หนุ่มแท็กซี่ ด่ายับสาวเบี้ยวค่ารถ ไม่โกรธเข้าใจว่าป่วย – แม่สุดทน ยอมรับคุมยากจนจะบ้าเอง (คลิป)

จากกรณีคลิปวิดีโอของหญิงสาวรายหนึ่ง ขึ้นรถแท็กซี่แต่ไม่จ่ายเงิน ซึ่งแม่ของหญิงคนดังกล่าวเคยออกยอมรับว่าลูกสาวมีอาการทางจิต จนล่าสุด หญิงสาวคนดังกล่าวได้มีการถกเถียงกับแท็กซี่อีกครั้ง เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 5 เม.ย. 62 เวลาประมาณ 05.00 น.

วันที่ 5 เม.ย. 62 นายกันต์พัตฒ์ พีรกิจธิรภูวดล อายุ 23 ปี คนขับแท็กซี่ เปิดเผยว่า เหตุเกิดขึ้นประมาณ 05.00 น. หญิงสาวคนดังกล่าวโบกรถเรียกใต้ BTS แบริ่ง บอกว่าจะไปสำโรง ตนขับไปได้ประมาณ 500 เมตร หญิงคนดังกล่าวสั่งให้ตนจอดรถบริเวณไหล่ทาง โดยอ้างว่าต้องการรอเพื่อน ซึ่งตนก็จอดรอประมาณ 30 นาที และขณะเดียวกันค่าโดยสารบนมิเตอร์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนมีราคาเกือบ 100 บาท ซึ่งตนก็ถามกลับไปว่า "เพื่อนมาแล้วหรือยัง" หญิงคนดังกล่าวก็ตอบกลับมาว่า "เพื่อนมาแล้ว ขับไปที่สำโรงได้เลย"

ก่อนจะออกรถ หญิงสาวคนดังกล่าวก็พูดกับตนว่า "พี่นวดไหม เดี๋ยวหนูนวดเป็นค่าโดยสารให้" ซึ่งจะให้ตนเป็นคนเปิดโรงแรม แต่ตนก็ไม่ได้ถามว่านวดอะไร โดยปฏิเสธไป เมื่อถามหญิงคนดังกล่าวว่า "เพื่อนจะมาตอนไหน" เขาก็อ้างว่ากำลังโทรหาเพื่อน และเมื่อขับไปใกล้ถึงจุดหมายที่สำโรง หญิงสาวคนดังกล่าวก็พยายามจะเปิดประตูรถหนีลงกลางถนน ตนจึงรีบขับชิดซ้ายและลงมาโต้เถียงกันตามคลิป ซึ่งระหว่างการโต้เถียง หญิงคนดังกล่าวพยายามพูดว่าตนจะไปทำอะไรเขา และร้องขอความช่วยเหลือจนคนขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้ามาจอดดู โดยตนพยายามสอนหญิงคนดังกล่าวว่าให้รู้จักทำมาหากิน จนกระทั่งถกเถียงกันกว่า 20 นาที ตนออกอุบายว่าจะพาผู้หญิงดังกล่าวไปส่งบ้าน แต่ตนได้พาไปส่งที่ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งหญิงสาวคนดังกล่าว เข้าไปในโรงพักก่อนจะนำเงินออกมาให้ตน จำนวน 40 บาท ซึ่งค่าโดยสารตามจริง ราคา 137 บาท แต่ตนก็รับแค่ 40 บาท เพราะไม่อยากมีปัญหาต่อ

นายกันต์พัตฒ์ ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเห็นพฤติกรรมของผู้หญิงคนดังกล่าว บนโลกโซเชียลแค่ผ่าน ๆ เท่านั้น และไม่รู้ว่าเป็นเขา เพิ่งมารู้ตอนมาย้อนดูทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเมื่อรู้ว่าเขามีอาการทางประสาท ตนก็ไม่โกรธ แต่อยากให้ญาติพี่น้องช่วยดูแล อย่าปล่อยให้สร้างความเดือดร้อน

ด้านนางแย้ม (นามสมมติ) แม่ของหญิงโกงค่าแท็กซี่ เปิดเผยว่า ตนเห็นคลิปวิดีโอล่าสุดแล้ว ซึ่งลูกสาวจะออกจากบ้านไปทุกคืน และไม่รู้ว่าไปไหน และจะกลับมาตอนเช้า ยอมรับว่าหลังเห็นคลิปก็รู้สึกหดหู่ใจมาก ๆ เครียดเพราะควบคุมลูกไม่ได้ เมื่อห้ามปรามก็มักจะทะเลาะกัน และบางครั้งก็ถึงกับผลักตน นางแย้ม บอกอีกว่า ลูกสาวไม่ได้ทานยารักษาอาการทางจิต เนื่องจากเขาบอกว่า ตัวเองไม่ได้บ้า เนื่องจากลูกก็ไม่ยอมไปพบแพทย์ ซึ่งตนก็ไม่สบายใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เนื่องจากตนต้องดูแลคนป่วยในครอบครัวถึง 3 คน อีกทั้งยังกลัวว่าเขาจะไปเจอคนไม่ดี และได้รับอันตราย ซึ่งตอนเขาออกไปตอนกลางคืน ตนก็นอนไม่หลับ

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวได้พบกับหญิงสาวคนดังกล่าว แต่เจ้าตัวปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ และบอกว่าถ้าเป็นเรื่องแท็กซี่ติดยา ก็คงไม่คุยให้เสียเวลา พร้อมบอกว่า ไม่ขอออกสื่อฯ ก่อนที่จะเดินเข้าบ้านไป