ล่าไอ้โม่งเสื้อปูนขี่รถดูลาดเลาก่อนแทงยาย 20 แผล พยานเชื่อฝีมือคนนอก เผยเสียงสุดท้ายก่อนถูกฆ่า (คลิป)

6 ก.ค. 65

กรณี สภ.ชะอำ รับแจ้งเหตุบุคคลถูกทำร้ายเสียชีวิตภายในบ้าน เขตเทศบาลเมืองชะอำ อ.ชะอำ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ที่บริเวณห้องรับแขกใกล้ประตูทางเข้าตัวบ้านพบศพ นางสุธาสินี พันธุ์สวัสดิ์ อายุ 73 ปี เจ้าของบ้าน นอนจมกองเลือด พบร่องรอยการต่อสู้ เก้าอี้ล้ม มีเศษแว่นตาผู้เสียชีวิต รองเท้าตกอยู่ที่พื้น

687448

พบกองเลือดขนาดใหญ่ที่ผนังมีรอยเลือดกระเซ็นเปรอะเปื้อนไปทั่ว นอกจากนั้นยังพบรอยเลือดลากศพเข้ามาในห้องรับแขกซึ่งอยู่ติดกัน พบว่าบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมบริเวณหน้าอก ท้อง แขนซ้าย และกลางหลัง รวมประมาณ 20 แผล สอบเบื้องต้นพบทรัพย์สินผู้ตายหายไปจำนวนหนึ่ง

665026

วันที่ 6 ก.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ตำรวจชุดสืบสวนทุกภาคส่วน ลงพื้นที่เก็บข้อมูลและพยานหลักฐานแวดล้อมเพื่อนำไปสู่การจับตัวคนก่อเหตุ เช้าที่ผ่านมา ทางครอบครัวมีการเชิญพระสงฆ์มาทำบุญที่บ้าน ซึ่งทางครอบครัวขอเป็นการส่วนตัว

598531

นางสาวรภัทรธรณ์ ไกเออร์ หรือ ดาว ลูกสาวคนโตของผู้เสียชีวิต บอกว่าในช่วงเช้าที่ผ่านมา ครอบครัวได้มีการนิมนต์พระสงฆ์มาทำบุญบ้าน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วตนตั้งใจเตรียมอุปกรณ์ธูปเทียน รวมถึงตั้งใจนิมนต์พระมาทำบุญบ้านในวันศุกร์ที่ 8 ก.ค.65 เนื่องจากเป็นวันเกิดของตนมีการพูดคุยกันตั้งแต่แรกว่าจะทำบุญบ้านกัน ก็ไม่คิดว่าจะต้องนิมนต์พระสงฆ์ใช้อุปกรณ์ธูปเทียนดังกล่าวมาใช้ในงานโศกเศร้า

614635

ตนยอมรับว่าสภาพจิตใจคนในครอบครัวตอนนี้ค่อนข้างแย่ โดยเฉพาะคุณพ่อ ยังคงไม่ทราบเรื่อง และเริ่มสงสัยจากการฟังข่าว ทางครอบครัวจึงช่วยกันปิดข่าวเพราะกลัวว่าพ่อจะทำใจไม่ได้ อ้างว่าแม่อยู่ที่โรงพยาบาล ตัดสินใจว่าจะรอให้มีการชันสูตรศพ รอถึงวันเตรียมพิธีการจัดงานศพก่อนจึงจะค่อยบอกความจริง อีกทั้งยังครอบครัวต้องแรงให้กำลังใจนางสาวพีรภาว์ พันธุ์สวัสดิ์ หรือ หยก อายุ 39 ปี ลูกสาวคนเล็กที่ยังคงช็อก และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากคุณแม่เสียชีวิตคาตักของลูกสาวคนเล็ก ทางครอบครัวก็เป็นห่วงในสภาพจิตใจ เพราะส่วนตัวก็มีการป่วยเป็นโรคประจำตัว ไม่อยากให้พูดอะไรซ้ำ ๆ เยอะ

947599

ส่วนคนก่อเหตุตนก็ยังคงเชื่อว่าเป็นคนในพื้นที่ เพราะรู้ทางหนีทีไล่ คนแปลกหน้าก็ไม่ค่อยมีเข้ามาในพื้นที่สักเท่าไร จะมีบ้างที่ทางคุณแม่เรียกมาให้ช่วยตัดหญ้า แต่ตนก็ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เพราะอาศัยอยู่กรุงเทพฯ ซึ่งตอนนี้ไม่อยากตั้งข้อสงสัยใคร เพราะจะเป็นการใส่ร้ายคนอื่น ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันค่อนข้างที่จะอุกอาจ รุนแรงอย่างมาก

252831

ปกติแล้วคุณแม่เป็นคนแข็งแรง ล่าสุดมีการเด็ดต้นมะม่วงหาวมะนาวโห่ ค่อนข้างมีหนามเยอะมาก จะนำมาต้มเป็นยาสมุนไพรให้ตนดื่มประจำ บางทีหนามทิ่มมือจนเป็นแผล คุณแม่ก็ไม่เคยร้องเจ็บสักครั้ง แต่ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุคุณแม่บ่นว่าเหนื่อย และคิดว่าตัวเองมีภาวะโรคหัวใจกำเริบ ทางครอบครัวจึงสันนิษฐานว่าคุณแม่น่าจะมีการต่อสู้กับคนร้าย เพื่อป้องกันไม่ให้คนก่อเหตุเข้าไปในบ้าน ซึ่งมีคุณพ่อและน้องสาวคนเล็กอาศัยอยู่ในบ้าน เหมือนกับว่าเอาตัวและชีวิตเข้าป้องกันเหตุ

เรื่องของการติดตามตัวคนก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ให้เบาะแสอะไรเพิ่มเติม มีเพียงแค่การสอบปากคำเท่านั้น ก็ขอเป็นกำลังใจให้สามารถจับกุมตัวคนร้ายให้ได้เร็ว ๆ ทางครอบครัวก็ไม่ได้อยากกดดันการทำงานของตำรวจ

268076

นางสาวพีรภาว์ หรือ หยก อายุ 39 ปี ลูกสาวคนเล็กของผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนตื่นมาช่วงเวลาเที่ยง เนื่องจากกินยานอนหลับไปจำนวน 11 เม็ด จากภาวะนอนไม่หลับ ก่อนตื่นมาเจอคุณแม่นอนล้มอยู่บนกองเลือด จึงคิดว่าทำงานบ้านแล้วเกิดลื่นล้ม จึงรีบโทรเรียก 1669 และเรียกพี่ชายให้มาช่วยดู ตอนแรกยังคิดว่าเป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้ 2 ตัวกัดคุณแม่ จนเริ่มสังเกตเห็นบาดแผลตามลำตัวเยอะขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหน้าอกและแขน ก่อนเช็กลมหายใจพบว่าไม่หายใจแล้ว จึงรีบทำ CPR ในใจคิดว่าขอให้มีปาฏิหาริย์ให้แม่ฟื้น

949184

หลังช่วยชีวิตไม่ไม่ทัน พี่ชายบอกกับตนว่าน่าจะเป็นเหตุฆาตกรรมเพราะพบรอยเท้าผู้ต้องสงสัย และร่องรอยการรื้อขนตู้เก็บเอกสาร และพบว่ามีเงินหายไปจำนวน 4,000 บาท พร้อมด้วยพระเครื่องอีกหลายองค์ จากที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดมีช่วงเวลาที่ได้ยินเสียงคุณแม่พูดกับผู้ก่อเหตุว่า "อย่าทำอะไรป้าเลย ป้าแก่แล้ว"

554031

ตนขอให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว และให้ลงโทษถึงประหารชีวิต ตนไม่สามารถให้อภัยได้ที่ทำกับคุณแม่ขนาดนี้ โดยตอนนี้ทางครอบครัวยังไม่กล้าบอกความจริงกับคุณพ่อที่ตอนนี้อายุมากแล้ว และนอนป่วยติดเตียง เพราะกลัวว่าจะรับไม่ได้ และจะเป็นอะไรไปอีกคน จึงบอกคุณพ่อได้เพียงว่าคุณแม่หัวใจกำเริบ กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

435340

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้ภาพกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุ ภาพจากร้านขายของชำติดริมถนนใหญ่ ความยาวคลิป 21 วินาที จับภาพคนก่อเหตุ ขับผ่านในช่วงเวลาประมาณ 10.29 น. ห่างจากบ้านคนตายประมาณ 250 เมตร ช่วงเวลาประมาณ 10.35 น. คนก่อเหตุ ขับผ่าน และเวลาประมาณ 10.57 น. เห็นคนก่อเหตุขับผ่าน

325479612414648591

ภาพของชาวบ้านในพื้นที่ ห่างจากบ้านคนตายประมาณ 270 เมตร จับภาพช่วงเวลาประมาณ 10.38 น. เห็นผู้ก่อเหตุขับรถผ่าน และในช่วงเวลาประมาณ 10.58 น.

873195

นางแก้ว (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งเปิดร้านขายของชำเล็ก ๆ อยู่บริเวณถนนในซอยบ้าน ห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 300 เมตร เปิดเผยว่า วันที่ 5 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ตนนั่งอยู่ที่หน้าร้าน พบว่าสุนัข 2 ตัวที่เลี้ยงไว้เห่าเสียงดัง เหลือบมองออกไป เห็นชายแต่งตัวมิดชิด สวมไอ้โม่งลายทหาร เห็นแค่หน้าผากและบริเวณตา ยืนห่างออกไปประมาณ 150 เมตร ซึ่งสุนัขของตนกำลังจะวิ่งไล่ไปกัด ตนจับสุนัขทานแค่ตัวเดียว ส่วนอีกตัวเข้าไปเห่าบริเวณใกล้ตัวชายคนดังกล่าว

ตนได้ตะโกนไปหาชายคนนั้นกล่าวบอกว่า ถ้าจะเดินผ่านทางนี้ให้ถือไม้มาด้วย เพราะสุนัขจะกัด แล้วตนจะไม่มีเงินช่วยในการรักษา จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ย้อนกลับ ไปไม่กล้าเดินผ่าน

301221

ด้านนายชาตรี (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน บอกว่าช่วงเวลาประมาณ 10 โมงกว่า ๆ ตนกำลังติดสติกเกอร์รถมอเตอร์ไซค์อยู่ที่หน้าบ้าน เห็นรถมอเตอร์ไซค์คันสีชมพู ซึ่งผู้ขับขี่สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน มีการใส่ไอ้โม่งปิดบังใบหน้าเหลือแค่บริเวณช่วงตาและหน้าผาก ซึ่งขับผ่านบ้านของตนไป โดยที่ไม่ได้ทักทาย ตนก็ไม่ได้เอะใจ เนื่องจากไม่มีพิรุธ

ผ่านไปประมาณเกือบ 20 นาที เห็นรถคันเดิมขับออกจากพื้นที่ ซึ่งในตอนนั้นตนกำลังจะเดินทางไปซื้ออาหารกลางวัน พอกลับมาถึงบ้าน พบว่ามีรถพยาบาลและรถเจ้าหน้าที่ตำรวจจอดอยู่ที่บริเวณบ้านที่เกิดเหตุ จึงเข้าไปสอบถามดูพบว่าคุณยายสุธาสินี ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงเสียชีวิตก็รู้สึกตกใจ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรง ไม่เคยมีคนร้ายงัดแงะบ้านเพื่อชิงทรัพย์ เนื่องจากตนก็เป็นอดีตตำรวจ บริเวณหน้าบ้านก็เขียนชื่อพันตำรวจเอก คนร้ายเลยไม่มีใครกล้าขโมยของในบ้าน

หลังเกิดเหตุพอตำรวจมาสอบถามและขอดูภาพกล้องวงจรปิด จึงพบว่าชายคนดังกล่าวคือผู้ก่อเหตุ ส่วนตัวไม่คุ้นหน้า และไม่เคยเห็นรถมอเตอร์ไซค์คันนี้มาก่อน ปกติแล้วถ้าเป็นคนเลี้ยงวัวเลี้ยงแพะ เข้ามาตัดหญ้าในพื้นที่ก็จะยิ้มทักทายและพูดคุยกับตนเป็นประจำ แต่ผู้ก่อเหตุไม่ได้สบตา และไม่ได้ทักทาย จึงคาดว่าไม่ใช่คนแถวนี้ แต่ก็น่าสงสัยถ้าเป็นคนภายนอก ทำไมถึงเลือกลงมือก่อเหตุบ้านหลังนี้ หรืออาจจะมีการดูลาดเลามาก่อนก่อเหตุ ตอนนี้เชื่อว่าคนก่อเหตุอาจจะยังคงอยู่ในพื้นที่ และมีความมั่นใจว่าทางเจ้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมตัวคนก่อเหตุมาลงโทษตามกฏหมายได้ในเร็ว ๆ นี้

406719

นางฟารีดา (นามสมมติ) ชาวบ้านที่เลี้ยงแพะ บอกว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่เลี้ยงแพะเป็นอาชีพจะเลี้ยงแพะอยู่สองประเภท คือแพะขุน กับ แพะฝูงเพศเมีย ซึ่งแพะขุน จากเป็นการให้อาหารเป็นแบบเม็ด เป็นผลไม้ และแยม ส่วนแพะฝูงจะกินพวกยอดหญ้ายอดกระถิน ต้นไมยราบ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีใครเก็บมา เว้นเสียแต่จะปล่อยแพะไปกินเองตามธรรมชาติ

ปัจจุบันวิถีชีวิตเปลี่ยนไป ในพื้นที่เริ่มมีอาสังหาริมทรัพย์มาสร้างบ้านจัดสรรเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านสนใจเลี้ยงแพะในรั้วในคอก ไม่ได้ปล่อยตามธรรมชาติเหมือนแต่ก่อน ชาวบ้านในพื้นที่เขารู้กันหมดว่าที่ดินตรงไหนเป็นของใคร ส่วนใหญ่ก็เป็นญาติพี่น้องกัน ซึ่งส่วนตัวและสามี ก็ไม่เคยรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ของใคร เว้นเสียแต่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของสถานที่ หรือมีการว่าจ้างให้ไปช่วยตัดหญ้าในพื้นที่ ปัจจุบันส่วนใหญ่ไปหาเก็บตามพื้นที่ป่า และพื้นที่ข้างทางที่ไม่มีคนอยู่อาศัย

424456

ส่วนตัวไปบริเวณแถวบ้านคนก่อเหตุแค่ตอนไปหาญาติ หรือมีความจำเป็นจะต้องไปธุระจึงจะเดินทางไปแถวนั้น ตนยืนยันได้ว่าตนและสามีไม่เคยบุกรุกเข้าไปตัดหญ้าในพื้นที่ของใคร และเชื่อว่าชาวบ้านในพื้นที่ก็ไม่มีใครทำแบบนั้น ส่วนการที่เจ้าหนี้ตำรวจตั้งข้อสงสัยในเรื่องของคนเลี้ยงแพะ ตนก็เข้าใจได้ว่าเป็นแนวทางการสืบสวนเพื่อจับกลุ่มคนก่อเหตุ ซึ่งก็ไม่ได้รู้สึกติดใจ และขอเอาใจช่วยให้ตำรวจจับคนก่อเหตุให้ได้เร็ว ๆ

465978

ด้านนายพิษณุวิทย์ แจ่มใส อายุ 50 ปี เจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ บอกว่า ตนเปิดร้านอยู่ในพื้นที่มานานกว่า 2 ปี ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาเติมลมหรือมาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง จะเป็นลูกค้าประจำ และส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ ทำให้ตนรู้จักลูกค้าแทบทุกคน ซึ่งในส่วนน้อยครั้งจะมีลูกค้าขาจรเข้ามาใช้บริการ

749221

แต่ถ้าจะถามถึงรถจักรยานยนต์สีชมพูคันก่อเหตุ ก็คงตอบคำถามไม่ได้ เพราะก็จำไม่ได้ว่ามีรถคันไหนเข้ามาใช้บริการบ้าง ซึ่งเท่าที่ดูจากภาพข่าวที่ปรากฏ ยอมรับว่าไม่คุ้นตา ส่วนตัวหลังทราบข่าวก็รู้สึกตกใจเพราะผู้เสียชีวิตตนก็รู้จัก เนื่องจากเคยไปซ่อมรถให้ลูกค้าแถวบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งอุปนิสัยเป็นคนที่พูดจาไพเราะ และยิ้มแย้มแจ่มใส

ซึ่งพอทราบว่าเกิดเหตุการณ์อุกอาจแบบนี้ ก็รู้สึกสงสารผู้เสียชีวิต ตนไม่เข้าใจว่าถ้าจะแค่ชิงทรัพย์ทำไมต้องทำให้เขาตาย คนแก่ขนาดนั้นแค่พลักก็ล้มแล้ว แบบนี้มันจิตใจอำมหิตโหดเหี้ยมมาก แม้ว่าตนจะไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว แต่เท่าที่พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ ส่วนใหญ่หวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับตัวคนก่อเหตุให้ได้เร็ว ๆ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส