายุ 43 ปี โดยน้องชายตนเองกับนายบรรหาร ผู้เสียชีวิต อายุ 40 ปี ทั้งคู่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน และโตไล่ ๆ กันมา แต่เหตุที่สนิทกันมากขึ้นก็เพราะสวนผลไม้อยู่ใกล้กัน จึงพูดคุยกันมากขึ้นและชวนกันไปหาของป่า หาหมูป่า หาสัตว์ป่า และผลไม้ ต่าง ๆ นำกลับมาทำอาหาร และนำกลับมาขาย ไปด้วยกันมา ประมาณ 2-3 ครั้ง

วันที่ 6 ส.ค. เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตนเองเห็นว่าน้องชายมาหาตนที่บ้าน และพูดคุยกันนั้น ในขณะนั้นยังไม่พบร่างของ นายบรรหาร โดยน้องชายกลับมาก่อน ยอมรับว่าตอนนี้น้องชายไม่อยู่ที่บ้านใกล้กับผู้เสียชีวิตแล้ว แต่ตนเองก็ไม่แน่ใจว่าน้องชายออกไปไหน แต่ตนเองเคยได้พูดบอกไว้ก่อนหน้าว่า "หากเจอเพื่อนโดยไม่มีลมหายใจ ห้ามหนี ให้ไปมอบตัวกับตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ หาดถ้าหลักฐานต่าง ๆ ออกมาว่าถูกฆาตกรรมจริง และน้องชายเป็นผู้ก่อเหตุ ตนเองก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย