ของขึ้นกลางเที่ยงวันแสกๆ !!! ยิงอาก้าสนั่นหมู่บ้านแค้นถูกเทเตรียมไปยิงสาวคนรัก ตร.บุกรวบสิ้นฤทธิ์ทั้งคนทั้งปืน แจ้งข้อหาหนัก
เหตุการณ์ใช้อาวุธสงครามยิงขึ้นฟ้าจนสร้างความตื่นตระหนกให้ชาวบ้านรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.45 น. ของวันที่ 29 มิ.ย. 2565
พันตำรวจเอกโชคดี ศรีเมืองผู้กำกับการ สภ.ท่าศาลา พันตำรวจโทนรากร เอียดช่วย รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.ท่าศาลาจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดคอมมานโดตำรวจสอบสวนกลางได้เข้าทำการตรวจสอบบ้านเลขที่ 55/5 หมู่ 5 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากได้รับแจ้งว่ามีคนใช้อาวุธปืนสงครามยิงขึ้นฟ้าบ่อยครั้ง จนสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านอย่างมาก
โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่าผู้ก่อเหตุนี้เป็นคนเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ติดตามตัวหลังจากพ้นโทษในคดีฆ่าผู้อื่น และยังมีการพัวพันยาเสพติดในพื้นที่และยังได้รับการยืนยันว่ายังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน จึงกระจายกำลังเข้าตรวจสอบและจู่โจมเข้าไปยังบ้านเลขที่ดังกล่าว สามารถคุมตัวไว้ได้ผู้ต้องหารายนี้คือ นายชาญวิทย์ หรือ "อ๊อฟ" ใจห้าว อายุ 30 ปี พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนสงครามชนิดเอเค47 หรือที่เรียกว่า อาก้า 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง จึงทำการตรวจยึดและสวมกุญแจมือ คุมตัวนายชาญวิทย์หรือ "อ๊อฟ" ทันที
เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลได้ความว่า นายชาญวิทย์ได้พ้นโทษคดีฆ่าผู้อื่นมาได้ไม่นานและกลับมาวนเวียนอยู่ในพื้นที่ท่าศาลาพัวพันกับยาเสพติดรายสำคัญถูกติดตามมาอย่างต่อเนื่อง แต่จะไปหลบอาศัยอยู่ที่อื่นในช่วงกลางวันแต่กลางคืนจะกลับมาบ้านหลังเกิดเหตุไม่บ่อยนัก เนื่องจากรู้ตัวว่าเจ้าหน้าที่กำลังติดตามก่อนที่จะจนมุมเมื่อกลางดึกที่ผ่านมานายชาญวิทย์ได้กลับมาที่บ้านอีกครั้ง จนกระทั่งในช่วงก่อนเที่ยงที่ผ่านมาได้ใช้อาวุธปืนอาก้ายิงขึ้นฟ้าหน้าบ้านเพื่อข่มขู่ชาวบ้านในย่านดังกล่าว จนกระทั่งได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวไว้ได้
ขณะที่นายชาญวิทย์สารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่าได้ซื้ออาวุธปืนอาก้ามาจากเครือข่ายยาเสพติดรายหนึ่งในจังหวัดชุมพร ราคากระบอกละ 4 หมื่นบาท
ขณะเกิดเหตุนั้นเกิดความเครียดจึงได้ยิงปืนขึ้นฟ้าเข้าใจว่าไม่มีใครกล้าแจ้งตำรวจจนกระทั่งถูกจับ ส่วนอาวุธปืนนั้นเตรียมที่จะไปก่อเหตุยิงหญิงรายหนึ่งที่ตนเองได้ไปติดพัน
หลังจากพ้นโทษได้ทุ่มเทเงินไปสร้างบ้านซื้อรถให้แต่กลับถูกบอกเลิกไม่ยอมรับโทรศัพท์ตัดขาดการติดต่อ แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก่อนที่จะไปก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายชาญวิทย์ไปตรวจหาสารเสพติดและขยายผลในส่วนของยาเสพติดและที่มาของอาวุธปืนเพิ่มเติมและได้แจ้งข้อหายิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควรข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายก่อนถูกคุมตัวดำเนิน
