วันที่ 3 ส.ค. ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ... ที่กรรมาธิการพิจารณาแล้วเสร็จ โดยมีนายชวน หลีกภัย ทำหน้าที่ประธานการประชุม และยังคงมีปัญหาองค์ประชุมต่อเนื่อง ตลอดทั้งวัน โดยในบางมาตรา ต้องใช้เวลารอสมาชิกเข้ามาลงมติกว่า 30 นาที
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา เกรงว่า หากองค์ประชุมไม่ครบจะขอหารือวิปสามฝ่าย เพื่อพิจารณาในวันที่ 9-10 สิงหาคม แต่นายชวน ชี้แจงว่า ทางวุฒิสภาแจ้งว่า ได้นัดประชุมวุฒิสภา วาระพิเศษ ในงันที่ 8-9 สิงหาคม ทำให้ไม่สามารถนัดประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 9 สิงหาคมได้ โดยจะมีการหารือกับวิปสามฝ่ายอีกครั้ง เพื่อตกลงวันประชุม
ต่อมา นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล ส.ส.พรรคพลังธรรมใหม่ ได้หารือขอให้ประธานรัฐสภา ประสานไปยังวิปสามฝ่าย ให้สมาชิกที่ประชุมคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ลงมาร่วมประชุมและลงมติ ขณะเดียวกัน หากปัญหาองค์ประชุม ทำให้กฎหมายลูก ส.ส. จะไม่ทันตามกรอบ 180 วันที่จะครบกำหนดในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ทั้งนี้ ตนไม่กังวลว่า ญัตตินี้จะตกไป เพราะองค์ประชุมล่ม แต่จะทำให้ภาพลักษณ์สภาฯเสื่อมเสีย
ด้านนายชวน ระบุว่า ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ก็ทำให้สภาเสื่อม การไปทำอะไรที่ไม่รับใช้สภาฯ แต่ไปรับใช้อย่างอื่น ก็ทำให้สภาฯเสียหายและเสื่อม ซึ่งตนไม่ต้องการให้เกิดขึ้น โดยนายชวน พยายามขอร้องสมาชิกให้อดทนที่จะรอคอย และขอบคุณสมาชิกที่อยู่นั่งรอองค์ประชุมจนครบ
กระทั่งเวลา 17.00 น.ประธานรัฐสภา สั่งปิดประชุมร่วมรัฐสภาหลังยื้อรอสมาชิกกว่า 53 นาที มาลงมติในมาตรา 8 ของร่าง ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม แต่สุดท้ายองค์ประชุมไม่ครบขาดเพียง 7 คน ประธานรัฐสภาจึงสั่งปิดการประชุม พร้อมระบุด้วยว่า หลังจากนี้จะขอไปหารือกับวิปทั้งสามฝ่าย เพื่อกำหนดนัดวันประชุมร่วมรัฐสภาอีกครั้ง เพราะยังมีกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. รอการพิจารณาอยู่
มีรายงานว่า กลุ่มส.ส.ที่เล่นเกมไม่ยอมเข้าแสดงตนเป็นองค์ประชุม ประกอบไปด้วย พรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ การโหวตมาตรา 8 ส.ส.อยู่ในห้องประชุมพรรคละ 3-4 คนเท่านั้น รวมถึงพรรคเศรษฐกิจ (ศท.) ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะหัวหน้าพรรค ศท. เพราะไม่ต้องการใช้สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการหาร 500 จึงพยายามไม่ยอมให้ร่างพ.ร.ป.ฯ ผ่านวาระ 3 ทันวันที่ 15 สิงหาคม ซึ่งจะครบกรอบเวลา 180 วัน เพราะขณะนี้พรรคการเมืองส่วนใหญ่ โดยเฉพาะพรรคขนาดใหญ่ต้องการกลับไปใช้การคำนวณหาร 100
