"ชัชชาติ" ลุยหาเสียง ขึ้นกระเช้าดูปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ โหนรถเมล์ ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ย้ำหากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาราคาระบบขนส่งทั้งหมด
เช้านี้ (18 มี.ค.62) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคเพื่อไทย พากันไปที่บริเวณห้าแยกลำกระโหลก ถนนรามอินทรา109 ตัดกับถนนปัญญาเขตคลองสามวา ซึ่งเป็น 1 ในหลาย 10 จุดที่มีปัญหาจราจรติดขัดอย่างหนัก โดยได้ขึ้นรถกระเช้าเพื่อดูภาพมุมสูง เนื่องจากบริเวณนี้ มีแยกใหญ่อยู่ถึง 4 แห่ง คิดว่า ถ้าสร้างสะพานข้ามแยก และเร่งเพิ่มส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู อีกเพียง 5 กิโลเมตร ให้ไปถึงถนนนิมิตใหม่ จะสามารถรองรับคนได้นับแสน และจะทำให้การเดินทางในพื้นที่คล่องตัวมากขึ้น ซึ่งแนวทางนี้จะบรรจุเป็นนโยบายแก้ไขปัญหาให้คนชานเมืองของพรรคเพื่อไทยด้วย
ต่อมา เวลาประมาณ 10.30 น. นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานครของพรรค ลงพื้นที่เขตบางเขน เพื่อดูเส้นทางการคมนาคมโครงข่าย โดยเริ่มจากเดินเท้าไปยังสถานีรถโดยสารบางเขน หลังจากนั้นได้ขึ้นรถเมล์ สาย 34 ที่บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต ก่อนต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสจากสถานีหมอชิตไปลงที่สถานีสยาม นาย ชัชชาติ กล่าวว่า จากการเดินทางจะเห็นว่าราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้ายังแพง และเจ้าของรถไฟฟ้ายังมีหลายบริษัท
ดังนั้นระบบการคิดค่าตั๋วในอนาคตจะมีปัญหา ซึ่งนโยบายของพรรคเพื่อไทยหากได้เป็นรัฐบาล จะรวมการบริหารจัดการเรื่องดังกล่าวให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนสูงสุด แต่ทั้งนี้ต้องไปดูเรื่องสัญญาสัมปทาน และหาวิธีดำเนินการ เพื่อให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในราคาที่เหมาะสมได้
ส่วนปัญหาเรื่องรถเมล์ ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดฝอยของคนกรุงเทพ แต่ปัจจุบันรถเมล์ยังมีปัญหาเรื่องการจัดซื้อล่าช้า ซึ่งพรรคเพื่อไทยตั้งเป้าที่จะเร่งรัดซื้อรถเมล์ให้ได้ 4,000 คัน โดยเน้นรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมองว่าควรจะซื้อรถเมล์ให้เป็น 2 ขนาด ทั้งขนาดปกติ และขนาดเล็กลง เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรในแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีนโยบายที่จะผลักดันระบบตั๋วร่วมที่ใช้ได้ทั้งรถเมล์และรถไฟฟ้า เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทางและกำหนดค่าโดยสารในแต่ละจุดไม่เกิน15-20บาท ซึ่งจะช่วยในเรื่องค่าเดินทางของประชาชนได้
