จากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุอุกอาจกราดยิงกัน บริเวณถนนเส้นเจดีย์วัดพนัญเชิงหมู่ 3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะสีขาวตอนเดียว ซึ่งเป็นรถส่งน้ำแข็งของโรงน้ำแข็งอโยธยา อยู่ในสภาพด้านหน้ารถถูกชนเสียหาย
ใกล้กันพบรถกระบะยี่ป้ายแดงจอดอยู่ พบชายวัยรุ่ย 4 คนนั่งอยู่ในรถ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นพบอาวุธ และควบคุมตัวไว้ ทราบว่าเป็นคนงานของโรงน้ำแข็งพันล้านพระนครศรีอยุธยา
วันที่ 8 ส.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ถนนใกล้วัดเจดีย์วัดพนัญเชิง หมู่ 3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พบรอยวงกระสุนที่ตกกลางถนน
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้ภาพกล้องวงจรปิด เห็นรถฮัมเมอร์สีแดง ขับเข้ามาประสานงากับรถกระบะสีขาว กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงจากรถ มา 3 คน ยิงสกัดเพราะถูกคันสีแดงยิงสวน
อีกมุมรถฮัมเมอร์สีแดงวิ่งผ่าน มีรถกำนันขับตามมาติด ๆ รถคันสีเหลืองเป็นรถน้ำแข็งของอโยธยาขับตามมา 2 คัน แล้ววิ่งลงไปดูเหตุการณ์ อีกมุมเหตุการณ์ชุลมุนหลังขับรถชนกัน เห็นวิ่งไปคนละทิศคนละทาง ในขณะที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงจากรถมายิงสกัด
นายชัยณรงค์ จันทร์สีดา กำนัน ต.เกาะเรียน ยืนยันว่า ทำไปตามหน้าที่ เพราะเกิดในพื้นที่ตัวเอง และฝั่งของโรงน้ำแข็งพันล้าน เป็นคนโชว์อาวุธปืน ตอนที่ยิงโต้กลับ ก็ยืนยันความบริสุทธิ์ในใจหน้าที่จริง ๆ ไม่ได้มีการเข้าข้างฝ่ายใด
ส่วนเจ้าของโรงน้ำแข็งอโยธยา ตนรู้จักเพราะเขาเป็นประชากรในพื้นที่ แต่ไม่ได้สนิทสนมกัน และไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่ากำนันมีหุ้นส่วนกับโรงน้ำแข็งอโยธยา และมีการใช้อาวุธปืนยิงฝั่งโรงน้ำแข็งพันล้านนั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วน แต่อาจจะมีลูกหลานคนแถวบ้านที่ไปทำงานที่นั่น ส่วนเรื่องปืนมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและมีใบอนุญาตในการพกพาทุกคน
นายพิษณุ แก้วกระจ่าง ผู้ใหญ่บ้าน ม.13 เปิดเผยว่า ชาวบ้านรายงานว่ามีโรงน้ำแข็งของเจ้าพันล้านเข้ามาในพื้นที่ ทำให้มีปัญหากับโรงน้ำแข็งอโยธยา ในตอนเช้าของวันนี้ ซึ่งตนได้ประสานยังการปกครองเฝ้าระวัง เนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีการเขม่นกัน ด้วยการใช้อาวุธปืน จึงหวั่นว่าจะเกิดเหตุ เพราะรถของฝ่ายโรงน้ำแข็งพันล้านขับวนในพื้นที่หลายรอบ และมีอาวุธปืน
ในขณะที่ฝั่งอโยธยาก็วิ่งในพื้นที่มาตลอด ซึ่งตนไม่ทราบว่าทั้ง 2 ฝ่ายแบ่งกันยังไง แต่ที่ผ่านมามันไม่เคยมีปัญหา แต่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพราะอีกฝ่ายมีอาวุธ และมันมีการโชว์ปืนในพื้นที่ตัวเอง ซึ่งตนทำตามหน้าที่ โดยการขับติดตาม และประสานกับทางตำรวจตลอด แต่ตอนที่เกิดเหตุมีการยิงปะทะกันทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งฝ่ายโรงน้ำแข็งพันล้าน สาดกระสุนมาทางตน จึงต้องยิงตอบโต้ ซึ่งยืนยันทำตามหน้าที่ที่ตัวเองรับผิดชอบ
ด้านายสุริยา ซิง คนขับรถส่งน้ำแข็งพันล้าน เล่าให้ฟังว่า วันนี้ก่อนเกิดเหตุยิงกันตนเองและนายเทพ ชัยชูวงษ์ อายุ 41 ปี ได้ขับรถเพื่อจะไปส่งน้ำแข็ง บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่เกาะเรียน กระทั่งมีพนักงานส่งน้ำแข็งของอโยธยามาทำการปิดล้อมรถของตนเอง
จากนั้นตนเองก็โทรหาผู้จัดการของโรงน้ำแข็งจนผู้จัดการซึ่งเป็นคนขับรถแฮมเมอร์ขับรถมาดูจุดเกิดเหตุ ทางฝั่งโรงน้ำแข็งอโยธยาเห็นจึงพากันแยกย้ายขับรถหนีกันไปคนละทิศละทาง มาทราบภายหลังว่ามีการก่อเหตุยิงกัน
