รวบหมอดูออนไลน์ "บัวนาคา" ทักคนในบ้านเจ็บป่วยหลอกแก้กรรมร่วมแสน

24 ก.ค. 65

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. และ กก.4 บก.ป. หลัวเหยื่อแห่ร้องกองปราบ ร่วมกันติดตามตัว นางสาวสุพรรณี (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดหลังสวน ที่ 120/2564 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง”

 

พฤติการณ์ กล่าวคือ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ต.ธานุพันธ์ สุระสะ สว.กก.กก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ กก.๒ บก.ป. จับกุม น.ส.สุพรรณีฯ อายุ 41 ปี ตามหมายจับศาลแขวงพระนครศรีอยุธยาในข้อหา “ ฉ้อโกงทรัพย์ ” โดยสามารถจับกุมได้ที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.4 ต.ผักไห่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา สืบเนื่องมาจาก น.ส.สุพรรณีฯ เปิดรับดูดวงไพ่ยิปซี หรือไพ่ทาโร่ ผ่านเฟซบุ๊ก กระทั่งเมื่อมีผู้สนใจเข้ามาดูดวง ก็จะออกอุบายทำนายว่า ญาติผู้ใหญ่ หรือคนที่รักจะมีอันตรายถึงแก่ชีวิต ต้องทำพิธีวางพานต่อชะตาให้บุคคลนั้น เพื่อให้ปลอดภัย ซึ่งในการทำพิธีจำเป็นจะต้องนำเงินสดมาใช้ประกอบการทำพิธี จำนวนเงินขึ้นอยู่กับเคราะห์ มีตั้งแต่ 10,000 – 300,000 บาท พร้อมอ้างว่าหลังเสร็จพิธีจะโอนเงินคืนให้ ทำให้ผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อยอมโอนเงิน แต่เมื่อได้เงินไปแล้ว น.ส.สุพรรณีฯ กลับเชิดเงินหนี ตัดขาดการติดต่อไป ผู้เสียหายจึงแจ้งความ จนมีการออกหมายจับ และทำการจับกุมในเวลาต่อมา

 

หลังจากถูกจับกุม ผู้ต้องหาได้ประกันตัวและหนีไปกบดานอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และยังคงรับดูดวงและใช้พฤติการณ์เดิมในการหลอกลวงผู้เสียหาย จนมีผู้เสียหายจำนวนมาก ออกมารวมตัวกันเอาผิดอย่างต่อเนื่อง

 

จนกระทั่งวันที่ 22 ก.ค.65 เวลา 12.30 น. รายการโหนกระแสได้ทำการติดต่อไปยัง น.ส.สุพรรณีฯ เพื่อโฟนอินเข้ามารายการสด รายการได้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์ถึงประเด็นที่เป็นข่าวดังอยู่ทั้งในโซเชียลต่างๆ หลังจากนั้น น.ส.สุพรรณีฯ ได้ตัดสายทิ้งกลางรายาการและปิดเครื่องหนี ขณะโฟนอินเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 และ กก.4 ได้ทำการเฝ้าติดตามอยู่ไม่ห่าง เพื่อที่จะทำการจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดหลังสวน ที่ 120/2564 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2564  ในข้อหา “ฉ้อโกง” จนทราบว่า น.ส.สุพรรณีฯ ได้ขนของขึ้นรถกระบะจากเชียงใหม่มายังจังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก. 2 บก.ป. จึงได้ติดตามมายังจังหวัดนครปฐม และพบว่าตัว น.ส.สุพรรณีฯ ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดนครปฐมแล้ว จึงสอบถามไปยังเรือนจำทราบว่ารับตัวผู้ต้องหามาช่วงเย็นของวันที่ 23 ก.ค.64

 

ต่อมาในช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ค.64 จึงได้สอบถามไปยังศาลจังหวัดนครปฐม แจ้งว่านายประกันของ น.ส.สุพรรณีฯ เป็นคนส่งตัวจำเลยกับศาลเอง โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากมีข่าวดัง และมีการหลอกลวงประชาชนไปทั่ว เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี เเละผู้ต้องหามีนัดฟังคำพิพากษาคดีวันที่ 17 ส.ค.65 คดี “ปลอมแปลงเอกสาร” จึงหลอกให้ผู้ต้องหามาพบที่ศาลแล้วส่งตัวให้ศาลทันที

 

ทั้งนี้ผู้ต้องหา น.ส.สุพรรณีฯ ยังคงมีหมายจับที่มีผลบังคับใช้ อยู่ 1 หมาย เป็นหมายจับของศาลจังหวัดหลังสวน จังหวัดชุมพร จึงแจ้งอายัดหมายกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพะโต๊ะ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส