หนังคนละม้วน! พ่อตาฆ่าเขยแฉปมพี้ยาซ้อมลูก แม่คนตายโฮฉะสะใภ้ใช้ผัวซักผ้า (คลิป)

5 ก.ค. 65

กรณีเมื่อเวลา 18.00 น. ตำรวจ สน.โชคชัย กรุงเทพฯ รับแจ้งเหตุชายถูกแทงเสียชีวิต อยู่ภายในซอยลาดปลาเค้า 10 จึงรุดเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นถนนภายในซอบ หน้าบ้านพบศพชายไม่สวมใส่เสื้อมีเพียง กางเกงเพียงตัวเดียว ไม่สวมใส่รองเท้า ในมือถือโทรศัพท์ นอนคว่ำหน้ามีมีดปอกผลไม้ยาวแทงคาอยู่กลางหน้า นอนจมกองเลือด ทราบชื่อคนก่อเหตุในเวลาต่อมาคือ นายพิษณุ เหมติรันดร อายุ 42 ปี เขยของบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนคนก่อเหตุทราบคือนายไพโรจน์ จ่าพล อายุ​ 67 ปี พ่อตาของคนตาย หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป

168376

จากนั้นในเวลา 21.20 น. มีรายงานว่า นายไพโรจน์เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนพร้อมรับสารภาพว่าก่อเหตุแทงลูกเขย จากนั้นได้ควบคุมตัวนายไพโรจน์ สอบปากคำตลอดทั้งคืน ก่อนแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น

ล่าสุดวันที่ 5 ก.ค.65 ก่อนตำรวจ สน.โชคชัย คุมตัวนายไพโรจน์ ไปขออำนาจศาลอาญารัชดาฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน พบว่าโดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่มีอัตราโทษสูง

772527

โดยระหว่างคุมตัวมาทำการสอบสวนเพิ่มที่ห้องปฏิบัติการงานสืบสวนนายไพโรจน์ ผู้ก่อเหตุ ยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เพราะคับแค้นใจ รู้สึกกดดันที่นายพิษณุ ลูกเขย ทำร้ายร่างกายลูกสาวมานานกว่า 10 ปี และล่าสุดถึงขั้นฆ่ากัน ด้วยความรักลูกสาว ตัวเองจึงทนไม่ได้ และลงมือก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายไฟโรจน์ทำการบันทึกประวัติและให้รับประทานอาหาร จากนั้นเวลา 10.00 น. ทำการคุมตัวไปส่งศาลฯนายไพโรจน์ กล่าวอีกครั้งว่า ยอมรับการกระทำ แต่เป็นเพราะลูกเขยติดยา ชอบ ชอบอาระวาด ซึ่งเป็นมามานานกว่า 10 ปี

ดังนั้นการกระทำครั้งนี้ตนจึงไม่รู้สึกผิด เพราะตนถือว่าได้ปกป้องคนในครอบครัวรวมถึงคนข้างบ้านด้วยเพื่อจะได้ไม่มีใครล้มตายเพราะลูกเขย ตนเองจึงไม่เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะทำดีแล้ว และไม่เครียด ทีมข่าวพยายามถามว่าไม่ห่วงที่หลานที่กำพร้าพ่อและตาต้องเข้าคุก ใครจะดูแล นายไพโรจน์บอกว่าตอนนี้มีคนดูแลอยู่แล้ว

ในช่วงท้ายทีมข่าวถามถึงกรณีลูกสาวนายไพโรจน์พาหลานมาเยี่ยม นายไพโรจน์เล่าลูกสาวบอกให้อดทน พ่อทำดีแล้วส่วนตนตอนนี้ก็มีแต่คำว่าคิดถึง

884119

สำหรับครอบครัวนำร่างนายบอล ผู้ตาย ไปประกอบพิธีการทางศาสนาที่วัดลาดปลาเค้า ทันทีที่นำร่างลงสู่ศาลา นางสุภาภรณ์ สุทัศน์ แม่ผู้ตาย ทั้งจับและลูบขา ลูบตัว ลูกชาย ร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ จากนั้นครอบครัวญาติพี่น้องร่วมรดน้ำศพเป็นการไว้อาลัย บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

895108

นางสุภาภรณ์ เล่าว่า เมื่อศุกร์ที่ 1 ก.ค. 65 ลูกชายซื้อน้ำพริกปลาร้าไปฝาก ก่อนบ่นว่าเหนื่อยแม่ถ้าอยู่กับภรรยามีปัญหากันบ่อย ถ้าเลิกกับภรรยาต้องทำอย่างไร ตนจึงบอกว่าต้องมีผู้ใหญ่คุยทั้ง 2 ฝ่าย เพราะจดทะเบียนสมรสกัน ตนจึงบอกว่าวันอาทิตย์ที่ 3 ก.ค. นี้แม่จะไปคุยให้ แต่ลูกก็ปฏิเสธบอกว่าต้องทำงานจึงนัดกันว่าจะไปเครียร์กันวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ค.นี้ แต่เกิดเหตุก่อน

ขณะเดียวกันวันเสาร์ที่ 2 ก.ค. ก็ยังได้คุยกัน ลูกชายยืนยันว่าถ้าเลิกอยากเอาลูกชายไปอยู่ด้วย ห่วงลูกมาก ลูกคือแก้วตาดวงใจ กลัวอยู่กับภรรยาแล้วดูแลไม่ดี ไม่มีท่าทีจะเกิดเหตุเลย ส่วนกับนายไพโรจน์ จริง ๆ ไม่เคยสุงสิงกันเลย ขณะที่ลูกสะใภ้ชอบโทรด่าตน ขึ้นมึงขึ้นกู เช่น คนเราถ้าเข้าข้างคนผิดชีวิตก็เปลี่ยน ตนจึงตอบว่าแม่สอนลูกแม่ ทะเลาะกันแม่ก็ไม่เคยว่าอะไรเลย ซึ่งลูกสะใภ้ก็เงียบไป กระทั่งล่าสุดก็ยังด่าตนอีกว่า "ผัวแบบนี้กูไม่เอา ทำกูคราวนี้ตายแน่"

ซึ่งที่ผ่านมาลูกสะใภ้จะชอบทำให้ตนไม่สบายใจ ตนก็ปวดหัวเครียด ยิ่งพักหลังป่วยเป็นโรคหัวใจ ความดันสูง ยิ่งทำให้ตนเครียด แต่ตนก็ไม่เคยถือสา ได้แต่เป็นห่วงลูก กลัวทะเลาะกับลูกสะใภ้ และไม่คิดว่าลูกจะถูกกระทำแบบนี้ แม้ปีที่แล้วทะเลาะถึงขั้นถือมีดขู่ แต่ก็จบกันไป สำหรับการกระทำครั้งนี้เกิดว่าเหตุ ลูกชายตนเหนื่อยทั้งชีวิต แม้แต่เสื้อผ้าลูกชายลูกสะใภ้ก็ไม่เคยจะซักให้ ญาติ ๆ ทนเห็นสภาพไม่ได้ แนะให้ลูกชายออกมา ลูกก็ยังรักเมีย

อย่างไรก็ตาม ตนมีลูกชายคนเดียวถึงลูกจะกินเหล้า แต่เวลาไม่กินก็ดูแลครอบครัวดีมาก ยิ่งกับแม่มีเงินเท่าไรก็ให้ ๆ มากสุดเป็นหมื่น แต่เมียรู้ไม่ได้ เพราะจะทะเลาะกัน ขณะที่นายไพโรจน์ไม่ได้ดูดดำดูดีเลย ตนจึงไม่ยอม จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด การแทงข้างหลังตนรับไม่ได้ ลูกชายเป็นห่วงตนเสมอ ก่อนจะจากพูดครั้งสุดท้ายเมื่อวันเงินเดือนออกว่าแม่ "เงินเดือนบอลออก 25,000 บาท บอลทำงานเหนื่อยแทบตาย ตนกลัวลูกเป็นห่วง เพราะรู้ว่าลูกห่วงแม่มาก และห่วงลูกชายมาก ๆ ทั้งยังเคยพูดว่าถ้าบอลเป็นอะไรไป บอลฝากดวงใจของบอลด้วยนะ" ตอนนั้นคิดว่าลูกพูดเล่น ๆ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ลูกสะใภ้อนุญาตให้ตนรับหลานไป ตนก็จะเลี้ยงและดูแลหลานเอง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส