สาวช้ำพบรักตร.ล็อกล้อถูกหลอกใช้หนี้สูญเป็นล้าน แฉตัวจริงผีพนันมั่วไอซ์ (คลิป)

28 มิ.ย. 65

จากกรณีวันที่ 28 มิ.ย. 65 นางสาวปลา อายุ 44 ปี เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล อ้างว่าถูกตำรวจ สน.หลักสอง ยศ ส.ต.ท. หลอกคบแล้วก่อนออกอุบายขอยืมเงิน รวมกว่า 1 ล้านบาท เพื่อไปใช้หนี้สินจากการเล่นการพนันออนไลน์และยังมีพฤติกรรมเสพยาไอซ์ด้วยนั้น

423826

ล่าสุดวันที่ 28 มิ.ย. 65 นางสาวปลา​ (นามสมมติ) อายุ 44 ปี เปิดเผยว่า เนื่องจากตนเปิดร้านขายของอยู่ในพื้นที่ของตำรวจนายดังกล่าว และถูกตำรวจนายนี้ล็อกล้อรถยนต์เป็นประจำ จึงมีความสนิทคุ้นเคยกัน และเริ่มคบหากันเมื่อเดือน ก.บ. 63 ผ่านไปประมาณ 1 ปี ตำรวจรายดังกล่าวขอให้ช่วยใช้หนี้ โดยขอยืมเงินแล้วจะใช้คืนให้ หากช่วยจะถือเป็นการขอบคุณอย่างมาก

229120

ตนจึงตัดสินใจโอนให้ครั้งละหลักพันบาท โดยแรก ๆ มีการโอนเงินมาคืนบางส่วน ต่อมามีการนำทรัพย์สินไปจำนำ รวมเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านกว่าบาท แต่เงินที่ได้คืนมาเพียง 7,800 บาท ซึ่งเป็นเงินค่าดอกเบี้ยโรงรับจำนำเท่านั้น ส่วนทรัพย์สินที่ถูกนำไปจำนำยังไม่มีการได้คืนสักชิ้น ตำรวจรายดังกล่าวอ้างว่าเดือดร้อน และมีการเล่นการพนันออนไลน์ เสพยาเสพติด มีการไปกู้เงินผ่านแอปฯทางออนไลน์ด้วย

133364416609756910

ทั้งนี้ ที่ตนให้ยืมเงิน เพราะไว้เนื้อเชื่อใจเนื่องจากมีการคบหากัน และเกิดความสงสาร ที่อ้างว่ามีเจ้าหนี้โทรมาทวงเงินครั้งละ 30,000 บาท และอ้างว่าไม่อยากทำให้แม่ผิดหวัง หากชีวิตดีขึ้นจะนำเงินมาคืนให้ ทรัพย์สินที่ตนนำไปจำนำเป็นของแม่ อาทิ เครื่องเพชร เครื่องประดับ มีการพาไปเจอพ่อแม่ญาติพี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัด หลังจากที่เคยรับปากว่าจะคืนเงินให้และตนไม่ได้เงินคืน จึงตัดสินใจไปร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชา ต้นสังกัดหลายหน่วยงานเรื่อยมา สิ่งของที่นำไปจำนำรวมตั๋วจำนำ 13 ใบ สิ่งของหลายรายการ รวมมูลค่า 380,500 บาท เมื่อไปร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด กลับบอกให้ไปคุยกันเอาเอง และไม่มีการลงโทษแต่อย่างใด โดยให้เหตุผลว่าเป็นการว่ากล่าวตักเตือนไป

883238

ส่วนทรัพย์สินของตนนั้นก็ไม่ได้คืน คิดว่านี่เรามาพึ่งตำรวจ แต่กลับกลายเป็นแบบนี้ ทำให้ต้องเดินทางมาที่ บช.น. ส่วนการร้องเรียนพฤติกรรมเสพยาของตำรวจคนดังกล่าว ทางต้นสังกัดแจ้งว่าไม่มีหลักฐานขณะเสพ ซึ่งตนยืนยันว่าเคยเห็น  ทั้งนี้อยากให้ตำรวจคนดังกล่าวออกมารับผิดชอบสิ่งตนเองทำอีกด้วย

785994

ทีมข่าวอมรินทร์ได้รับหลักฐานสำคัญจากนางสาวปลาเกี่ยวกับพฤติกรรมของตำรวจคู่กรณี เจ้าตัวสามารถถ่ายไว้ได้ขณะไปเที่ยวหากันที่ห้องพักของแฟลต สน.หลักสอง ประกอบด้วย อุปกรณ์เสพยาเสพติด ยาไอซ์ และก้นบุหรี่ในกระป๋องน้ำผลไม้ใช้แล้ว ซึ่งตั้งอยู่ภายในห้องพักของนายตำรวจคู่กรณี โดยตนสามารถถ่ายไว้ได้ขณะไปที่ห้องพัก

314101

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้รับหลักฐานใหม่ คลิปเสียงความยาว 1 นาที 50 วินาที ถูกบันทึกเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 64 ที่ห้องจราจร สน. เป็นการพูดคุยระหว่างนางสาวปลากับตำรวจคู่กรณี โดยมี รอง ผกก. อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เป็นการต่อรองให้ตำรวจคู่กรณีชำระดอกเบี้ยให้กับนางสาวปลา แต่ตำรวจคู่กรณีมีท่าทีบ่ายเบี่ยงบอกว่าจะขอเอาทองที่มีไปจำนำ แล้วจะเอาเงินดอกเบี้ยมาให้ทีหลัง

678754

ซึ่งในช่วงท้าย นางสาวปลาก็ได้มีการคำนวณยอดดอกเบี้ยที่ตำรวจคู่กรณีจะต้องจ่ายให้ตน ซึ่งเป็นจำนวนหลายพันบาท ทำให้ทางตำรวจคู่กรณีถึงกับอุทานออกมาว่า "โอ้ย ถ้าไม่จบก็ไปฟ้องเหอะไป"

656295

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยัง สน.หลักสอง เพื่อสอบถาม พ.ต.อ.วงกต สุวรรณรัตน์ ผู้กำกับ ชี้แจงเบื้องต้นเป็นข้อมูลว่าตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้ร้องเรียน ทั้งเรื่องของชู้สาว หนี้สิน หรือแม้แต่การเสพสารเสพติดตามที่ผู้ร้องเรียนอ้างไว้ ไม่ได้เพิกเฉยแต่อย่างใด เนื่องจากหลังเป็นข่าว ทางผู้ใหญ่ก็โทรมาสอบถามหลายส่วนเหมือนกัน

ส่วนเรื่องของพฤติกรรมขณะทำงาน ตำรวจนายนี้ก็ปกติเข้าเวรตรงต่อเวลา ปฏิบัติงานตามหน้าที่ ไม่ได้มีปัญหาอะไรให้น่าเป็นห่วง เพราะฉะนั้นหลังจากนี้เมื่อมีการตรวจสอบเสร็จสิ้นและได้ข้อเท็จจริงแล้วจะรีบดำเนินการส่งข้อมูลให้กับทีมโฆษกฯ เพื่อชี้แจงกับสื่อมวลชนต่อไป

255539

ทีมข่าวเดินทางมายังห้องพักของตำรวจคู่กรณี ภายในแฟลตตำรวจ ห้องปิดเงียบ ถูกล็อกกุญแจจากด้านนอก สอบถามกับเพื่อนร่วมแฟลต อย่างนายวินัย (นามสมมติ) บอกว่าตำรวจนายนี้เพิ่งจะย้ายมาทำงานได้ไม่ถึงปี แต่ดูแล้วก็ตั้งใจทำงาน พฤติกรรมดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร ผู้บังคับบัญชาชอบด้วยซ้ำ และตนก็ยังไม่ทราบข่าวที่เกิดขึ้นด้วย

ส่วนเรื่องของนิสัยส่วนตัวนั้น ตนตอบยาก เพราะปกติเวลาทำงานก็จะมีหน้าที่ต่างกัน ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน และที่แฟลตเขาก็ไม่ค่อยอยู่ห้อง เวลาได้คุยกันก็เลยน้อย แต่ดูเผิน ๆ ก็เป็นเด็กนิสัยดี เรียบร้อย ไม่ได้ก้าวร้าว ไม่เห็นว่ามีภรรยาและตนไม่ได้ข่าวว่าเขาเคยแต่งงานมาก่อน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส