กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "tan tan tan" โพสต์คลิปวิดีโอขณะ ผู้ชายทำร้ายแฟนสาวบริเวณด้านล่างคอนโด ก่อนที่เจ้าของโพสต์จะลงไปช่วยเหลือและมีปากเสียงกัน โดยมีรายงานว่าผู้ชายในคลิปคือ "เคน ลี Take me out"
วันที่ 9 มิ.ย. 65 ทีมข่าวเดินทางไปที่คอนโดฯ จุดเกิดเหตุ ย่านพระราม 9 พบว่าเป็นคอนโดหรูอยู่ติดถนน โดยพบว่า รปภ. ที่อยู่ในคลิป กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านหน้า และกล่าวสั้น ๆ ว่า ตัวเองไม่ได้ทำร้ายคนในคลิป เพราะทั้ง 2 ฝั่งเป็นลูกบ้าน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่สามารถให้รายละเอียดได้ ขอให้ไปถามทางลูกบ้านเอง
เวลา 15.00 น. ที่ สน.ดินแดง นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมด้วยทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ และนายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ นำ น.ส.ศศิมา เทียมตรี อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นพลเมืองดี และน.ส.พิรุณรุ้ง พยัคฆ์กุล อายุ 30 ปี ผู้ถ่ายคลิป เข้าพบ พ.ต.ท.โสภณ แย้มชมชื่น รองผกก.สอบสวน สน.ดินแดง เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิด
เวลา 18.00 น. น.ส.ศศิมา เทียมตรี พลเมืองดี ออกมาให้สัมภาษณ์ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลา 03.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยตนได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือเสียงดังมาก เมื่อลงไปด้านล่างก็ยังเห็นว่าผู้ชายทำร้ายผู้หญิงอยู่ โดยมือล็อกคอในตอนแรกไม่รู้ว่าทั้ง 2 คนเป็นแฟนกัน ตนก็พยายามแยก แต่ได้กลิ่นเหล้าจากทั้ง 2 คนคาดว่าน่าจะเมา
โดยเคน ลี Take me out พูดว่า "เรื่องผัวเมีย อย่ามายุ่ง" ตนจึงพูดว่า "ยิ่งเป็นแฟนกันก็ไม่ควรมาทำร้ายกัน" โดยผู้ชายพยายามผลักตนออก ด้วยความเป็นผู้ชายแรงเยอะกว่า ตนรู้สึกเจ็บ จึงพยายามป้องกันตัวตามที่เห็นในคลิป ซึ่งรปภ.ก็ยืนอยู่ในเหตุการณ์ และพยายามเข้ามาช่วยแยก แต่ไม่สามารถจัดการอะไรได้ โดยตนอยากแยกทั้งคู่ออกจากกัน เพราะสงสารผู้หญิง และทราบว่าผู้ชายไม่ใช่เจ้าของห้องจึงบอกให้ออกจากพื้นที่ไปดีกว่า แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอม ตนก็บอกว่าตื่นเช้ามาจะอาย อีกฝ่ายก็บอกว่า "ไม่อาย"
จากนั้นตนเรียกตำรวจเข้ามา เพราะอยากให้ช่วยระงับเหตุ และนำตัวผู้ชายออกจากพื้นที่ไป แต่เมื่อตำรวจมาถึงผู้ชายยังจะวิ่งมาใส่ตน หลังจากนั้นก็อาศัยช่วงชุลมุนวิ่งหนีขึ้นห้องไปทั้งผู้ชายและตัวแฟนสาว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามไปเคาะห้องให้ออกมาคุยมาเคลียร์กัน ตนรอจนถึงเวลา 05.00 น. อีกฝ่ายก็ไม่ลงมา สรุปก็ไม่ได้เคลียร์กัน
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมองว่าตนได้ช่วยคน แม้ว่าจะเป็นเรื่องผัวเมีย มองว่าตัวเองไม่ได้เป็นหมา เพียงแค่อยากช่วยคนอื่น แต่อาจคิดไม่ถี่ถ้วน เรื่องการเผยแพร่คลิป ซึ่งก็ทำไปเพราะอีกฝ่ายท้าทาย โดยการเผยแพร่คลิปตนก็ไม่กังวลเรื่องการแจ้งความ ทำไปเพราะอยากช่วยผู้หญิง ยืนยันหากเจอแบบนี้อีกก็ต้องเข้าไปช่วย
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุเมื่อวานนี้ผู้หญิงโทรศัพท์มาคุยบอกให้ตนลบคลิป เพราะกลัวพ่อแม่เห็น ไม่อยากให้พ่อแม่รู้ ตนมองว่าพ่อแม่ควรได้รู้ เพราะเป็นเหตุการณ์รุนแรง โดยตนยืนยันไม่ลบ และบอกให้มาคุยกันก่อน อีกฝ่ายบอกให้ออกไปเลย แต่ตอนนั้นดึกแล้วตนจึงไม่ออกไป กรณีการทำร้ายร่างกาย หากอีกฝ่ายจะแจ้งความตน มองว่าตนป้องกันตัวเอง และป้องกันยามด้วย
ทั้งนี้ น.ส.ศศิมา ได้ส่งภาพของผู้หญิงที่ถูกทำร้ายซึ่งมีรอยช้ำที่คอเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีคลิปเสียงที่ฝ่ายชายโทรศัพท์มาคุยกับ น.ส.ศศิมา ขอให้ลบคลิป อ้างว่าตัวเองไม่กังวล เพราะเคยมีข่าว แต่ภาพที่เผยแพร่ออกไปเป็นการทำร้ายแฟนสาวให้เสียชื่อ ฝั่ง น.ส.ศศิมา จึงตอบไปว่า คนที่ทำร้ายผู้หญิงคือตัวแฟนหนุ่มเอง ไม่ใช่คนที่ช่วยเหลือ
ด้านนายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ กล่าวว่า ส่วนของคดีพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง ฝั่งใดเสียหายก็มีสิทธิ์แจ้งความ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน โดยการที่คู่กรณีประสงค์ดำเนินคดีก็เป็นสิทธิ์เรื่องการเผยแพร่คลิป และทำร้ายร่างกายก็ต้องดูพยานหลักฐานว่ามีการยั่วยุหรือไม่ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็เป็นการสมัครใจวิวาท ก็เปรียบเทียบปรับกันไป
การเข้าไปช่วยเหลือ เป็นการระงับเหตุที่มีความผิดซึ่งหน้า ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถทำได้ ก็ต้องมาเทียบเคียงพฤติกรรมว่าการต่อสู้เป็นการป้องกันตัวหรือไม่ โดยทางพลเมืองดีก็มีข้อต่อสู้เช่นกัน เชื่อว่าสังคมรู้ว่าจะตัดสินอย่างไร จากพฤติกรรมที่เกิดขึ้น เพราะดูจากคลิปใครเห็นเช่นนั้นก็ต้องเข้าไปช่วย
เบื้องต้น ประสานไปทางคู่กรณีแล้ว ตนได้รับการประสานเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย แต่คู่กรณียังไม่ประสงค์ไกล่เกลี่ยก็เป็นสิทธิ์ ซึ่งส่วนตัวก็อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้คุยกัน เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะดำเนินคดี เพราะพลเมืองดีก็พร้อมที่จะพูดคุยขอโทษ หากมีการกระทำที่ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ ตอนนี้ทราบว่าอีกฝ่ายกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเข้ามามอบให้พนักงานสอบสวน คาดว่าเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย
ด้าน กัน จอมพลัง กล่าวว่า ทุกคนมาช่วยกันเพราะ น.ส.ศศิมา เป็นพลเมืองดี ก็อยากให้ไกล่เกลี่ยกัน แต่หากคู่กรณีคิดว่าจะไม่พูดคุย ตนก็พร้อมจัดตั้งทนายเพื่อสู้คดีให้กับ น.ส.ศศิมา อย่างเต็มที่
ด้าน น.ส.พิรุณรุ้ง พยัคฆ์กุล อายุ 30 ปี ผู้ถ่ายคลิป เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนอยู่บนห้องกับ น.ส.ศศิมา พลเมืองดี ขณะนั้นได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน และเห็นภาพว่าผู้หญิงถูกผู้ชายลากไปตามพื้น จึงตัดสินใจลงไปช่วย เมื่อลงไปถึงพบว่าผู้ชายกับผู้หญิงยังมีปากเสียงกัน ตนกับเพื่อนจึงพยายามห้าม โดยตนเป็นคนถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งมากเพราะกลัว แต่เพื่อนไม่กลัวพยายามเข้าไปช่วยผู้หญิงเต็มที่
หลังเกิดเหตุก็ยอมรับว่าตัวเองกลายเป็นหมา เพราะอีกฝ่ายกลับไปคืนดีกัน ตนก็เข้าใจว่ามีแรงกระแทกตามมา แต่ดีใจที่อย่างน้อยได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพราะกลัวว่าผู้หญิงจะตายต่อหน้า มองว่าตัวเองดีที่สุดแล้ว สุดท้ายหากจะมีผลร้ายแรงตามมาก็พร้อมยอมรับ ส่วนเรื่องการถ่ายคลิปและเผยแพร่ เชื่อว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้ว วันข้างหน้าไม่มีอะไรต้องกลัว
ทั้งนี้ ยอมรับว่า หากมีแรงกระแทกมากกว่านี้ ต่อไปหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกก็จะไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะคนที่ช่วยเหลือกลับได้รับผลที่ไม่ดี โดยในทางกฎหมายตนไม่รู้ว่าตัวเองผิดหรือไม่ แต่ในความรู้สึกตนรู้สึกสงบ เพราะได้ช่วยเหลือคนอื่น หากตนทำอะไรที่ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ ตนก็พร้อมจะขอโทษ และไกล่เกลี่ย
สำหรับ เคน ลี เคยออกรายการดัง Take me out โดยเป็นรายการคัดเลือกสาวโสด หนุ่มโสด ก่อนที่จะมีเป็นข่าวดังครั้งนี้
