ชาวบ้านหวั่นอาถรรพ์บ่อพญานาคทำไฟปริศนาลุกทั่วบ้าน อ.อ๊อด ท้าพิสูจน์ต้นเพลิง เชื่อฝีมือคนทำ

จากกรณีสาวร้องหมอปลาให้ช่วยมาดูที่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ท่าสองคอน อ.เมือง จ.มหาสารคาม เนื่องจากเกิดเหตุไฟไหม้บ้านเป็นหย่อม ๆ เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 65 และกิดขึ้นมากถึง 18 ครั้ง

ล่าสุด วันที่ 24 ก.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางลงพื้นที่บ้านหลังดังกล่าว ต.ท่าสองคอน อ.เมือง จ.มหาสารคาม โดยมีนางสมจิตร เจ้าของบ้านเป็นผู้พาดูบ้านตามจุดต่าง ๆ ที่เกิดไฟไหม้ ทั้งหน้าบ้าน มีร่องรอยคราบเขม่าดำของไฟไหม้ ก่อนจะเดินเข้ามาภายในบ้าน เป็นพื้นที่โล่ง เเละมีห้องนอนอยู่ติดกัน 3 ห้อง ส่วนใหญ่จะไม่มีคนนอนเเล้ว เนื่องจากเกิดไฟไหม้

ภายในห้องเเรกมีตู้เก็บของ มีรอยไหม้ ห้องที่ 2 มีรอยไฟไหม้ที่ประตู พบว่าเป็นกลิ่นไฟไหม้จริง อีกทั้งยังมีร่องรอยไฟไหม้ที่พื้นกระเบื้องซึ่งเดิมเป็นจุดที่เคยวางเปลของเด็กด้วย ห้องที่ 3 เป็นจุดที่มีร่องรอยไหม้เยอะที่สุด คือมีรอยคราบเขม่า บนพนังกำเเพงจำนวนมาก ขื่อคานไม้ด้านบนก็มีร่องรอยไหม้

ในขณะที่ทำการสำรวจบ้านอยู่นั้น ทีมข่าวเดินดูอยู่บริเวณด้านหลังบ้าน ก็ได้ยินเสียงชาวบ้านตะโกนว่า "ไฟไหม้ ๆ" ในเวลา 11.03 น. ไฟไหม้กองเสื้อผ้าบริเวณหน้าบ้าน เมื่อทีมข่าววิ่งไปดูก็พบไฟไหม้จริง ก่อนที่ขาวบ้านจะเอาน้ำมาดับไฟ

จากนั้น เวลา 11.07 น. ก็ได้ยินเสียงตะโกนอีกครั้ง มีไฟไหม้ถุงใส่แห บริเวณหลังบ้านที่ครัว เมื่อทีมข่าววิ่งไปดูหลังบ้านก็พบไฟกำลังลุกไหม้ถุงใส่แหอยู่จริง โดยจุดนี้ทีมข่าวสังเกตเห็นวัตถุสีแดง คล้ายเชือกฟาง เเต่จากการสอบถาม ชาวบ้านบอกว่าเป็นเชือกฟางที่มัดเเหอยู่เเล้ว

นางสมจิตร รัฐเเสง อายุ 52 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า บ้านหลังนี้มีชื่อตามทะเบียนบ้านอยู่ทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย 1.นายประสิทธิ์ อายุ 87 ปี 2.นางสมจิตร อายุ 52 ปี 3.นายสมศักดิ์ อายุ 47 ปี 4.นายเสถียร เเฟนนางสมจิตร อายุ 53 ปี แต่ที่อยู่อาศัยในบ้านกันจริงแค่ 2 คน คือตาประสิทธิ์ และนางสมจิตร ตนเองอยู่มา 30-40 ปีไม่เคยมีปัญหาใด ๆ

ส่วนจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นวันอาทิตย์ที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนไปทำงานนอกบ้าน มีตาประสิทธิ์อาศัยอยู่บ้านคนเดียว กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. เพื่อนบ้านที่อยู่บ้านข้าง ๆ ห่างกันประมาณ 5-10 เมตร เห็นว่ามีไฟกำลังไหม้ต้นผือที่ตากไว้ข้างบ้าน ชาวบ้านก็เลยรีบวิ่งมาช่วยดับไฟแล้วโทรมาบอก ตนจึงรีบกลับมาที่บ้าน

จากนั้นไฟก็ไหม้ขึ้นเรื่อย ๆ บริเวณกองผ้า ราวผ้า ตู้เสื้อผ้าตามจุดต่าง ๆ ทุก 10 นาที รวมแล้วประมาณ 18 ครั้ง ภายในวันแรก ในเวลา 16.30-19.00 น. ซึ่งทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่ไฟไหม้เสียหายคือ เสื้อผ้าจำนวนมาก ตู้เสื้อผ้าจำนวน 6 หลัง และต้นผือ ส่วนครั้งที่ 2 ไฟไหม้ในวันอังคารที่ 19 ก.ค.65 เวลา 21.00-22.00 น. จำนวน 5 ครั้ง ครั้งที่ 3 ไฟไหม้วันที่ 23 ก.ค. เวลา 14.00-17.00 น. จำนวน 7 ครั้ง

หลังจากเกิดเหตุก็ได้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและ อบต.ให้เข้ามาตรวจสอบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เรื่องของไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่ วันที่ผู้ใหญ่บ้านก็เข้ามาดู ไฟก็ไหม้ต่อหน้าให้ผู้ใหญ่บ้านเห็น ผู้ใหญ่บ้านจึงไม่รู้สาเหตุเช่นเดียวกัน

นางสมจิตรยืนยันว่าปกติแล้วไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน มีเพียงคุณตาประสิทธิ์อายุ 87 ปีเท่านั้น และไฟก็เกิดขึ้นตามจุดต่าง ๆ สลับไปมา รวมทั้งไม่มีใครแปลกหน้าเข้ามาในบ้านด้วย ยอมรับว่ากลัวมาก ในวันที่ 2 ที่เกิดเหตุ ตนร้องไห้ จนต้องมานอนรวมกันกลางบ้าน แต่ก็นอนไม่หลับ หวาดระแวงจนถึงเช้า และตอนกลางวันก็ต้องลางานเพื่อมาดูแลบ้าน ส่วนสาเหตุตนเชื่อว่าน่าจะเกิดจากสิ่งที่มองไม่เห็น เพราะเคยไปดูดวงมา 3 ที่ หมอดูคนแรกบอกว่าตรงหลังบ้านจะมีหลุมอยู่ ซึ่งหลุมตรงนั้นเป็นทางขึ้นลงของพญานาค แล้วพญานาคมาพ่นไฟใส่ ทำให้ไฟไหม้ หมอดูคนที่ 2 บอกว่ามีคนทำของใส่บ้าน ส่วนหมอดูคนที่ 3 บอกว่า ที่บ้านมีวิญญาณอยู่นับร้อยตน ที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน

หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งที่ 2 ตนได้นิมนต์พระมาทำพิธีสวดขอขมาเจ้าที่เจ้าทางหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว จำนวน 4 รูป พระได้ทำพิธีสวด 4 จุดรอบบ้านตามประเพณี หลังจากนั้นไฟก็หยุดไหม้ไป 1 วัน แล้วก็กลับมาไหม้อีกครั้งในวันถัดมา พระบอกว่ามันแก่มาก แม้แต่พระก็ยังไม่กลัว ตนอยู่บ้านนี้มานานเเล้ว เเต่ตนไม่เคยฝันหรือสัมผัสถึงใดมาก่อน มีเพียงเพื่อนบ้านที่ฝันแล้วมองเห็นผู้หญิงมายืนอยู่ข้างบ้าน ตนอยากวอนให้หมอปลา หรือผู้ที่มีความรู้มาช่วยดูและจัดการเรื่องราวดังกล่าวให้ตนที เพราะตอนนี้อยู่บ้านแทบไม่ได้แล้ว หวาดกลัวมาก นอกจากนี้ ภายในบ้านมีเพียงตาประสิทธิ์คนเดียวเท่านั้น ที่สูบยาสูบโดยใช้ไฟแช็ก แต่ไม่เชื่อว่าเป็นคนจุด

รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด อาจารย์ภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิเคราะห์ว่าหลักการเกิดไฟไหม้เป็นปฏิกิริยาทางเคมีที่ต้องมี 3 องค์ประกอบหลัก คือ 1. เชื้อเพลิง เช่น เสื้อผ้า พลาสติก ที่อยู่ในบ้าน 2. ออกซิเจน คือ อากาศรอบบ้าน 3. พลังงานความร้อน ถ้าเกิด 3 สิ่งนี้จะเกิดไฟขึ้นมา

แต่ที่เห็นในภาพข่าวเราเห็น เสื้อผ้าพลาสติกและมีอากาศแต่ที่ยังไม่เห็นคือพลังงานความร้อน แต่สิ่งที่เจ้าของบ้านสงสัยคือเกิดพลังงานความร้อนแล้วเกิดไฟไหม้ได้อย่างไร พลังงานความร้อนเกิดได้ 2 แบบคือ แบบที่เกิดจากธรรมชาติเอง และแบบที่มนุษย์ทำขึ้น ซึ่งวิธีพิสูจน์คือหาที่มาของไฟ โดยใช้กล้องวงจรปิดดูบริเวณที่เกิดไฟ ก็จะทำให้รู้ที่มาของไฟ

นอกจากนี้ ในทางการแพทย์มีโรคหนึ่งที่น่าสนใจคือ "โรคชอบจุดไฟ" (Pyromania) ซึ่งเป็นการจุดไฟเพื่อระบายความเครียด เป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่งก็ต้องหาสาเหตุกันต่อไป