ไพรวัลย์ไล่ “พระแจ้” ไปเป็นฤๅษี ปากดีบอกพุทธเจ้าไม่ใช่แม่ (คลิป)

22 มิ.ย. 65

ไพรวัลย์ อดีตพระมหาไพรวัลย์ ลั่นความคิดของหลวงพี่แจ้ หรือ “พระแจ้” ผิดจากหลักธรรมคำสอน หากคิดว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้เลี้ยงดูแล้วทำไมห่มจีวร

 

จากกรณีของพระตะวัน อิทฺธิโชโต หรือ พระแจ้ วัดน้อมประชาสรรค์ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา อดีตอาจารย์สักยันต์ที่บวชเป็นพระได้ราว 3 พรรษา และมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกันสังคมบางส่วนตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในบางกรณี เช่น พิธีรดน้ำมนต์ให้ชาวบ้าน และให้ฆราวาสทำพิธีสักยันต์ในวัด

 

พระแจ้

 

ด้านเฟซบุ๊ก คุณท้าวศรีสุวรรณภิรมย์ภักดี เผยคลิปของพระอาจารย์แจ้ที่ตอบคำถามลูกศิษย์ เรื่องมีคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นพระที่ยังหนุ่มอยู่ ยังพรรษาน้อย แต่มานั่งเสกของได้แล้วหรือ แล้วการขับเรือช่วยน้ำท่วม ทำยาแก้โควิด มาอาบน้ำมนต์ มาสักเสกเลขยันต์ เป็นกิจของสงฆ์หรือไม่

 

พระแจ้

 

พระแจ้ ตอบว่า "ถ้าถามคำถามนี้นะ ต้องย้อนถามกลับไปว่า คนที่ถามทำได้อย่างกูหรือเปล่า ถ้าเกิดมาหายใจทิ้งบนสังคมบนโลกนี้ไปวัน ๆ ก็หุบปาก เอากระจกส่องหน้ารึส่องเงาตัวเองบ้าง ติคนอื่นได้ แต่ต้องติตัวเองก่อนว่าตัวเองดีขนาดไหน เกิดมาในแผ่นดินแล้ว เหยียบแผ่นดินแล้วให้หนักแผ่นดิน ทำคุณงามความดีอะไรให้กับแผ่นดินบ้าง ถ้าทำคุณงามความดี ตอบแทนคุณแผ่นดินไม่ได้ ช่วยเหลือสังคมไม่ได้ ก็อย่าไปติใครเขาเลย ถ้ารู้มาก เขาเรียกว่าคนรู้มาก สักแต่ว่ารู้แต่กูทำไม่ได้ จริงไหม จบ ดร. ลองให้มานั่งสักยันต์สิทำได้ไหม จบปริญญาเอก ปริญญาตรี มีจิตใจอาสาช่วยเหลือสังคมบ้างไหม"

 

ด้านสังโซเชียลฯ ก็งงกับพฤติกรรมของชายห่มผ้าเหลืองที่ด่ากราดนั้นเหมาะสมหรือไม่ อีกทั้งงงว่าทำไมจบ ดร. จะต้องไปสักยันต์ ตามตรรกะดังกล่าว เนื่องจากการสักยันต์ไม่ใช่หน้าของ ดร. และก็ไม่ใช่หน้าที่ของพระด้วยหรือไม่

 

พระแจ้

 

ด้านทนายเกิดผล แก้วเกิด ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับคลิปที่พระแจ้พูดว่า "พระพุทธเจ้าไม่ได้เลี้ยงดูตัวเองมา" แต่คนพูดก็ห่มเหลืองเป็นพระสงฆ์ ในศาสนาพุทธ

 

พระแจ้

 

ด้านนายไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ อดีตพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ไลฟ์และโพสต์ถึงพระแจ้เช่นกัน นื้อหามีใจความตำหนิลูกศิษย์ของพระอาจารย์แจ้ที่จ้องแต่ถ่ายรูปคลิปขณะที่พระอาจารย์แจ้ไม่พร้อม เช่น แต่งกายไม่เหมาะสม และอวยเยินยอพระอาจารย์แจ้มากเกินไป นอกจากนี้อดีตพระมหาไพรวัลย์ยังได้ตำหนิพระอาจารย์แจ้ที่เคยพูดถึงพระพุทธเจ้าและพ่อแม่ เนื่องจากไม่สามารถนำมาพูดเปรียบเทียบกันได้

 

พระแจ้

 

นายไพรวัลย์ วรรณบุตร บอกว่า ตนเห็นว่ากรณีของพระแจ้เป็นอันตรายคึอ

 

1. เนื่องจากหลักคำสอนที่พระแจ้พูดถึงพระพุทธเจ้านั้นผิดเพี้ยนไปมาก เพราะหลวงพี่แจ้พูดว่า "เคารพพ่อแม่มากกว่าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่ได้เลี้ยงมา" โดยการพูดแบบนี้ชี้ให้เห็นว่าหลวงพี่แจ้มีวิธีคิดแบบคนนอกศาสนา ไม่ได้ศึกษาหลักธรรมคำสอน และไม่ได้ศรัทธาในพระรัตนตรัย หากหลวงพี่แจ้คิดว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้เลี้ยงดู ตนก็อยากจะให้หลวงพี่แจ้ใส่ชุดฤๅษีออกบินฑบาต ตนก็อยากจะรู้ว่าจะมีคนใส่บาตรไหม

 

พระแจ้

 

2. อาบน้ำมนต์ บางครั้งพระแจ้ทำตัวไม่เหมาะสม แต่งกายไม่เรียบร้อย แต่ลูกศิษย์ก็ยังจะดึงดันให้หลวงพี่แจ้รดน้ำมนต์ให้ ซึ่งหลวงพี่แจ้ก็ยินยอม โดยแท้จริงแล้วการรดน้ำมนต์ไม่มีในหลักคำสอนของศาสนาพุทธ

 

3. พระหลายรูปเสียเพราะลูกศิษย์ ลูกศิษย์พยายามปั้นพระให้เป็นเกจิแล้วหาเงินจากพระเครื่อง ซึ่งปัจจุบันมีอยู่มากมาย

 

พระบวชใหม่ไม่ถึง 5 พรรษา เรียกว่า "พระนวกะ" ควรมีความอ่อนน้อมถ่อมตน ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของครูบาอาจารย์ แต่ในกรณีของพระแจ้นั้นเป็นตรงข้าม โดยกรณีของพระแจ้ชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลววงการสงฆ์ เพราะพระบวชใหม่ไม่มีความรู้ในพระธรรม บวชเพียง 2-3 พรรษา กลับมานั่งปลุกเสกวัตถุมงคล พระหันตัวไปเป็นเดียร์ถีย์กันหมด (เดียร์ถีย์ หมายถึง พวกนอกรีต นอกธรรม นอกวินัย บวชอาศัยบารมีของพระรัตนตรัย ไม่สอนคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่นำลัทธิอื่นมาสอนชาวบ้าน)

 

ตนคิดว่าใครจะมีความเชื่ออะไรก็แล้วแต่บุคคล แต่เมื่อบวชแล้วก็ควรประพฤติให้เหมาะสม และศึกษาหลักคำสอนของศาสนาพุทธ โดยหากพระแจ้ยังไม่ปรับปรุงตัว ตนก็แนะนำให้สึกไปใช้ชีวิตอย่างที่อยากทำจะดีกว่า

 

ทนายเกิดผล

 

ด้านทนายเกิดผล บอกว่า การที่ตนแชร์คลิปเพราะตนนับถือศาสนาพุทธ ตนจึงอยากให้สังคมได้ตรวจสอบว่าที่พระแจ้พูดนั้นเหมาะสมหรือไม่ โดยตนอยากให้หน่วยงานที่เกิดข้อง ทั้งสำนักพระพุทธศาสนา และมหาเถรสมาคม เข้าไปตรวจสอบในประเด็นดังกล่าวว่าเหมาะสมหรือไม่ แล้วจะดำเนินการแก้ไขอย่างไร

 

ซึ่งหากหน่วยงานปล่อยให้เรื่องเงียบ สังคมก็จะได้รู้ว่าการกระทำของพระแจ้นั้นเหมาะสมแล้ว พระสงฆ์รูปอื่น ๆ ก็จะได้ทราบทั่วกันว่าสามารถพูดแบบนี้ได้

 

พระพยอม

 

พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี บอกว่า การที่พระแจ้เป็นแบบนี้ ต้องคิดถึงชาติภูมิสถาน ท่านเกิดที่อยุธยาเป็นเมืองที่มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายคน หลวงพ่อปาน หลวงพ่อจง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อกวย ถ้าเดินสายไหน ลูกไม้จะหล่นไม่ไกลต้นเหมือนพระแจ้ ชอบหลวงพ่อกวย แทนที่จะเดินตามรอยพระพุทธองค์ พุทธศาสนาต้องมีรอยเดียว แต่พระแจ้เดินตามรอยหลวงพ่อกวย องค์อื่นอย่าเอาไปเป็นหลักนำหน้า เอาไว้ด้านหลัง

 

พระเกจิอาจารย์ต้องอายุ 80-90 ปี แต่พระแจ้ดังเพราะโซเชียล อาจจะผลักดันกันจนโด่งดัง ส่วนเรื่องสักยันต์ ทำน้ำมนต์ ถ้าเป็นเรื่องไสยศาสตร์ทำแบบโบราณถือว่าใช้ได้ ก่อนให้เครื่องลางของขลัง ต้องให้ศิษย์ถือศีลก่อน อย่าด่าพ่อล่อแม่ อย่าเป็นชู้กับเมียใคร จะทำให้ของเสื่อม เป็นเรื่องอุบาย แต่ไม่รู้ว่าพระแจ้จะทำแบบนี้หรือไม่

 

การไปท้าครูบาอาจารย์ที่เป็นด็อกเตอร์มาสักยันต์แข่งกัน มองว่าเป็นกิเลส ชอบอวด ยกตนข่มท่าน สำคัญที่สุดคาดไม่รู้เพราะบวชน้อย ให้ทุกคนเรียนทำเหมือนกันหมดคงไม่ได้ ให้พระแจ้พูดภาษาอังกฤษ ตอบวิทยาศาสตร์ก็คงทำไม่ได้ ให้ด็อกเตอร์ไปสักยันต์ทำน้ำมนต์ ก็คงทำไม่ได้ แต่ถ้าทำได้ก็อาจจะไม่ทำ เพราะไม่เห็นประโยชน์ ฝากญาติโยมที่ไปสนับสนุน ระหว่างสวด สอน เสก อยากถามวาสศาสนาพุทธอยู่ในส่วนไหน อยากบอกว่า คำสอนสำคัญที่สุด ใครเอาเสกเอาสวดนำหน้ากว่าคำสอน ก็คงจะลำบาก

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส