จับลูกทรพีคลั่งฆ่าทุบหัวพ่อรัดคอสยองแค้นส่งบำบัดยา แฉยกพานขมาก่อนสังหาร (คลิป)

วันที่ 8 ส.ค.65 เวลา 08.30 น. ร.ต.อ.วิชิต ลาไชย รองสารวัตรสอบสวน สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุฆ่ากันตายโดยใช้ก้อนหินทุบศีรษะจนเสียชีวิต บริเวณในสวนยางพาราบ้านหยวกน้อยหมู่ 2 ต.บ้านหยวก อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี

ที่เกิดเหตุเป็นสวนยางห่างจากหมู่บ้าน 500 เมตร ทางทิศตะวันออก พบศพผู้เสียชีวิตอยู่ข้างสระน้ำ ทราบชื่อคือ นายสมใจ วาดวงษ์ อายุ 71 ปี นอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อแขนสั้นลาย นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ใส่รองเท้าแตะ ใกล้กันมีก้อนหินปูนมีคราบเลือบ และถังพลาสติกสีขาวใส่ปลา นอกจากนี้ มีผ้าขาวม้ารัดอยู่ที่คอ จากการชันสูตรสภาพศพพบกะโหลกศีรษะแตก ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ก่อเหตุคือ นายปัญญา วาดวงษ์ อายุ 37 ปี เป็นลูกชายของสมใจ ผู้ตาย หลังจากก่อเหตุนายปัญญาได้เดินหลบหนีไปตามถนนทางออกบ้านหยวกน้อย ต.บ้านหยวก ห่างบ้านที่เกิดเหตุระยะประมาณ 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ และชุดสืบสวนได้ติดตามจับกุมตัวได้ ก่อนควบคุมตัวมาที่โรงพัก

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายปัญญา ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นคนลงก่อเหตุ ใช้ก้อนหินทุบบริเวณหน้าผากและศีรษะพ่อจริง จนพ่อเสียชีวิต เนื่องจากพ่อแจ้งตำรวจมาจับตนเองมาหลายครั้ง แต่ตนเองก็รักพ่อเหมือนกัน โดยนายปัญญา ได้ทำท่าทางประกอบ ตอนที่ตนเองทำร้ายพ่อให้ตำรวจดูก่อนหน้านี้ก็ยังเคยทำร้ายพ่อมาหลายครั้ง

เบื้องต้น ตำรวจได้ทำตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด แต่ไม่พบ แต่ผู้ก่อเหตุมีประวัติเคยเสพยาบ้า และมีการป่วยทางจิต เคยนำไปบำบัดรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว ทางครอบครัวเพิ่งไปรับตัวกลับมาอยู่บ้าน ก่อนก่อเหตุจะไปฆ่าพ่อนายปัญญาได้นำเอาใบไม้และเทียนไปวางไว้ที่เตียงนอนของพ่อ เพื่อขอขมา เพื่อไม่จองเวรต่อกันในชาตินี้หรือชาติหน้าก่อนเกิดเหตุสลด และพบเขียนข้อความบนกำแพงบอกรักพ่อไว้ด้วย

นายวิทยา วาดวงษ์ อายุ 42 ปี ลูกผู้ตาย เป็นพี่ชายผู้ก่อเหตุ บอกว่า น้องชายติดยาเสพติดตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้นแล้ว ทำให้น้องชายตนป่วยจิตเวช และเคยไปนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลอยู่1 เดือน แต่น้องชายเคยอาละวาดที่โรงพยาบาล และบอกหมอว่าถ้าออกไปก็จะไปฆ่าพ่อ เพราะน้องชายอาฆาตแค้น และวางแผนมาหลายปีแล้ว ซึ่งพ่อไปหยิบยืมเงินมาเพื่อเป็นค่าน้ำมัน แล้วให้ตนเดินทางไปรับน้องชายมา เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา

โดยปกติพ่อก็จะอยู่กับน้องชายที่บนไร่ก็จะทะเลาะกันประจำ พ่อได้ขายนา และเข้าไปปลูกบ้านในหมู่บ้าน แล้วน้องชายก็ตามไปอยู่ด้วย ก่อนหน้านี้น้องชายได้เผาบ้านที่อยู่ในไร่จนไหม้หมด จากนั้นพ่อก็ได้มาอาศัยปลูกบ้านอยู่ในที่ดินของญาติ ตนคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวตนนั้น เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด