ระทึก! อมรินทร์ลุยรังแก๊งฆ่าทหารซ่อนศพ แฉไม้ทุบโยนน้ำ ลากไส้ "ไอ้บอย" ตัวโหด (คลิป)

กรณีวันที่ 29 มิ.ย. 65 พ.ต.อ.สราวุธ นุชนารถ ผกก.สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วิชญ์พล ศรีศักดา รองผกก.สส.สภ.วังจันทร์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณคลองยุบชงโค หมู่ 3 ต.วังจันทร์ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง นางสาวจุฑารัตน์ มาดหมาย อายุ 37 ปี แม่ของพลทหารพนา ผู้สูญหาย

วันที่ 1 ก.ค. 65 ทีมข่าวเดินทางไปยังพื้นที่บ้านเกิดของนายบุญฤทธิ์ หรือ บอย ที่บ้านหนองยาง หมู่ 8 ต.ชะโนดน้อย อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร นายขันติ คำมุงคุณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บอกว่า นายบอยออกจากหมู่บ้านไปประมาณ 3 ปีแล้ว ตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้าน เป็นคนขยันช่วยพ่อแม่ทำงาน ไม่ค่อยพูดและไม่เคยสุงสิงกับใคร ที่สำคัญนายบอยไม่ใช่คนโหดร้าย แต่พอถูกเมียทิ้งจึงไปหางานทำนอกพื้นที่ โดยไปกับนายจ้างที่เอารถตู้มารับออกไป

ส่วนนายดอน ก่อนหน้านี้เคยเห็นเข้ามาวนเวียนในหมู่บ้าน แต่ไม่เคยรู้ว่านายดอนเป็นเพื่อนกับนายบอย ยอมรับว่ารู้สึกตกใจมากที่มาทราบข่าวว่า นายบอยและนายดอนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนายนิว หลังจากนี้ หากพบตัวนายบอยและนายดอนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาเอาตัวไปดำเนินคดี ในฐานะผู้นำชุมชน อยากจะฝากบอกนายบอยและนายดอนว่าถ้าหากไม่ผิด ให้เข้าไปแสดงความบริสุทธิ์ใจกับตำรวจ หรือถ้าหากก็มาหาผู้ใหญ่บ้านได้ 24 ชั่วโมง

ทีมข่าวย้อนรอยไปตามเส้นทางป่ายางท้ายหมู่บ้าน รอยต่อระหว่างหมู่ 6 กับ หมู่ 8 เส้นทางบ้านของนายบอยและนายดอน ได้เบาะแสจากชาวบ้านที่เป็นเจ้าของร้านชำ บอกว่า เห็นนายดอนกลับเข้ามาในพื้นที่ตั้งแต่เดือนที่แล้ว เข้ามาเซ็นของที่ร้านไป 160 บาท และเมื่อ 2-3 วันก่อน ยังเห็นนายดอนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าร้านไปมา ไม่มีท่าทางมีพิรุธ

ทีมข่าวจึงโทรศัพท์ไปประสานกับนายแตง คำมุงคุณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 และตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.ดงหลวง ให้เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งจุดที่ 1 ที่ผู้ใหญ่บ้านพาทีมข่าวไปคือบ้านของพ่อแม่ของนายดอน อยู่ในทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน แต่ไม่พบตัวนายดอน เจอแต่น้าของนายดอน ให้ข้อมูลกับทีมข่าวและผู้ใหญ่บ้านว่า ตัวนายดอนกลับมาช่วยพ่อกับแม่ทำนาที่บ้านได้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ตอนกลับมาไม่ได้มีพิรุธ ถ้าไม่เชื่อให้ไปดูที่นาของแม่นายดอน

หลังจากนั้นเมื่อทีมข่าวอมรินทร์และผู้ใหญ่บ้านได้ข้อมูลกับน้าของนายดอน จึงเดินทางไปยังจุดที่ 2 บริเวณทุ่งนาของแม่นายดอน ที่อยู่ห่างจากจุดที่ 1 ประมาณ 2-3 กิโลเมตร ทีมข่าวและผู้ใหญ่บ้านเดินทางไปถึงก็พบว่ามีคนมาทำนาอยู่จริง นายดอนกำลังช่วยพ่อแม่ทำนาอยู่ แล้วรีบวิ่งไปในทุ่งนา เนื่องจากเกรงว่านายดอนจะหลบหนี เมื่อผู้ใหญ่บ้านวิ่งไปถึงตัวนายดอน เจ้าตัวไม่ได้มีท่าทางที่จะหลบหนี

นายสุเมธ คำมุงคุณ หรือ ดอน อายุ 23 ปี เปิดใจว่า ตนเองได้ไปทำงานก่อสร้างร่วมกับนายบอยที่ จ.ระยอง แต่ไปอยู่ได้แค่ 1 สัปดาห์ ก่อนจะย้ายไปทำงานจับไก่ขึ้นรถที่ จ.จันทบุรี ซึ่งการเดินทางไปทำงานที่ จ.ระยอง ตนเองไม่ได้เดินทางไปพร้อมกับนายบอย และระหว่างที่เจอกันที่แคมป์คนงาน ก็ไม่ได้เคยร่วมวงกินเหล้ากับนายบอย แล้วก็ไม่รู้จักกับคนชื่อปุ๊และนิว

จากนั้นตัวเองออกไปอยู่ที่ จ.จันทบุรี ก็ไม่เคยได้ติดต่อกับนายบอย กระทั่งวันที่ 22 มิ.ย. พ่อได้โทรศัพท์ไปหา บอกให้กลับมาช่วยทำนา ยืนยันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น ที่ไม่ได้ไปแสดงตัวกับตำรวจ เนื่องจากที่บ้านไม่มีโทรทัศน์และไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่นักข่าวมากับผู้ใหญ่บ้านในวันนี้ ก็ไม่ได้ตกใจ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด

ด้านนายเช็นทอง คำมุงคุณ อายุ 56 ปี พ่อของนายดอน บอกว่า ลูกชายกลับมาบ้านได้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ตอนกลับมาไม่ได้บอกว่าไปทำอะไรมา แล้วลูกชายก็ไม่ได้มีพิรุธ กลับมาช่วยทำนาตามปกติ ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่รู้จริง ๆ ว่าลูกชายไปทำอะไรที่ไหนกับใคร เพราะตนเองไม่มีโทรศัพท์ ซึ่งหลังจากลูกชายกลับมาที่บ้าน ก็ใช้ชีวิตอยู่แต่ในทุ่งนา ไม่ได้ออกไปไหน วันนี้จะพาลูกชายไปแสดงความบริสุทธิ์ใจกับตำรวจ ผิดถูกว่ากันไปตามกฎหมาย

จากนั้น ผู้ใหญ่บ้านได้นำตัวนายดอนมาส่งให้กับตำรวจชุดสืบสวน สภ.ดงหลวง โดยมี พ.ต.ต.พันศักดิ์ ปรัชชัยกุล สารวัตรสืบสวน สภ.ดงหลวง เป็นคนแสดงหมายจับให้นายดอนรับทราบข้อกล่าวหา แต่นายดอนยังปฏิเสธกับตำรวจ ตำรวจบอกว่า "งั้นเดี๋ยวจะเอาตัวขึ้นไปสอบสวนวิดีโอคอล ร่วมกับตำรวจภาค 2 และชุดสืบสวนของ สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง มีอะไรให้บอกมาให้หมดว่าไปทำอะไรมาบ้างที่ จ.ระยอง"

การสอบปากคำทางวิดีโอคอล นายดอนสารภาพกับตำรวจ และยังให้เบาะแสกับตำรวจว่านายบอยน่าจะหนีไปทำสวนมะนาวที่ จ.ภูเก็ต ตอนนายบอยหนีไป ไม่รู้ว่านายบอยไปอยู่ที่ไหนบ้างหลังเกิดเหตุ ตำรวจยายามบอกกับนายดอนให้พูดให้หมด "มึงรู้ดี มึงเป็นญาติกับไอ้บอย"

ตำรวจได้เค้นสอบปากคำนายดอน ประมาณ 1 ชั่วโมง จนกระทั่ง 17.00 น. นายดอนสารภาพสารภาพสิ้นกับตำรวจและทีมข่าวว่า เป็นคนร่วมกับนายบอยและนายปุ๊ ลงมือฆ่านายนิวพร้อมกับช่วยกันอำพรางศพ บอกว่า วันเกิดเหตุตนเองนั่งกินเหล้าอยู่กัน 6 คน มีตนเอง นายปุ๊ นายบอย และนายนิว คนตาย ส่วนอีก 2 คนจำชื่อไม่ได้

ตอนเกิดเหตุจำได้ว่า นายนิวเป็นคนหาเรื่องตนเองก่อนด้วยการตบหัว แล้วตนเองก็ต่อยสวนเล่น ๆ ไป กระทั่งนายนิวลุกขึ้นถีบหน้าอกตนเอง จนตนเองต้องลุกหนีไปกินน้ำ พอกินน้ำเสร็จก็ได้หยิบไม้ไผ่ที่เป็นราวตากผ้า ติดตัวกลับมาที่วงเหล้า จากนั้นพอเดินมาถึงวงเหล้า นายนิวดันหยิบไม้ขึ้นมาฟาดตนเองก่อน 1 ครั้ง จนตนเองทนไม่ไหว เอาไม้ไผ่ที่ถือติดมือมา ฟาดที่หัวนายนิวคืนไป 2 ครั้ง จนนายนิววิ่งหนีออกจากวงเหล้าล้มลงกับพื้น

หลังจากนั้น นายบอยเห็นนายนิวล้มอยู่ที่พื้น นายบอยก็เอาไม้ฟาดไปที่หัวนายนิว 3 ครั้ง แต่นายนิวยังไม่ตาย จึงเอาไม้ฟาดที่หัวครั้งที่ 4 และเอาเท้ากระทืบไปที่หน้าอกจนนายนิวแน่นิ่งไป ส่วนนายปุ๊ก็ร่วมรุมตีด้วย แต่ไม่รู้ตีตอนไหนบ้าง ซึ่งหลังจากนายนิวตายคาที่ ตนเองเป็นคนนำศพนายนิวไปวางที่กระสอบบนรถเข็น แล้วก็เอากระสอบปิดทับศพอีกที

จากนั้นพอเอาศพใส่รถเข็นแล้วนายบอยก็เอาศพที่ใส่รถเข็นอยู่ พวกท้ายรถจักรยานยนต์เอาศพไปทิ้งในคลองตามที่ปรากฏ ซึ่งตอนเกิดเหตุ ไม่รู้ว่ามีคนในแคมป์คนงานเห็นหรือไม่ โดยเมื่อจัดการอำพรางศพเรียบร้อย เช้าวันรุ่งขึ้นตนเองก็ได้ทำลายหลักฐานทำความสะอาดล้างคราบเลือดในที่เกิดเหตุ แล้วก็เดินทางไปทำงานจับไก่ที่ จ.จันทบุรี ส่วนบอยกับปุ๊ยังอยู่ที่แคมป์คนงาน แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

ตนยอมรับว่าตอนที่ผู้ใหญ่บ้านกับนักข่าวไปตามตัวที่นา ไม่รู้ว่ามาตามเรื่องอะไร อีกอย่างก็ตกใจด้วยที่ไม่ได้ตั้งตัว หากครอบครัวนายนิวฟังอยู่ก็ขอโทษด้วย ตอนเกิดเหตุตนต้องป้องกันตัว เพราะนายนิวทำร้ายก่อน ส่วนตัวไม่เคยรู้จักกับนายนิว เพราะเข้ามาทำงานในแคมป์คนงานกับนายบอย รู้แค่ว่านายบอยกับนายนิวเป็นเพื่อนกัน และตนเองก็มาเจอกันกับนายนิวครั้งแรกในวันเกิดเหตุ

ขณะนี้ตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจ สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง อยู่ระหว่างมารับตัวนายดอนที่ สภ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร กลับไปดำเนินคดี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย