ผัวร่ำไห้ เมียหายตัวไปนานเกือบ 20 วัน น้องสาวคาด โดนผู้ชายหลอก

19 มิ.ย. 65

ผัวร่ำไห้ ห่วงเมียเป็นครูพี่เลี้ยง หายตัวไปนานเกือบ 20 วันน้องสาว คาด โดนผู้ชายหลอก ส่วนพ่อห่วงมากวอนกลับมาหาลูกผัวอย่าไปหลงเชื่อชายอื่น

 

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 19 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเพียบ นาคคำ ครูชำนาญการพิเศษ ร.ร.บ้านสามเส้า อ.กันทรลักษ์ ได้นำนายรินทร์ณรงค์ คำศรีเมือง อายุ 48 ปี เป็นญาติทางฝ่ายภรรยา พร้อมด้วยน.ส.สุธิดา ภาระ อายุ 38 ปี นายสมัย ภาระ อายุ 75 ปี เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวว่า นางวิไลลักษณ์ คำศรีเมือง หรือ ครูอ้อย อายุ 45 ปี ซึ่งทำงานเป็นครูพี่เลี้ยงอยู่ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ร.ร.บ้านโนนหนองสิม ได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.65 ที่ผ่านมานานเกือบ 20 วันแล้ว โดยไม่ทราบว่าหายไปที่ไหน

 

ในวันแรกที่หายตัวไป น.ส.สุธิดา หรือ หมวย น้องสาวของครูอ้อยสามารถโทรศัพท์ติดต่อครูอ้อยได้ จากนั้นได้เงียบหายไปไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย นายรินทร์ณรงค์ จึงได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ดลวัตร ยืนยง ตำแหน่ง สว.(สอบสวน) ส.ภ.น้ำเกลี้ยง ภ.จว.ศรีสะเกษ พนักงานสอบสวน สภ.น้ำเกลี้ยง ไว้เป็นหลักฐานเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา โดยได้นำเอารูปภาพของครูอ้อยภรรยาสุดที่รักมากอดไว้แนบอกด้วยอาการเศร้าสร้อยเพราะห่วงใยครูอ้อยเกรงว่าอาจจะได้รับอันตราย

 

นายรินทร์ณรงค์ สามีของครูอ้อย กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.65 เวลาประมาณ 10.30 น. ตนได้บอกกับว่านางวิไลลักษณ์ คำศรีเมือง หรือ ครูอ้อย ซึ่งเป็นภรรยาของตนทำงานที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กร.ร.บ้านโนนหนองสิม ว่าจะเดินทางไปทำงานอยู่ที่บ้านหนองก่อไร่ ต.โพธิ์ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ แต่เมื่อไปถึงบ้านหนองก่อไร่ปรากฏว่ากระแสไฟฟ้าตกจึงไม่สามารถทำงานได้ ตนจึงเดินทางกลับมาที่บ้านพักเพื่อจะขับรถจยย.พ่วงข้างนำเครื่องมือกลับไปทำงานที่บ้านหนองก่อไร่

 

โดยก่อนจะเดินทางกลับไปทำงานที่บ้านหนองก่อไร่ ตนได้ขับขี่รถจยย.ไปหานางวิไลลักษณ์ที่ศูนย์เด็กเล็ก และได้รับทราบจากเพื่อนร่วมงานว่านางวิไลลักษณ์ได้เดินทางไปหาหมอ ตนจึงได้โทรศัพท์ไปยังโทรศัพท์มือถือของนางวิไลลักษณ์ แต่นางวิไลลักษณ์ไม่ยอมรับสาย แต่ตนได้รับทราบจากเพื่อนร่วมงานของนางวิไลลักษณ์ว่าสามารถโทรติดต่อกับนางวิไลลักษณ์ได้ และทราบว่านางวิไลลักษณ์เดินทางไปที่ตัวเมืองศรีสะเกษ ตนเข้าใจว่านางวิไลลักษณ์เดินทางไปหาหมอ

 

ต่อมาตนได้ทราบจากชาวบ้านว่าได้มีรถยนต์แท็กซี่ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนแล่นเข้าไปรับนางวิไลลักษณ์ที่ศูนย์เด็ก ตนจึงได้ออกติดตามสอบถามญาติและเพื่อนของนางวิไลลักษณ์แต่ก็ไม่มีผู้ใดพบเห็น ต่อมาตนได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อกับนางวิไลลักษณ์และต่อมาเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.65 จึงได้ทราบจากน.ส.สุทธิดา ภาระ หรือ หมวย น้องสาวของภรรยาตนว่าสามารถโทรศัพท์ติดต่อกับครูอ้อยภรรยาของตนได้แล้ว โดยแจ้งว่าครูอ้อยอยู่ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และ น.ส.สุทธิดาได้โอนเงินให้กับครูอ้อยจำนวนเงิน 700 บาทและตนได้รับทราบจากนางจินตนา ภาระ น้องสาวของครูอ้อยอีกคนว่าครูอ้อยได้ขอเงินซื้อโทรศัพท์มือถือและได้โอนเงินจำนวน 4,700 บาท ให้กับครูอ้อยด้วย จนกระทั่งถึงวันนี้ตนและลูกทั้ง 3 คนก็ยังไม่สามารถติดกับครูอ้อยได้และไม่ทราบว่าครูอ้อยอยู่ที่ใดเป็นหรือตายอย่างไรก็ยังไม่ทราบ

 

นายรินทร์ณรงค์ สามีของครูอ้อยกล่าวด้วยน้ำตานองหน้าต่อไปว่า ตนไม่เคยห่วงใยผู้หญิงคนไหนเท่ากับครูอ้อยภรรยาของตนที่อยู่กินกันมานานกว่า 28 ปี แล้วจนมีลูกด้วยกัน 3 คนไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งตบตีกัน เวลาโมโหกันก็จะร้องเฮ้ยคำเดียวแล้วเดินไปอยู่ในบ้านคนละแห่ง ก่อนหน้านี้ตนทราบจากครูอ้อยว่าจะทำอาชีพเสริมขายออนไลน์ โดยจะซื้อเครื่องสูบน้ำและเครื่องตัดหญ้ามาขาย โดยอ้างว่าจะมีคนมาออกทุนให้ค้าขายด้วย และการที่ครูอ้อยหายไปในครั้งนี้คาดว่าจะโดนหลอก ตนขอฝากไปถึงครูอ้อยว่าหากไปดีมีความสุขก็ไม่เป็นไป แต่หากว่าไปไม่ไหวก็ให้รีบกลับมาลูกผัวญาติพี่น้องทุกคนยังรออยู่ด้วยความห่วงใย

 

น.ส.สุธิดา ภาระ อายุ 38 ปี น้องสาวของครูอ้อยกล่าวว่าหลังจากครูอ้อยไปแล้วได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่ แล้วได้โทรกลับมาหาตนโดยก่อนที่เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ตนได้คุยกับครูอ้อยว่าจะไปทำไมไปยังไง เชื่อเขาเหรอที่เขาอ้างว่าจะทำให้ร่ำรวยมีเงินทองใช้หนี้สินต่างๆ ให้หมด แต่ส่วนมากพี่สาวของตนจะไม่คุย จะมีแต่ผู้ชายที่พาพี่สาวของตนไปเป็นคนพูดคุยแทน ผู้ชายคนที่พาครูอ้อยพี่สาวของตนไปจะคุยโทรศัพท์กับตนตลอดว่าพี่จะพาอ้อยไปเลี้ยงดูอย่างดี เมื่อพี่จะให้อ้อยกลับมาจะไม่เป็นอ้อยคนเดิม หนี้สินอะไรจะไม่มีเขาพูดไปทำนองแบบนั้นแล้วเขาก็พูดว่าจะพาอ้อยไปเที่ยว ตนคิดว่าจะใช่เหรอมีผู้ชายที่ไหนที่มารู้จักกันเพียงอาทิตย์เดียวแล้วจะพาพี่สาวตนไปเที่ยว จะใช้หนี้สินให้หมดมันเป็นไปไม่ได้ ตนจึงขอคุยกับพี่สาวซึ่งครูอ้อยพี่สาวของตนก็ได้บอกว่าเลือกทางเดินของตนเองแล้ว ตนก็ได้บอกว่าให้คิดดีๆ นะคำว่าทางเดินของตนเองคือไปไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียวจะไปยังไงตนได้พูดกับพี่สาวและร้องไห้ไปด้วยพี่สาวบอกว่าไม่ต้องร้องไห้กับเขานะ ตนเชื่อว่าครูอ้อยพี่สาวของตนโดนหลอกลวงไปอย่างแน่นอน

 

นายสมัย ภาระ อายุ 75 ปี พ่อของครูอ้อยกล่าวว่า ตนมีความเป็นห่วงครูอ้อยลูกสาวของตนมาก อยากให้อ้อยลูกสาวของตนรีบกลับมาบ้านมาหาลูกผัวมาหาครอบครัวของเรา อ้อยจะไปทำไมบ้านช่องก็มีไว้ให้แล้ว ขอให้รีบกลับมาบ้านโดยด่วนด้วยเพราะว่าพ่อและครอบครัวญาติพี่น้องทุกคนเป็นห่วงมาก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส