แม่แตงโมถอยไม่ยื่นศาลฟ้องคนฆ่าลูก หวั่นถูกเอาคืน เบิร์ดฉะตำรวจ สรุปมั่วฉี่ท้ายเรือ (คลิป)

10 มิ.ย. 65

จากกรณีมีรายงานข่าวว่าตำรวจไทยจะประสานตำรวจสากล ตามตัวบังแจ็ค นายราชา ไฮเดอร์ เพื่อจับกุมตัวส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนมารับทา หลังกระติกเข้าแจ้งความต่อตำรวจไซเบอร์ เนื่องจากถูกนำรูปภาพไปโพสต์ในสื่อโซเชียลฯ ทำให้เกิดความเสียหายนั้น

849549

ล่าสุด เพจ "Happy Melon official" โพสต์คลิปเสียงพร้อมข้อความว่า "ความคิดของเบิร์ดว่าแตงโมฉี่ท้ายเรือจริงหรือไม่ #EP2"

คลิปเสียงที่คาดว่าเป็นเสียง "เบิร์ด" แฟนหนุ่มแตงโม คุยกับบังแจ็ค ที่พูดเป็นภาษาไทยเกือบจะชัด สนทนาใจความบางช่วงว่า "...บอกกันตรง ๆ เลย แค่เรื่องคดีแค่นี้จบกันยังไง จบกันอุบัติเหตุ ขาดอากาศหายใจ ไอ...ไปดูโคนันกันเลย ไอ... คนตายมันต้องมีคนก่อเหตุ ถ้าไม่มีคนก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตเขาไม่ได้เป็นโรคประจำตัว มานั่งช็อกมานั่งชักตาย ไอ... คือแค่ตกน้ำเนี่ย พวก...ไม่ดูแลกันเนี่ย มันก็เกิดความประมาทแล้ว อุบัติเหตุจากการประมาทเนี่ย คือ...ไม่ให้ลงไปอยู่ในความประมาทพวก...เลย ทุกตัวเลย"

263748

วันที่ 10 มิ.ย. 65 ทีมข่าววิดีโอคอลพูดคุยกับนายราชา ไฮเดอร์ หรือ บังแจ็ค เปิดเผยว่า ตนเองทราบข่าวเรื่องหมายจับแล้ว ตนเองรู้สึกขำ ๆ ไม่ได้กลัวหรือกังวลอะไร เพราะที่สหรัฐฯการวิจารณ์เป็นไปได้อย่างอิสระ ตนไม่ได้ผิดอะไร

987605

การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน บังแจ็คถึงกับขำลั่นออกมา ระบุว่า จะจับตนส่งตัวตน ไปจับ 5 คนบนเรือก่อนไหม ผู้ร้ายตัวจริงยังไม่จับเลย จะมาจับอะไรตน ตนไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น หรือเตรียมตัวถูกจับแต่อย่างใด ตนอยากถามกลับไปที่ตำรวจไทยว่า "กระติกเป็นใคร มีอำนาจขนาดไหน ถึงต้องประสานตำรวจสากลมาจับตน คดีที่แจ้งตนเป็นคดีหมิ่นประมาท ดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ไทยแปลก ๆ"

บังแจ็ค บอกอีกว่า ตนอยากให้ตำรวจไปจัดการกับคดีอื่นที่มันร้ายแรงกว่าตนจะดีกว่าไหม อย่ามาเสียเวลากับตนเลย ตำรวจออกตัวแรงไปหรือไม่ บ้านเมืองที่ตนเองอยู่ก็มีกฎหมาย แล้วอยากจะถามต่อว่า ตำรวจบ้านตนจะส่งพลเมืองของบ้านตนไปถูกดำเนินคดีที่บ้านคนอื่น มันจะเป็นไปได้ไหม "หากตำรวจไทยจะบินมาที่สหรัฐ จะมาตอนไหน ตนเองจะไปต้อนรับถึงสนามบิน"

คดีของแตงโมยังหาคำตอบไม่ได้ตลอด 4 เดือน แต่คดีของตน กระติกแจ้งความปุ๊บ หมายจับออกปั๊บเลย มันดูแปลกจริง ๆ เหมือนตำรวจรับงานมา ตนเองเปรียบเทียบกลับกัน หากตนไปแจ้งความคนไทย และให้ประสานตำรวจสากลไปจับคนไทยมาดำเนินคดีที่สหรัฐ ตำรวจบ้านตนคงถามว่า "มึงใหญ่มาจากไหน ถึงไปจับคนสัญชาติเขา มาดำเนินคดีที่บ้านเรา" อีกทั้งมันแค่คดีหมิ่นประมาท
ส่วนตัวที่สหรัฐไม่ได้มีกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือกฎหมายที่ห้ามถ่ายภาพติดคนอื่น กฎหมายบ้าบอแบบนี้มีแต่ที่ไทยนั่นแหละ เพราะคงแปลกถ้าจะต้องโพสต์รูปแต่ภาพคนคอขาด

ส่วนเรื่องคลิปเบิร์ดคุยกับตน จริง ๆ ยังมีอีก 2 EP. ตนเองเตรียมลงคลิปอีก แค่อยากให้เห็นความคิดของเบิร์ดว่าเขาก็ปกป้องแตงโม ตนไม่อยากให้คนไปว่าเบิร์ด เบิร์ดก็เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เบิร์ดไม่ออกมา เพราะไม่อยากสู้กับหลายอย่างที่ต้องเจอ ซึ่ง EP.2 เบิร์ดจะพูดถึงการไม่เชื่อว่าจะมีการฉี่ท้ายเรือ และมองการทำงานของตำรวจ ส่วน EP.3 จะเป็นเรื่องสาเหตุที่เบิร์ดไม่ออกมาเคลื่อนไหวให้คนเห็น ซึ่งตนเตรียมจะเปิดหลังจากนี้

335014

ด้านเฟซบุ๊กของหมอธวัชชัย "Tavatchai Kanchanarin" โพสต์ข้อความ ระบุว่า "ทำไมกลัวการตรวจเส้นผม และ mitochondrial DNA? เฉลย…."

371303

และ "คดีน้องชมพู่ ตรวจ Mitochondria DNA ได้ คดีน้องแตงโม ตรวจ Mitochondrial DNA ไม่ได้ เส้นผมซึ่งไม่รู้ว่าเป็นของใคร ได้นำไปตรวจสารเสพติดอื่นๆ รวมทั้ง Clonazepam ที่น้องแตงโมกินโดยไม่รู้ตัว หรือเปล่า?
กินโดยไม่รู้ตัว แถวบ้านเรียก “โดนมอมยา”น่ะ"

465572

ด้านเฟซบุ๊ก "กฎหมายชนบท" โพสต์ข้อความระบุว่า "คันปากจังเลยยังไม่ถึงเวลาบอก ครับ..." และ "...อดทนรอสักนิดได้ไหมเอ่ยถึงอดีตผู้พิพากษาว่าจะร่างฟ้องอย่างไร ไม่ต้องห่วงหรอกครับ..."

122086

ส่วนทางด้านคดีความ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม เปิดใจกับอมรินทร์ทางโทรศัพท์ว่า เรื่องการยื่นฟ้องตรงการฆาตกรรมคนบนเรือ ส่วนตัวยังไม่ได้มีความคิดที่จะยื่นฟ้องต่อศาลโดยตรงในฐานะผู้เสียหาย แต่ประเด็นที่พูดกันนั้นเป็นเพียงการพูดกันในเชิงแสดงความคิดเห็นตอนที่มีการพูดคุยกับทาง ส.ส.เต้ และทางนายอัจฉริยะ แค่เป็นแนวทาง แต่ด้วยหลักฐานหรือข้อมูลที่ตนได้เห็น พบว่ามีแค่ภาพ คลิปเสียง ตามที่ทางนายอัจฉริยะออกมาเผยแพร่ ไม่ว่าจะเป็นคราบเลือด หรือเสียงของแตงโม ล้วนแต่เป็นข้อมูลเบื้องต้น ค่อนข้างมีน้ำหนักน้อย ไม่มีความเชื่อมโยงถึงขั้นที่ชัดเจนว่าเป็นการฆาตกรรมได้

604095

"ส่วนตัวเลยกลับมาคิดทบทวนว่าหากตนเองในฐานะผู้เสียหายเพียงคนเดียว เข้าไปยื่นฟ้องต่อศาลโดยตรง อาจจะส่งผลเสียในอนาคต ถ้าน้ำหนักของพยานหลักฐานไม่เพียงพอ อาจจะทำให้ตนติดคุกเพียงคนเดียวได้ โดยที่ไม่มีใครมาช่วย"

อีกทั้งที่ผ่านมาตนเองก็พยายามรอหลักฐานที่ชัดเจนจากทีมที่ปรึกษาของ ส.ส.เต้ และอัจฉริยะมาตลอด แต่ก็ยังไม่เห็น ทำให้ตนเองก็เครียด และคิดหนักจนนอนไม่หลับเกือบทุกวันว่าตนจะเดินหน้าต่ออย่างไร หลักฐานที่ผ่านมามีแค่หลักฐานประกอบ ไม่ได้เป็นหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอัน บางข้อมูลก็ไม่ได้ยืนยันชัดว่าเป็นการฆาตกรรม

"ตนขอยึดข้อหาในการฟ้องบุคคลบนเรือตามสำนวนที่ทางตำรวจส่งให้ทางอัยการ และทางอัยการส่งให้ศาลก่อน ก็คือข้อหาเดิมตามที่มีการเผยแพร่ข่าวออกไป ยังไม่มีเรื่องของการแจ้งข้อหาฆาตกรรมแน่นอน เพราะหากพลาดขึ้นมาใครจะเป็นคนเสียหาย ถ้าไม่ใช่ตน ซึ่งคดีดังกล่าวตนรอได้ มีเวลาอีกตั้ง 20 ปี หากศาลวินิจฉัยออกมาแล้วเราเองยังมีเรื่องเคลือบแคลงใจ ก็สามารถทบทวนเรื่องของคดีได้ ตนขอรอดูก่อนจะดีกว่า ยอมรับเครียดทุกวันลำพังตัวของคุณแม่จะอย่างไรก็ได้ แต่ในใจก็ห่วงว่าคุณแม่เองทำเพื่อน้องได้ครบถ้วนหรือยังในทางคดี"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส