เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 65 พ.ต.ท.พรชัย ประพิณ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเลย รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทใช้อาวุธแทงกันบาดเจ็บสาหัส ที่หน้าบ้าน หมู่ 12 บ้านกำเนิดเพชร ใกล้กับร้านสะดวกซื้อ สาขากำเนิดเพชร ต.เมือง อ.เมือง จ.เลย หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองเลย ทราบ
รีบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองเลย พบว่าผู้ที่ก่อเหตุเลือกออกเต็มใบหน้า ถืออาวุธมีดยาวเดินไปมา โดยไม่ยอมมอบตัวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ไม้ง่ามเข้าระงับเหตุ จนสามารถจับกุมตัวไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายแสงดาว จันทบัพภาศรี อายุ 52 ปี ชาว จ.เลย
ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อ นายอัครพล ปาคำ หรือ บาส อายุ 37 ปี ชาว จ.เลย ถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลม จนลำไส้ทะลักออกมากองที่หน้าท้อง เลือดไหลนองเป็นทางยาวทั่วบริเวณ อาการสาหัสนอนสลบแน่นิ่ง ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ล่าสุดวันที่ 13 ก.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ หน้าบ้านหมู่ 12 บ้านกำเนิดเพชร ใกล้กับร้านสะดวกซื้อ สาขากำเนิดเพชร ต.เมือง อ.เมือง จ.เลย โดยลักษณะจุดเกิดเหตุเป็นบ้านที่อยู่ติดกับถนนหลักของหมู่บ้าน ซึ่งวันนี้ศพของนายบาส ยังคงถูกฝากไว้ที่โรงพยาบาล เนื่องจากต้องรอแม่นายบาสที่จะเดินทางมาจากประเทศสวีเดนเพื่อมาขอรับศพ
นางยนต์ จันทร์สว่าง อายุ 68 ปี เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุประมาณ 15.00 น. ตนเองยืนอยู่ที่หน้าบ้าน เห็นนายดาว ผู้ก่อเหตุ เดินถือถุงขวด ที่เก็บมาได้ผ่านหน้าบ้าน แล้วก็ตะโกนไปเรียกนายบาส ผู้ตาย ที่ยืนอยู่หน้าบ้านว่า "บาส เมื่อไหร่มึงจะคืนเงิน 200 ที่ยืมไปให้กู" จากนั้นก็สังเกตเห็นว่านายบาสโมโห ที่ถูกญาติตัวเองทวงเงินต่อหน้าชาวบ้าน จึงวิ่งเข้าไปหยิบมีด แล้วก็วิ่งเข้าไปฟันนายดาว
แต่ตอนนั้นนายดาวไม่สู้ ได้แต่เอาถุงขวดบังที่ใบหน้า แต่ก็บังไม่มิด ถูกคมมีดของนายบาสจนทนไม่ไหว โยนถุงขวดใส่นายบาส จนนายบาส เดินถอยหลังล้มลงที่กลางถนน กระทั่งนายดาวได้จังหวะตอนนายบาสล้มอยู่กับพื้น วิ่งเข้าไปหยิบมีดตะขอเข้าไปฟันนายบาสอย่างไม่ยั้ง จนนายบาสแน่นิ่งไป ยอมรับว่าตกใจมาก เพราะในขณะที่นายบาสแน่นิ่งไป นายดาวยังกระทืบนายบาสซ้ำเหมือนกับคนบ้าคลั่ง
หลังจากนั้น ตำรวจกับรถพยาบาลก็เข้ามาในที่เกิดเหตุ เพื่อปฐมพยาบาลนายบาสก่อนจะไปสิ้นใจที่โรงพยาบาล ส่วนนายดาวก็นั่งอยู่ในที่เกิดเหตุ หนีไปไหนไม่รอด เพราะมีอาการบาดเจ็บเช่นเดียวกัน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครคิดว่าจะทำร้ายกันจนเสียชีวิต เนื่องจากเป็นญาติกัน แล้วก็กินเหล้าด้วยกันทุกวัน ก่อนหน้านี้ก็เคยเห็นทะเลาะกัน แต่ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้
นางสาวราตรี ปาคำ อายุ 63 ปี ป้าของนายบาส บอกว่า ตอนเกิดเหตุตนเองไม่ได้เห็นเหตุการณ์ตอนทวงเงินกัน แต่มาเห็นตอนที่กู้ภัยมาถึงในที่เกิดเหตุ ยอมรับว่ารับไม่ได้ที่เห็นสภาพหลานถูกแทงที่ท้องหลายแผลจนไส้ทะลักออกมา ตอนนั้นยังไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยหลาน เนื่องจากนายดาวยังมีอาการคลั่ง ถือมีดตะขอเดินวนเวียนอยู่ที่ร่างของหลาน แล้วก็ยังฟันร่างของหลายซ้ำไปซ้ำมาต่อหน้า
เสียใจมากที่ได้แต่ยืมมอง เพราะไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยหลาน จนตำรวจเข้ามาในที่เกิดเหตุ ทุกคนที่มองดูอยู่ก็พยายามเข้าไปช่วยหลาน แต่ก็ช่วยไม่ทัน ยอมรับว่าที่ผ่านมาหลานนั่งกินเหล้ากับนายดาวทุกวัน เนื่องจากเป็นญาติกันไม่คิดว่าความที่ไว้กัน หลานจะมาตายแบบนี้
สำหรับเรื่องเงินที่หลานไปติดนายดาว ยอมรับว่าไม่เคยรู้มาก่อน เพราะหลานไม่เคยมาบอก ที่ผ่านมาตนเองจะเป็นคนดูแล เรื่องเงินให้หลานใช้วันละ 50 บาท เนื่องจากแม่ของหลานที่อยู่ต่างประเทศจะส่งมาให้ใช้ทุกเดือน ส่วนเรื่องศพของหลานตอนนี้ต้องฝากทางโรงพยาบาลเอาไว้ก่อน เนื่องจากรอให้แม่ของหลานที่จะเดินทางมาจากประเทศสวีเดนเป็นคนมารับศพลูกด้วยตนเอง ตนรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงนายดาวจะเป็นญาติกัน แต่ไม่ขออโหสิกรรมให้ และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ส่วนเรื่องคดี ตอนนี้ตำรวจได้นำตัวนายดาว ไปฝากขังแล้วในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยแจ้ง 2 ข้อหา คือ 1. ทำร้ายร่างกายจนผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2. พกพาอาวุธมีดไปในทางหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
