แผ่นปูนสะพานกลับรถ ถ.พระราม 2 หนัก 5 ตัน หล่นทับคนตาย

1 ส.ค. 65

สะเทือนขวัญ! แผ่นปูนบนสะพานกลับรถที่อยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง หล่นทับรถที่กำลังสัญจรไปมา เบื้องต้น เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 1 ราย เจ็บ 3 ราย

 

เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาครได้รับแจ้งเกิดเหตุสะพานกลับรถหน้าโรงพยาบาลวิภาราม กม.ที่ 34 ต.บางกระเจ้า อ.เมืองจ.สมุทรสาคร ที่อยู่ระหว่างการปิดซ่อมบำรุงพังถล่มลงมาทับรถยนต์ที่สัญจรอยู่บนถนนพระราม 2 ช่องทางด่วนขาเข้ากรุงเทพฯ มีรถยนต์ได้รับความเสียหายหลายคัน อีกทั้งยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย จึงรีบรายงานให้ พ.ต.อ.ยงลิต ศุภผลผกก.ฝ่ายอำนวยการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมรักษาราชการแทนผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ทราบพร้อมกับประสานพ.ต.ท.ภานุพงศ์ภาวะบุตร สารวัตรสอบสวนสภ.เมืองสมุทรสาครไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

 

แผ่นปูนสะพานกลับรถร่วงทับคนตาย


โดยจุดที่เกิดเหตุเป็นบริเวณใต้สะพาน (เกือกม้า) กลับรถพอดี พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อเชฟโรเลตทะเบียน ชธ 6271 กรุงเทพมหานคร ถูกแผ่นปูนความยาวกว่า 10 เมตร น้ำหนักราวๆ 5 ตัน หล่นลงมาทับไว้ทั้งคันจนรถขาดท่อนทำให้คนนั่งข้างฝั่งซ้ายเสียชีวิตติดอยู่ภายใน ส่วนคนขับรถยนต์เก๋งได้รับบาดเจ็บ

ถนนพระราม 2

ทั้งยังมีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุดีแม็กซ์ทะเบียน 3 ฒธ 5940 กรุงเทพมหานครด้านหน้ารถถูกแผ่นปูนทับไว้โชคดีที่คนขับและผู้อาศัยมาในรถปลอดภัยทั้งหมด


นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอี ก2 คนเป็นคนงานที่กำลังทำงานซ่อมแซมอยู่บนสะพานกลับรถและยังมีรถที่ได้รับความเสียหายอีก 2 คันเป็นรถบรรทุกน้ำมันกับรถบรรทุกแก๊สซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องรีบหาทางเคลื่อนย้ายรถบรรทุกเชื้อเพลิงทั้ง 2 คันออกจากพื้นที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุดเพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุไม่คาดคิดซ้ำซ้อนขึ้นมาได้อีก


ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็สร้างความสะเทือนขวัญให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังส่งผลทำให้การจราจรติดขัดเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร ส่วนรถยนต์เก๋งที่ถูกแผ่นปูนทับไว้นั้นหลังจากที่ได้ใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนานเกือบ 1 ชั่วโมงเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถได้แล้วก็ต้องประสานรถเครนให้มายกแผ่นปูนออก

 

แผ่นปูนทับคนตาย


จากการสอบถามนางสาวทิพานันท์ ศรีรางวัล อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นผู้ขับรถยนต์กระบะคันที่ถูกแผ่นปูนหล่นลงมาทับหน้ารถเล่าว่าตอนนั้น ตนเองพร้อมกับครอบครัวซึ่งมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวม 5 คนกำลังขับรถกลับบ้านหลังจากไปขายของเล่นที่วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงครามโดยตลอดทางที่ขับกลับมานั้นมีฝนตกอย่างต่อเนื่องและรถก็ขับแบบช้าๆชะลอตัว กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุจู่ๆ ก็มีแผ่นปูนหล่นลงมาใส่รถยนต์เก๋งกับรถของตน โชคดีที่รถตนนั้นถูกเพียงแค่ด้านหน้ารถและคนในรถปลอดภัยทั้งหมดซึ่งเหตุการณ์นี้สร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนในรถเป็นอย่างมากไม่เคยคาดคิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้


ส่วนทางด้านของสุวรรณทวีผล อายุ 60 ปี อดีตผอ.ร.ร.เบญจมราชูทิศ จังหวัดจันทบุรี ที่ขับรถตามหลังมาก็เล่าถึงนาทีระทึกว่าตนเองขับรถกลับจากไปงานกีฬาเยาวชนแห่งชาติที่จังหวัดพัทลุง มาด้วยกันทั้งหมด 5 คนซึ่งตนนั้นต้องเรียกได้ว่าเฉียดตายเพราะอยู่ห่างจากรถที่เกิดเหตุเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยพอเกิดเหตุตนเองและคนอื่นๆ ก็ลงไปช่วยกันพาคนขับรถยนต์เก๋งออกมาส่วนคนนั่งข้างเสียชีวิตไม่สามารถนำออกมาได้


ขณะที่คนขับรถบรรทุกน้ำมันเล่าว่าตนเองขับรถมาตามถนนพระราม 2 ซึ่งช่วงที่ลอดใต้สะพานกลับรถก็ไม่มีอะไรผิดปกติเห็นมีแต่คนทำงานซ่อมแซมสะพานอยู่ด้านบนเท่านั้นแต่พอคล้อยหลังนิดเดียวรู้สึกเหมือนว่าด้านหลังรถโดนวัตถุบางอย่างกระแทกอย่างแรงจนสะเทือนไปทั้งคันอีกทั้งยังได้ยินเสียงดังโครมจึงจอดรถแล้วหันกลับไปมองก็เห็นรถยนต์เก๋งที่ขับตามหลังมาถูกแผ่นปูนหล่นมาทับใส่ทั้งคัน


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่าหลังเกิดเหตุ นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนายสุรศักดิ์ผลยังส่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่มาติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับสั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งหาสาเหตุและรายงานให้ทราบต่อไปส่วนผู้บาดเจ็บทั้งหมดนั้นจะได้เข้าเยี่ยมต่อไป


สำหรับสะพานกลับรถ ถ.พระราม 2 กม.34 หน้ารพ.วิภาราม นี้ได้เริ่มปิดทำการซ่อมบำรุงตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2565 โดยเหตุที่ต้องทำการปิดซ่อมบำรุงเนื่องจากสะพานกลับรถแห่งนี้มีอายุการใช้งานมานานและเคยเกิดไฟไหม้ขึ้นบนสะพานเนื่องจากรถบรรทุกน้ำมันระเบิด อีกทั้งยังมีปริมาณรถบรรทุกขนาดใหญ่ใช้สะพานกลับรถเป็นจำนวนมากทำให้โครงสร้างส่วนบน (พื้นสะพาน) ชำรุดเสียหายจนเหล็กเส้นโผล่


ทั้งนี้กรมทางหลวงโดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) จึงได้เข้ามาดำเนินการซ่อมแซมและบูรณะโครงสร้างสะพานที่ชำรุดเสียหายให้สามารถใช้งานได้ตามปกติเพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับผู้ใช้เส้นทางโดยมีกำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2565 นี้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส