ค่ายประกาศ "พอร์ส Yes Indeed" ยังเป็นศิลปินในสังกัด "ทนายตั้ม" ท้าวัดพลัง ใครแม่น กม.กว่ากัน

27 ก.ค. 65

คืบหน้า ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่าง "พอร์ส Yes Indeed" กับค่ายเพลง EXP Entertainment โดยล่าสุด ค่ายฯ ออกประกาศ ลงวันที่ 26 ก.ค. โดยระบุว่า จากกรณีข่าว บิดาของนายนรากร อิสระวรางกูร หรือ "พอร์ส Yes Indeed" ได้จัดทำหนังสือบอกเลิกความยินยอมในการที่พอร์ส เซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัด

 

บริษัท เอ็กซ์พีเรียนซ์ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ขอเรียนชี้แจงให้ทุกท่านทราบว่า บริษัทฯ ได้ทำสัญญาจ้างขับร้องและนักแสดงกับ พอร์ส นรากร โดยได้รับความยินยอมจากบิดาโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว สัญญาดังกล่าวมีผลสมบูรณ์ และไม่สามารถบอกล้างอีกได้ นับตั้งแต่บิดาได้ให้สัตยาบันในการทำสัญญาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว

บริษัทฯ ขอยืนยันว่า บริษัทฯ มิได้ปฏิบัติผิดสัญญา หรือกระทำการใด อันเป็นการขัดขวางความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน หรือทำให้นายนรากรได้รับความเสื่อมเสียตามที่อีกฝ่ายหนึ่งได้กล่าวอ้างแต่ประการใด สัญญาจ้างขับร้องเพลงและนักแสดงระหว่างบริษัทฯ กับ พอร์ส นรากร อิสระวรางกูร จึงมีผลผูกพันนับแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2564 จนถึงวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็นระยะเวลาตามที่ระบุไว้ในสัญญา การบอกเลิกสัญญาของบิดาของพอร์ส นรากร จึงไม่มีผลตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้ปฏิเสธการบอกเลิกการให้ความยินยอมดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ดังนั้น บริษัทฯ จึงจัดทำประกาศฉบับนี้ขึ้น เพื่อยืนยันที่จะยึดถือสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาที่ได้กระทำไว้กับ "พอร์ส Yes Indeed" นับแต่วันเริ่มทำสัญญาจนถึงวันที่สิ้นสุดระยะเวลาตามสัญญาทุกประการ บริษัทขอยืนยันในปณิธานและแนวทางการดำเนินงานของบริษัท ที่ตั้งใจจะสร้างสรรค์ผลงาน สนับสนุนศิลปินในทุกๆ ด้าน และปฏิบัติตามสัญญาอย่างยุติธรรมมาตลอด

 

ค่าย EXP Entertainment

 

ต่อมาวันที่ 27 ก.ค. ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความของ พอร์ส Yes Indeed ได้โพสต์ข้อความโต้กลับค่ายฯ ว่า

 


"เอกสารฉบับนี้ไม่มีผลแล้วครับ​ เพราะน้องพอร์สได้บอกเลิกสัญญาและบิดาได้บอกเลิกการให้ความยินยอมที่เคยให้ไปแล้ว​ จึงถือว่าในเบื้องต้นสัญญาสิ้นสุดลงแล้ว​ และคู่สัญญาไม่มีพันธะใดๆต่อกันอีกแล้ว

 


หากค่ายต้องการบังคับตามสัญญา​ จึงมีทางเดียว​ คือ​ ต้องนำคดีไปยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อใช้อำนาจเท่านั้นนะครับ​
ดังนั้น​ ณ​ ปัจจุบันน้องพอร์สสามารถรับงานเองโดยอิสระได้​ และบุคคลภายนอกที่จ้างน้องพอร์สก็จ้างต่อไปได้โดยถือเอาเหตุยกเลิกสัญญาของน้องพอร์สเป็นที่ตั้งครับ​

 


ปล.ไม่ใช่การบอกเลิกสัญญากันง่ายๆอย่างที่บางคนเข้าใจ กรณีนี้คือการที่ผู้เยาว์ทำสัญญาแล้วเสียเปรียบ ผู้ปกครองแม้จะเคยให้ความยินยอมแล้วก็สามารถบอกเลิกการให้ความยินยอมได้ เพราะกฎหมายมุ่งคุ้มครองไม่ให้ผู้ใหญ่เอาเปรียบเด็ก และสามารถบอกเลิกได้ฝ่ายเดียวโดยไม่ต้องให้อีกฝ่ายตกลงก่อน ถ้าค่ายมั่นใจว่าสัญญาที่ทำกับน้องพอร์สไม่เป็นการเอาเปรียบเด็ก ผมขอท้าให้เปิดสัญญา และหากข้องใจในเรื่องกฎหมายก็ฟ้องมาได้เลย ผมพร้อมเสมอ จะได้วัดกันว่าใครแม่นข้อกฎหมายกว่ากัน!!"

 



advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส