แม่ร่ำไห้ถูกจับขโมยนม 3 กล่องให้ลูกที่เป็นเด็กพิเศษ ตำรวจปล่อยตัวจ่ายให้ 39 บาท

18 ก.ค. 65

แม่ร่ำไห้ถูกผู้จัดการร้านดำเนินคดี หลังขโมยนม 3 กล่องที่ร้านสะดวกซื้อ อ้างไม่มีเงินซื้อให้ลูกที่เป็นเด็กพิเศษกิน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.40 น.วันที่ 17 ก.ค. 65 ร.ต.อ.มงคล พิลัย รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นำตัว น.ส.แจ่ม (นามสมมติ) อายุ 51 ปี ชาวบ้าน ใน อ.เมืองศรีสะเกษ มาลงบันทึกประจำวันก่อนปล่อยตัวชั่วคราว โดยมี น.ส.แก้ว (นามสมมติ) ผู้เป็นพี่สาวมารับตัวไป ซึ่งพนักงานสอบสวนนัดให้มารายงานตัวทุก 12 วันจนกว่าจะสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการได้

 

ตามที่ก่อนหน้านั้น ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ไปตรวจสอบพบผู้จัดการร้านควบคุมตัว น.ส.แจ่ม ไว้แล้ว จึงตรวจค้นกระเป๋าผ้าสีดำที่ น.ส.แจ่มสะพายอยู่พบนมกล่อง 3 กล่อง อยู่ในกระเป๋า ตำรวจ เห็นว่าของที่ขโมยไปมีไม่มากนักและมีมูลค่าเล็กน้อย จึงจ่ายค่านมแทนเพื่อไม่ให้ น.ส.แจ่มถูกจับกุม แต่ผู้จัดการร้านไม่ยอม จึงนำตัวมาบันทึกจับกุมและส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

 

หลังจากที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวนี้ออกไป ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องรายนี้แล้ว โดยมีเหตุผลว่า คดีนี้ ตนตรวจสอบแล้วเห็นว่า แม้คดีนี้จะเป็นคดีอาญาแผ่นดินต้องหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี และบุคคลอื่นไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง แต่เนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีบุตรที่จะต้องดูแล ไม่น่าจะหลบหนี และทรัพย์ที่ลักเอาไปมีมูลค่าเล็กน้อยเพียง 39 บาท หากประกันตัวไปไม่น่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและไม่น่าจะเสียรูปคดี เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไปจากการควบคุมของพนักงานสอบสวน และสั่งให้ผู้ต้องหามารายงานตัวตามนัดต่อไป

 

น.ส.แจ่ม เล่าต่อไปว่า ลูกสาวของตนอายุ 15 ปีแล้ว แต่ว่าเป็นเด็กพิเศษ เรียนหนังสือไม่ทันเพื่อน มีอาการผิดปกติมาตั้งแต่คลอดออกมาแล้ว ตนหย่าร้างกับสามี จึงต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ตามปกติแล้วลูกของตน อายุ 15 ปี จะต้องเรียนชั้น ม.4 แต่ว่าต้องเรียน ม.2

 

อีกทั้งเวลาไปเรียนหนังสือจะต้องถูกเพื่อนบูลลี่เป็นประจำทุกวัน และบางวันก็ถูกเพื่อนแกล้งขังไว้ในห้องน้ำ บางวันก็ถูกเพื่อนลักรองเท้า ทำให้ลูกสาวของตนไม่อยากไปเรียนหนังสือและได้หยุดเรียน ตนสงสารลูกสาวมากจึงต้องดูแลลูกสาวอย่างเต็มที่ตามที่ตนจะทำได้

 

ด้าน น.ส.แจ่ม กล่าวว่า ตนรู้สึกว่าผิดที่กระทำเช่นนี้ไป ต่อไปจะไม่ทำอีก ตนดีใจที่ผู้หลักผู้ใหญ่ให้การช่วยเหลือดูแล ต้องขอขอบคุณทุกท่านทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือให้ตนออกจากห้องขัง ซึ่งจะทำให้แม่สบายใจไม่เป็นห่วงตนอีก ตนขอสัญญาว่าจะไม่ทำในสิ่งที่ทำให้แม่ ญาติพี่น้องต้องเป็นทุกข์ใจอีกต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส