ยามริดสีดวงแตกตาย พิรุธคัตเอาต์ถูกตัดเงินหาย หมอไขปริศนาเลือดเกลี้ยงร่าง (คลิป)

เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี เข้าตรวจสอบเหตุเสียชีวิตภายในป้อมยาม บริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง ที่บริเวณริมถนน อ.เมืองสุพรรณบุรี ที่เกิดเหตุพบศพชายอายุ 68 ปี อยู่ในสภาพนุ่งกางเกงขาสั้นแบบกางเกงกีฬา สีเขียวขาสั้นเปื้อนเลือด ไม่สวมเสื้อ นอนหงายอยู่บนโซฟาไม้ ข้างศพมีกล้วยสุกวางอยู่ 1 เครือ และที่พื้นห้องมีคราบเลือดแห้งติดอยู่เต็ม ข้าวของกระจัดกระจาย

จากการตรวจพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิตเบื้องต้นไม่พบบาดแผลแต่อย่างใด คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ทราบชื่อคนตายคือ นายไพศาล บัวเอี่ยม อายุ 68 ปี

วันที่ 9 ส.ค. 65 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังบริษัทก่อสร้างภายในพื้นที่ อ.เมืองสุพรรณบุรี เรียบคลองถนนมุ่งหน้าสู่ตัวอำเภอ โดยพบว่ามีกำแพงสูง 2.5 เมตร ประตูทางเข้าเป็นกรงเหล็ก ปิดล็อกจากด้านใน

นางกนกรัตน์ ปิลา หรือ รัตน์ อายุ 54 ปี น้องสาวคนตาย เผยว่า ตนเองเป็นคนที่คอยติดต่อกับนายไพศาลคนตายประจำ ส่วนใหญ่คนที่ติดต่อหาจะเป็นตนเอง เพราะพี่ชายเป็นคนเก็บตัวเงียบไม่ค่อยสุงสิงกับใคร โดยเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ช่วงเย็น ตนเองได้มีการโอนเงินไปให้พี่ชายจำนวน 2,000 บาท จากนั้นก็มีการโทรศัพท์เข้าไปหาเพื่อที่จะสอบถามว่ายอดเงินเข้าแล้วหรือยัง แต่ปรากฏว่าในช่วงเย็นวันดังกล่าวโทรศัพท์ปิดเครื่องติดต่อไม่ได้

เช้าวันรุ่งขึ้น 7 ส.ค. ตนเองได้ติดต่อไปหาพี่ชายอีกครั้ง ปรากฏว่าโทรศัพท์โทรติดแต่ไม่มีคนรับสาย ตนเองก็เข้าใจว่าพี่ชายน่าจะกำลังยุ่ง ในวันนั้นก็ได้โทรอีกหลายสายแต่ก็ไม่รับสายเหมือนเดิม และไม่มีการโทรกลับ ส่วนตัวเริ่มเห็นความผิดปกติว่าปกติพี่ชายจะไม่เป็นแบบนี้ หากโทรไปแล้วไม่รับสายจะโทรกลับ หรือส่วนใหญ่จะรับภายใน 2 สายเท่านั้น

วันที่ 8 ส.ค. ตนเองได้ขอให้เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานของพี่ชาย แวะเข้าไปดู 3 ช่วงเวลา คือ 12.00 น., 14.00 น. และ 18.00 น. แต่ปรากฏว่าประตูรั้วใหญ่ยังคงปิดล็อกจากด้านใน ไม่มีวี่แววเสียงตอบรับจากพี่ชายที่อยู่ภายในป้อมรักษาความปลอดภัย ตนเองจึงได้ขอให้แฟนเข้าไปดู แต่ปรากฏว่าเมื่อไปถึงเป็นช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ทุกอย่างยังคงปิดเงียบ ไม่มีแม้แต่เปิดไฟภายในป้อม จึงได้มีการประสานเจ้าของบริษัทเพื่อที่จะเปิดประตูรั้วเข้าไปดู แต่เมื่อเข้าไปถึงพบว่าประตูไม่ได้ล็อก หน้าต่างเปิดทิ้งเอาไว้ทุกบาน แต่ไม่มีการเปิดไฟ เมื่อใช้ไฟฉายและแฟลชมือถือส่องดู ก็ยังไม่พบความผิดปกติ แต่มีข้าวของกระจัดกระจาย เห็นร่างของนายไพศาลพี่ชายนอนเสียชีวิตอยู่บนเก้าอี้ไม้ แต่สันนิษฐานว่ามีเลือดไหลบริเวณทวานหนัก เพราะส่วนอื่นไม่มีเลือดไหลและไม่มีแผล

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นแม้ว่าครอบครัวจะทราบโดยเบื้องต้นว่าคนตายมีเลือดไหลที่ทวานหนัก แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะปักใจเชื่อได้ทั้งหมด เพราะจะต้องรอผลชันสูตรจากนิติเวชอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งถ้าหากมองว่าเป็นเรื่องของโรคประจำตัว ยืนยันว่าพี่ชายเป็นคนที่แข็งแรงไม่เคยมีประวัติรับการรักษา แต่ส่วนเรื่องประเด็นที่ว่าอาจจะป่วยเรื่องของริดสีดวงแตกนั้น ยังไม่ทราบเรื่องนี้เช่นกันเพราะพี่ชายถือว่าเป็นคนที่แข็งแรง และยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ

แต่สิ่งที่ครอบครัวยังไม่ได้ตัดประเด็นทิ้ง คือเรื่องของทรัพย์สินที่กระจัดกระจาย อีกทั้งได้มีการตรวจสอบเงินจำนวน 5,000 บาท ซึ่งเป็นเงินสดที่ได้รับจากเถ้าแก่ เป็นเงินเดือนที่จะรับสด เพราะหลังจากที่ได้รับเงินสดแล้วตัวของนายไพศาลคนตายจะแบ่งเอาไว้ใช้ส่วนตัวประมาณ 1,000 บาทต่อเดือน และจำนวน 4,000 บาท จะมีการโอนเข้าบัญชีหรือฝากเข้าบัญชี ยืนยันว่ายังไม่มียอดเงินโอนเข้าหลังจากที่ได้รับเงิน

ร้านค้าที่อยู่ในละแวกใกล้กับที่เกิดเหตุ ที่คาดว่าคนตายมักจะใช้ชีวิตในการปั่นจักรยานไปซื้อของใช้และของกินประจำวัน โดยทราบว่าจะมีช่วงเวลาประจำหลังเวลา 17.00 น. คนตายจะปั่นจักรยานมีตะกร้าหน้ารถไปซื้อของที่ร้านประจำอยู่บริเวณด้านหลังโรงเรียน

เจ้าของร้านให้ข้อมูลว่าเบาะแสของคนตายมาซื้อเสบียงของกินครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงเย็นของวัน ศุกร์ที่ 5 ส.ค. จากนั้นไม่ปั่นจักรยานมาที่ร้านอีก โดยปกติจะเจอทุกเย็น คนตายมักจะมาซื้อน้ำแข็ง น้ำดื่ม ขนม อาหารครึ่งสำเร็จรูป หรือยาเส้น เป็นต้น แต่คนตายจะไม่ใช่คนที่ดื่มเหล้า เบียร์ แต่ที่สำคัญการออกมาซื้อของของคนตายเป็นประจำทุกวันนั้น มักจะมีจักรยานคู่ใจปั่นมาทุกวัน แต่แปลกหากคนตายป่วยเป็นโรคริดสีดวง ทำไมถึงปั่นจักรยานใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ

ด้าน นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เผยว่า จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวหากพบว่าผู้เสียชีวิตเกิดจากอาการริดสีดวงแตก จนกระทั่งถึงแก่ความตาย ซึ่งริดสีดวงแตกเกิดจากความดันภายในท้อง จึงทำให้เส้นเลือดที่เกิดการโป่งพองอยู่แล้ว เกิดอาการพองตัวขึ้นกว่าเดิม จนกระทั่งเกิดการแตก หรืออีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากก้อนอุจจาระที่มีความแข็งผิดปกติ การขับถ่ายอาจทำให้ไปบาดบริเวณจุดที่มีการโป่งพองของริดสีดวงก็ได้

ดังนั้นหลังจากเกิดการเสียดสีและทำให้ริดสีดวงแตก จะทำให้เลือดไหลออกจำนวนมาก แต่กรณีที่เกิดจากอาการริดสีดวงแตก จะเป็นอาการที่เลือดไหลไม่หยุด ดังนั้น สิ่งที่ควรกระทำโดยด่วนที่สุดคือการไปพบแพทย์ ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอาการหน้ามืดหรืออาการเสียเลือดมาก จนกระทั่งทำให้หัวใจเต้นเร็ว ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ และอาจส่งผลต่อชีวิต ยิ่งโดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมาก หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวและโรคอื่นแทรกซ้อน จะทำให้มีสภาวะความเสี่ยงมากขึ้น